ปัจจุบันสื่อด้านการศึกษา ที่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีมีเกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยส่วยใหญ่ได้รับการพัฒนาให้มีระบบหรือกระบวนการทำงานที่ทำให้ผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อนั้นได้โดยตรง เพิ่มความสะดวกด้านเวลา สถานที่ ตลอดจนมีประสิทธิภาพทัดเยมกับของจึง พร้อมทั้งเสริมสร้างความแปลกใหม่ที่เร้าความสนใจในการเรียนรู้ หรือศึกษามากยิ่งขึ้น จะสังเกตได้ว่าสื่อเทคโนโลยีที่มีเผยแพร่ในสังคมการเรียนรู้ของไทยในปัจจุบัน บางสิ่งบางอย่างหลายคนอาจจมองว่ามีคุณสมบัติที่เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วเทคโนโลยีแต่ละประเภทจะมีความเหมือนกันในบางส่วนหรือ อาจจะเรยกว่าคล้ายกัน จึงไม่ถือว่าเหมือนกัน ซึ่งข้าพเจ้าจะขออธิบายลักษณะของเทคโนโลยีแต่ละประเภทเพื่อเปรัยบเทียบความแตกต่าง ดังนี้
1. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction )I มีการจัดทำเนื้อหาเป็นเรื่อง ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามความสะดวทั้งด้านเวลาและสถานที่ โดยต้องมีคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญ ผู้เรียนสามารถนำไปศึกษาได้ทุกที่ที่มีอุปกรณ์เอื้ออำนวย และอาจจะศึกษาด้วยเอง หรือศึกษาพร้อมกันร่วมกับผู้อื่นได้ ขณะเรียนรู้ผู้เรียนจะได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมในบทเรียนเพื่อเป็นการฝึกทักษะไปด้วย เมื่อเรียนจบเรื่องจะมีการประเมินผลสัมฤทธ์ทางการเรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบว่าตนเองเรียนรู้ได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของเนื้อหาเรื่องนั้นหรือไม่ หากไม่เข้าใจก็สามารถเริ่มต้นศึกษาเพื่อทบทวนได้ด้วยซึ่งถืว่าเป็นจุดเด่นของสื่อนี้ แต่ข้อเสียคือผู้เรียนไม่สามารถซักถามข้อสงสัยของตนเองเกี่ยวกับเนื้อหาได้
2. บทเรียนออนไลน์ Web-based training (WBT) มีลักษณะการจัทำและการใช้คล้ายกับ CAI แต่มีความแตกต่างกันในส่วนของอุปกรณืที่ประกอบการนำไปใช้ เพราะ WBI เป็นการเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต หากไม่มีระบบอินเทอร์เน็ตก็ไม่สามารถศึกษาได้ ส่วนดีซึ่งต่างจาก CAI คือ ผู้เรียนสามารถถามปัญหาจากผู้สอนได้โดยการเขียนปัญหาไว้ในห้องสนทนา แต่อาจจะไม่ได้รับคำตอบในทันที
3. สารานุกรม Encyclopedia มีการจัดทำเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องไว้หลากหลาย ผู้เรียนสามารถเลิอกศึกษาได้ตามหัวข้อที่สนใจ และอาจมีกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ร่วมกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ หรือแสดงความคิดเห็นตามความคิดของตนเอง ผู้ศึกษาจะสามารถศึกษาหรือสร้างจินตนาการตามความคิดออกตนเองและทดลองศึกษาได้ ซึ่งการศึกษา สารานุกรมนี้จะมีวิธีการนำเสนอเนื้อหาที่ดึงดูดความในใจของผู้เรียนได้มาก
4. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีเนื้อหาสาระเหมือนหนังสือจริงทุกประการ แต่การใช้หรืออ่านผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับการเข้าใช้ในแต่ละครั้ง คือ จะไม่สามารถใช้ซ้ำหรือใช้หน้งสือเล่มเดียวกันพร้อมกันได้ และหากมีคนดำเนินการจองหนังสือไว้แล้วคนอื่นก็ไม่สามารถเข้าไปอ่านได้ ความสะดวกที่มีคือไม่ต้องพกพา และบางเล่มอาจมีการจัดทำระบบวิดีทัศน์ประกอบคำอธิบายไว้ด้วย
5. วีซีดี หรือวีดีทัศน์ เป็นการบันทึกเนี้อหาสาระของเรื่องต้าง ๆไว้ในวีซีดี หรือ วีดีโอ แล้วนำมาให้ผู้เรียนได้ศึกษาวึ่งจะเป็นการเห็นภาพจริงมิใช่เพียงการฟังคำอธิบาย และสามารถเรียนรู้ลักษณะของสิ่งต่าง ๆ ได้ตามสภาพจริงโดยไม่ต้องเดินทางไปศึกษาด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการเช่นนี้ปัจจุบันค่อนข้างจะลดความนิยมลงไปมากพอสมควรเนื่อจากมีเทคโนโลยที่สามารถถ่ายทอดเนื้อหา และสร้างความสนใจได้มากกว่าเกิดขึ้นมากมายยิ่งขึ้น
ดังนั้นจึงถือว่าเป็นความแปลกใหม่ทางเทคโนโลยีที่มีการนำระบบการทำงานหลาย ๆ ระบบมาเชื่อมต่อกัน หรือผสมผสานการทำงานของเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนใจในการเรียนรู้ และสร้างองค์ประกอบการอธิบายเนื้อหาที่หลากหลาย ซึ่งเสมือนการกระทำกิจกรรมหลาย ๆอย่าง หลาย ๆ สถานที่ในเวลาเดียวกัน ซึ่งถ้าหากมีการทำจริงข้าพเจ้าคิดว่า สิ่งที่จะเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการเรียนรู้คงมีมากมาย สุดท้ายก็จะหมดความพยายามที่จะเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ได้ครบหรือทัดเทียมกับการได้ศึกษาจากสื่อเทคโนโลยีตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้ว จะเห็นได้ว่าการศึกษาของประเทศไทยในปัจจุบันมีการพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว ความสะดวกในการศึกษาหรือเรียนรู้มีมากขึ้น บุคคลสามารถเรียนรู้ได้อย่างอิสระ ( ในความคิดเห็นของข้าพเจ้ามองว่าแม้การเรียนรู้ของบุคคลจะพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว แต่สังคมความเป็นอยู่ก็ยังคงหนีไม่พ้นความแตกต่างของบุคคล หากบุคคลมีการศึกษาที่พัฒนาดี แต่ขาดความเอื้ออารีทางสังคม สภาพของสังคมไทยก็อาจจะถูกทำลายไปพร้อมกับความเจริญทางด้านเทคโนโลยที่จะเข้ามาแทนที่ สังคมที่ด้อยโอกาสก็จะขาดความสนใจจากผู้ที่เต็มไปด้วยความสามารถ ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับวัยเด็ก ก็ยิ่งจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น สุดท้ายความเจริญก้าวหน้าก็จะแปรเปลี่ยนไปอย่างไม่ยั่งยืน สุดท้ายความขมขื่นอาจจะเกิดขึ้นในสังคมได้โดยที่ยังไม่มีใครระวังตัว ที่กล่าวมามิได้กลัวความตายนะคะแต่กลัวความวุ่นวายของสังคมที่ยากจะหาหมอมาเยียวยาได้นะคะ....ที่กล่าวมาแค่แสดงความคิดเห็นในฐานะครูไทย ที่ไม่ได้สนใจแค่พัฒนาความรู้ แต่รวมถึงการพัฒนาตัวตนของความเป็นครูที่แท้จริงคะ )
อ.สบายดีเหรอค่ะ เห็นอ.แล้ก็คิดถึง
หนูคิดถึงอาจารย์จังเลยค่ะ อาจารย์สบายดีมั้ยค่ะ
อาจารย์เป็นยังไงบ้างค่ะ
ตอนนี้อาจารย์สอนอยู่ที่ไหนแล้วค่ะ
หนูยังรักและเคารพอาจารย์เสมอนะค่ะ
คำสอนของอาจารย์หนูได้เอามาใช้แล้วนะค่ะ
หนูรักอาจารย์ค่ะ