kong
นาย ก้องเกียรติ เติมเกษมศานต์

การรักษาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท โดยการผ่าหลัง (4)


     เรื่องเล่าเมื่อแม่ผ่าหลัง  เล่าเพื่อเป็นประสบการณ์สำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง และเป็นโรคกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท  ติดตามเรื่อง การรักษาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท โดยการผ่าหลัง  (1) เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาการของโรค และ การรักษาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท โดยการผ่าหลัง  (2) เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผ่าตัด  และ การรักษาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท โดยการผ่าหลัง (4) เป็นเรื่องอาการหลังผ่าตัด 

      สำหรับบันทึกนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาการหลังการผ่าตัดครับ

         วันที่ 4 หลังผ่าตัด น้องสาวที่เป็นพยาบาล มาช่วยดูแลแม่ ซึ่งทักษะของพยาบาลจะดีกว่ามาก ๆ  มีการเปลี่ยนท่านอนให้ ไปซื้อหมอนรองหลังและก้นมาให้เพิ่มอีก ตอนนี้ก็คิดว่าแม่คงสบายดีแล้ว รอการฟื้นตัวเท่านั้น ผมกับน้องชายเลยของกลับบ้านไปก่อน ซึ่งในวันต่อไป จะมีน้องชายที่เป็นวิศวกร มาอยู่เป็นเพื่อนน้องสาวต่อด้วย

         แม่อยู่โรงพยาบาลทั้งหมด  14 วันครับ ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลแม่ต้องไปหัดเดินด้วย เริ่มประมาณวันที่ 7 ซึ่งแม่ก็เดินได้โดยใช้ Walker 4 ขาช่วยพยุง ในวันที่ 5 พยาบาลเริ่มเลิกให้ใช้ยาแก้ปวดทางเส้นเลือดที่คนไข้กดปุ่มให้ยาได้ด้วยตัวเอง แม่เริ่มมีอาการปวดแผลที่หลัง ต้องการกินยาแก้ปวดเพิ่มมากขึ้น

         ในวันที่ 14 (ความจริงอาจารย์จะให้กลับบ้านตั้งแต่วันที่ 7 แล้ว แต่ที่บ้านกลัวจะไม่สะดวก และต้องเดินทางไกล จึงขออยู่ต่ออีกเพื่อให้สามารถนั่งรถไกล ๆ ได้) แม่อาการปวดหลังยังมีมาก แต่ก็สามารถที่จะนั่งรถกลับมาบ้านได้ (ระยะทางประมาณ 500 กม.) ผมกับน้องชายไปรับ โดยปรับพับเบาะหลัง แล้วปูเบาะให้แม่ขึ้นมานอน ระหว่างทางแม่ปวดแผลตลอดเวลา แต่ก็พยายามทนจนถึงบ้าน กลับบ้านแล้วแม่รู้สึกสดชื้นมากขึ้น  จากที่เคยนอนชั้น 2 ต้องกลับมานอนชั้นล่าง (ผมและน้องได้เตรียมการสร้างห้องนอนด้านล่างไว้เป็นปีแล้ว แต่แม่ไม่ยอมลงมานอน เพราะไม่เคย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แม่นอนข้างล่าง)

          หลังกลับมาที่บ้าน มีคนมาเยี่ยมแม่มากมายไม่ว่าจะเป็นงานศูนย์ข้อมูล , กลุ่มการพยาบาล  เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไพสาลี เพื่อนร่วมงานห้องฟัน เพื่อนร่วมงานที่คลินิก พี่เป๋งและหมอกิติ  ทุกครั้งที่คนมาเยี่ยมแม่จะรู้สึกดี แต่เมื่ออยู่คนเดียวแม่จะเริ่มเหงา เพราะลูก ๆ ต้องไปทำงานกันหมด ของก็ยังขายไม่ได้  น้องสาวเลยลองโทรไปหาญาติฝ่ายแม่ พอดีมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งสนิทกันยินดีที่จะมาดูแลแม่ให้ ก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง

         ในระหว่างอาทิตย์ที่ 3 แม่เจ็บที่ข้อเท้า พี่ ๆ พยาบาลบอกว่าอาจเนื่องมาจากตอนนอนผ่าตัดต้องนอนคว่ำหน้า และเท้าต้องบิดเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ทำให้อาจมีผลว่าเจ็บได้ ใช้ยาทาแก้ปวดก็จะเบาเทาอาการลงได้  ในช่วงนี้แม่ดื้อปีนขึ้นบันไดไป 5 ขั้นเพื่อไปเอาของใช้ส่วนตัวที่ที่พักบันได ขาขึ้น  ขึ้นได้ แต่ขาลงลื่นตกลงมา ปรากฏว่าหน้าข้างขวาบริเวณรอบตาบวม และเขียว และแม่ก็บอกว่าต่อไปนี้นะไม่ขึ้นไปอีกแล้ว

          หลังทำ 1 เดือน แม่ยังเดินได้ไม่ดีต้องใช้ Walker เหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคืออาการซึมเศร้า เนื่องจากยังเดินไม่ได้ และไม่ค่อยมีเพื่อนคุย (ลูกพี่ลูกน้องกลับบ้านไปแล้ว) ถึงแม้ว่าจะหาลูกจ้างมาช่วยขายของ (ซึ่งลูก ๆ ต้องยอมให้ขายของต่อ เพราะกลัวแม่เหงา แต่ขายไม่ดีเนื่องจากของมีไม่มาก และปิดร้านบ่อย) แม่แก้อาการเหนื่อยและเหงาด้วยการนอนตลอดเวลา กินน้อยลง และไม่ค่อยพูด

              ตอนนี้หลังเกือบ 2 เดือน แม่เดินได้ดีขึ้น แต่ยังเหนื่อยมากเวลาเดิน (แม่มีความดันสูง และหัวใจโต) นอนตลอดเวลา ทำให้ตอนนี้พบแผลกดทับ บริเวณสะโพก ด้านซ้ายและขวา ก็บอกแม่ว่าให้ลดจำนวนการนอนลง หากิจกรรมทำมากขึ้น และนอนบนเบาะที่นอน อย่านอนบนไม้กระดานเปล่า ๆ  แต่แม่ก็ยังนอน ๆ ๆ ๆ  ถามแม่ว่าง่วงหรือ แม่บอกว่าไม่ง่วง แต่ขึ้เกียจนั่ง  คงต้องรออีกระยะหนึ่ง ให้แพทย์ลอยาลง เพื่อลดอาการข้างเคียงจากยาที่ทำให้ง่วงนอนลงไป 

          อาการภายหลังผ่าตัดจะนำมาบันทึกอีกเมื่อมีโอกาสครับ

          ขอบคุณครับ            

หมายเลขบันทึก: 192633เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2008 13:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 00:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • สวัสดีค่ะ กำลังสนใจเรื่องนี้อยู่พอดีเลย ขอโพสต์ไว้ก่อนนะคะ อ่านแล้วจะเข้ามาแลกเปลี่ยนอีกที 
  • ขอบคุณค่ะ  

พ่อก็เป็น คิดว่ากระดูกเสื่อมด้วย lumba ที่ 4-5 จำไม่ได้แล้ว shoping doctor ไปเรื่อย กลัวไม่อยากผ่าตัด ไม่รู้จะช่วยแกอย่างไรดี 3-4 ปีแล้ว

  • แวะมาเป็นกำลังใจให้คุณแม่ค่ะ
  • คุณแม่พี่ก็เป็นโรคนี้ค่ะ
  • แต่คุณหมอที่ศิริราช บอกว่าผ่าไม่ได้
  • สงสารทั่นที่ต้องกินยาโรคกระดูกเป็นกำๆ
  • เดินเหินก็ไม่สะดวก เป็นโรคที่พบมาขึ้นกับผู้หญิงทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ
  • มาให้กำลังใจอีกแรงค่ะ
  • + เติมพลังใจเต็ม 100 ให้คุณแม่ด้วยค่ะ
  • ประทับใจ และอนุโมทนาสำหรับลูกๆ ของคุณแม่นะคะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่หายเร็วๆ และมีความสุขค่ะ
  • (ฝากบอกคุณแม่ว่า คนที่g2k รู้จักคุณแม่เยอะแยะ และคอยให้กำลังท่านด้วย คุณแม่ไม่ต้องเหงานะคะ)
  • สู้ สู้ค่ะ   
  • ขอบคุณทุก ๆ ท่านครับผม
  • การผ่าตัดไม่น่ากลัวครับ แต่การพักฟื้นหลังผ่าตัดเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เพราะอาจารย์บอกว่าต้องใช้กำลังใจ และเวลาครับ

อยากจะขอบคุณมากสำหรับการให้ข้อมูลแบบนี้ เพราะตอนนี้ยายเป็นโรคนี้อยู่ค่ะ

แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะหนักขนาดนี้

แล้วจะทำอย่างไรต่อ...ดีค่ะ....คือว่าต้องผ่าตัดอย่างเดียวเลยหรือค่ะ

ขอบคุณค่ะ

แม่ก้อผ่าคะ ผ่ามีปีกว่าจะ2ปีแล้วตอนนี้อาการทรุดมาก ขาและแขนไม่มีแรง ซึ่งก่อนผ่าช่วยเหลือตัวเองได้อยู่ แต่เดินไม่ได้ พอผ่าเสร็จ ประมาณหลังผ่าสัก3เดือนก้อยังเดินไม่ได้แต่อาการถือว่าดีไม่ทรด และเมื่อไม่นานประมาณ 2เดือนมานี้ อาการเริ่มทรุดและตอนนี้ทรุดมาก และก้อไม่ได้ไปหาหมอ เป็นเวลานานแล้ว คุณโชคดีจัง ที่หมอให้อยู่ รพ.นาน ของแม่หนู เขาให้อยูแค่4วัน ไล่กลับบ้าน ไม่มีแม้แต่ท่าสอนกานภาพบำบัด นัดไปตรวจ เอ็กซเรย์แค่ครั้งเดียว ไปหาหมอหมอก้อไม่ใส่ใจถาม ถามแค่ว่าเป็นไงบ้าง ไปเป็นวันๆไปได้อะไรเลย และต้องทำงาน แม่มีหลายโรคด้วยรางานบ่อยก้อลำบากกะเพื่อนรวมงาน ตอนนี้เลือกไปรับแต่ยาเบาหวาน สายปัสวะมีสาธรณะสุขมาเปลี่ยนให้บ้าน และสอนท่สกายภาพให้ตอนนี้อาการทรุดมาก ไม่มีแรง ขาและแขนอ่อน ตอนอุ้มขึ้นเตียง ท้อมากคะ( เจอหมอที่ผ่าไม่ใส่ใจ เห็นเตียงข้างๆหมอพาไปทำกายภาพ ก้องง ทำไมแม่เราไม่เห็นให้ทำบ้าง นอนได้แค่สองคืนวันที่สามให้กลับบ้าน ขออยุ่ต่อไม่ให้ คิดว่าตัวเองโชคร้ายมากคะ)

แม่เราเป็นหมอนลองกระดูกทับเส้นแลัวกระดกเสื่อมด้วข้อที่4และ5หมอบอกให้ผ่าตัดแม่ใช้สิทธิบัตรทองแม่อายุ75ปีหมอบอกว่ากินย่ก็ไม่หายดูแม่กันวนมากเลยเราเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท