เชื้อไวรัส เฮชพีวี (HPV) ที่ไม่ควรมองข้าม


โรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ "มะเร็งปากมดลูก"

     วันนี้ได้รับ e-mail จากอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นบทความที่มีประโยชน์คัดลอกมาจากนิตยสาร Real... Opps!! เลยนำมาแบ่งปันให้รับทราบกัน ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านใน G2K คะ อาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่ได้ความรู้ดีทีเดียวคะ...

        " ชั้นไปพักผ่อนกับเพื่อนที่เกาะเสม็ด หลังจากกลับมาได้ไม่นาน เริ่มมีอาการคันและมีตุ่มใสๆขึ้นที่อวัยวะเพศ หมอบอกว่าชั้นติดเชื้อไวรัส "เอชพีวี" ถ้าไม่รักษาให้หาย จะทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ หมอบอกว่า...ชั้นอาจจะติดเชื้อไวรัสมาจากการใช้ห้องน้ำรวมที่สกปรก"

        จากสถิติทางการแพทย์ระบุว่า...โรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ "มะเร็งปากมดลูก" ในเวลา 24 ชม. ผู้หญิงไทยเสียชีวิตด้วยมะเร็งปากมดลูกถึง 9 คน ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคนี้ถึง 6,000 ราย ต้นเหตุเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เกิดจากไวรัสที่ชื่อว่า "เอชพีวี" (Human Papilloma Virus)

         "จี๊ด" หญิงสาวที่ได้รับเชื้อไวรัสตัวนี้มาโดยไม่ทันระวังและไม่ได้ป้องกัน เธอเล่าประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำ แต่มีประโยชน์สำหรับผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการรับเชื้อไปโดยไม่รู้ตัว

        วันหยุดสุดสัปดาห์ ชั้นกับเพื่อนๆไปพักผ่อนกันที่เกาะเสม็ด เพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ไปพักที่รีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งของอ่าวไผ่ เพราะครึกครื้นเหมาะสำหรับการพักผ่อนและปาร์ตี้ คืนนั้นเป็นคืนวันเสาร์ ชั้นเลือกนั่งในบาร์แถวนั้น นั่งดื่มไปได้สักพัก ชั้นก็เริ่มปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำจึงหยิบกระดาษทิชชูที่โต๊ะและเดินไปห้องน้ำหลังร้าน เมื่อเห็นสภาพห้องน้ำก็แทบจะหันหลังกลับ เพราะห้องน้ำสกปรกมาก เป็นส้วมซึมเก่าๆ เหมือนไม่ได้ทำความสะอาดมาเป็นปี มีกระป๋องสังกะสีผุๆใช้สำหรับรองน้ำพื้นห้องน้ำนองไปด้วยน้ำขังและมีเศษกระดาษทิชชูที่ใช้แล้วซึ่งเต็มจนล้นออกมานอกถังขยะ ตอนแรกชั้นคิดจะเดินไปใช้ห้องน้ำที่ห้องพัก แต่ด้วยความที่ปวดมากและเดินไปที่พักก็มืดและเปลี่ยว จึงตัดใจหลับหูหลับตาเข้าไป เอาผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกและราดน้ำหลายๆครั้ง พอเสร็จธุระก็ไม่ลืมที่จะล้างมือให้สะอาด

        คืนนั้นชั้นนั่งดื่มกับเพื่อนอย่างสนุกสนานจนถึงขั้นเมามาย เข้าห้องน้ำหลายรอบมากๆ แรกๆก็ถือทิชชูไปด้วยทุกครั้ง แต่พอดึกๆทิชชูที่โต๊ะก็เริ่มหมดและด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ทำให้สติสัมปชัญญะเริ่มหาย อย่าว่าแต่หาทิชชูเลย แค่เดินให้ตรงยังลำบาก เปิดห้องน้ำได้ก็เข้าทันทีโดยไม่ได้ราดน้ำ คืนนั้นชั้นและเพื่อนๆ นั่งดื่มกันจนถึงตีสองกว่า พอตื่นเช้าขึ้นมาก็มึนหัวมากๆ เราพักอยู่ที่เสม็ด 1 คืน และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ตอนเที่ยงวันอาทิตย์

        หลังจากกลับจากเสม็ดประมาณหนึ่งสัปดาห์ ชั้นเริ่มมีอาการคันและมีตุ่มใสๆขึ้นที่อวัยวะเพศประมาณ 2-3 เม็ด พี่สาวแนะนำให้ไปหาหมอ ตอนแรกชั้นอายมากไม่ยอมไป ไม่กี่วันตุ่มใสๆก็เริ่มแตกและลามไปทั่ว ทำให้แสบและคันมากๆจนทนไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องยอมไปหาหมอ พอไปถึงคุณหมอให้ชั้นขึ้นขาหยั่ง ตอนนั้นอายมากๆ พอคุณหมอตรวจดูอยู่ได้ซักพัก ก็บอกว่าชั้นติดเชื้อไวรัส "เอชพีวี" และยิงคำถามแรกใส่ชั้นว่าช่วงนี้ได้มีเพศสัมพันธ์มั๊ย? ชั้นตกใจและรีบปฏิเสธทันที เพราะชั้นไม่มีแฟนมาเป็นปีๆแล้ว ประเด็นการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์จึงตกไป และคุณหมอก็ถามต่อว่าการดูแลสุขอนามัยเป็นยังไง ความสะอาดของกางเกงชั้นใน เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยรึเปล่า เข้าห้องน้ำแล้วล้างมือมั๊ย ได้ไปเข้าห้องน้ำสาธารณะที่ไหนรึเปล่า คุณหมอซักถามแบบละเอียดยิบ ซักพักชั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนไปเข้าห้องน้ำที่เกาะเสม็ดมา คุณหมอจึงสันนิษฐานว่า...อาจติดเชื้อจากตรงนั้นและเวลาหนึ่งอาทิตย์ก็เป็นเวลาฟักตัวของเชื้อพอดี คุณหมออธิบายให้ฟังคร่าวๆว่า เชื้อไวรัส "เอชพีวี" พบได้ทั่วๆไปสามารถติดต่อได้ง่ายมากและติดเชื้อได้ซ้ำๆหลายๆครั้ง แต่ถ้าติดเชื้อแบบเรื้อรังจนฝังตัวอยู่ในเซลล์ของปากมดลูก อาจจะพัฒนาไปสู่การเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ผู้หญิงบางคนเข้าใจแบบผิดๆว่า โรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากกรรมพันธุ์ และสามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่จริงๆแล้วเพียงแค่สัมผัสบริเวณอวัยวะเพศ ก็สามารถติดเชื้อได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น การจับลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ สายฉีดล้าง หรือผู้หญิงที่ชอบส่กางเกงขาวยาวลากพื้น หากเข้าห้องน้ำหรือส้วมสาธารณขากางเกงอาจจะลากเอาเชื้อ "เอชพีวี" ติดมาด้วย และหากเอามือไปจับต้องแล้วไปจับผ้าเช็ดตัว กางเกงขั้นในหรือสิ่งอื่นๆที่ต้องไปสัมผัสกับอวัยวะเพศ ก็เสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชพีวีได้แล้ว

         พอฟังคุณหมอพูดจบชั้นตกใจมากๆ และกังวลแทนผู้หญิงอีกหลายคนที่ไม่ทราบเรื่องนี้ คุณหมอให้ยากินฆ่าเชื้อ ยาทา น้ำยาล้างอวัยวะเพศและน้ำยาล้างมือ โดยให้ใช้ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ แล้วรอดูอาการ 2 อาทิตย์ค่อยกลับมาห้คุณหมอดูอีกครั้ง ระหว่างนั้นจะเข้าห้องน้ำแต่ละทีก็ยุ่งยากมาๆ พอเสร็จกิจต้องล้างมือด้วยน้ำเปล่าก่อน จากนั้นล้างอวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่า แล้วล้างมือด้วยน้ำยาล้างมือ แล้วค่อยกลับมาล้างอวัยวะเพศอีกครั้งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วเช็ดให้แห้งก่อนจึงใส่กางเกงใน จากนั้นก็ออกมาล้างมืออีกรอบ เมื่อก่อนชั้นใช้เวาเข้าห้องน้ำไม่เกินหนึ่งนาที ตอนนี้กลายเป็นเกือบ 10 นาที 

        "ชั้นรกษาแบบนี้อยู่นานเป็นเดือน ทรมานมาๆ ทั้งคัน ทั้งเจ็บ เวลาตุ่มใสๆแตกจะเป็นแผลแสบมากๆ นั่งก็เจ็บ ใส่กางเกงยีนส์ก็ไม่ได้ ต้องใส่กระโปรงตลอด ตอนใช้น้ำยาฆ่าเชื้อล้างอวัยวะเพศก็แสบและทรมานมากๆ"

        ตลอดเวลาที่รัษา ชั้นทำตามคำแนะนำของคุณหมอย่างเคร่งครัด รักษาสุขอนามัยอย่างดีเยี่ยม ไม่นานอาการก็เริ่มดีขึ้นและหายเป็นปกติ ตอนนี้ชั้นเลยกลายเป็นคนที่รักความสะอาดมาก เวลาไปไหนมาไหนต้องมีสเปรย์ฆ่าเชื้อและน้ำยาล้างมือติดกระเป๋าตลอด และจะหลีกเลี่ยงการใช้ห้องน้ำสาธารณะที่สกปรกโดยไม่จำเป็น จนเพื่อนๆตั้งฉายาให้ว่าเป็น "คุณนายสะอาด"

         เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ชั้นได้เรียนรู้ว่า...ความประมาทและมักง่ายเพียงครั้งเดียวอาจนำไปสู่โรคร้าย ที่คร่าชีวิตเราได้แบบไม่ทันตั้งตัว อยากฝากถึงคุณผู้หญิงทั้งหลายว่า การรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเป็นเรื่องที่สำคัญ "แค่เข้าห้องน้ำก็ทำให้คุณติดโรคได้แล้วคะ"

         อ่านบทความแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ อย่างน้อยก็ทำให้เราทราบว่าโรคภัยบางอย่างก็อยู่ใกล้ตัวเราได้อย่างคาดไม่ถึงจริงๆคะ

หมายเลขบันทึก: 193056เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2008 13:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 12:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • ตามมาดู
  • ตื่นเต้นๆๆที่พบน้อง
  • ตอนนี้กลับมาอยู่ที่เกษตรศาสตร์แล้วครับ
  • การใช้ที่สาธารณะรวมกัน
  • บางที่ต้องระวังเหมือนกันนะครับ
  • สบายดีไหมครับ

เอ น่าจะเป็น HSV หรือเปล่าครับ

( Herpes simplex virus )

- พี่แอ๊ดไว้มีโอกาสไปทานข้าวกันนะคะ

- ขอบคุณประจักษ์ที่เข้ามาทักทาย

- ขอบคุณคุณหมอรักษ์พงศ์สำหรับคำแนะนำคะ จากอาการที่เขาเป็นอาจมีสาเหตุที่เกิดจาก HSV ได้คะ แต่จากคำวินิจฉัยของหมอที่ปรากฎในบทความเป็นเช่นนั้นเลยคัดลอกออกมาให้ทราบกันคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท