ฉันเคยถามเพื่อว่า รู้ไหม.....อะไร คือ สิ่งที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังที่สุดในโลกนี้......? เพื่อนตอบว่า เงินตรา........ ฉันส่ายหน้าด้วยความสะเทือนใจ มิใช่แน่... ฉันบอกกับเพื่อนว่า........เงินเป็นสิ่งจำเป็นแก่มนุษญืในบางครั้งเท่านั้น เงินเป็นเพียงสื่อกลาง และเป็นตัวแทนของการแลกเปลี่ยนเท่านั้นเองเพื่อนแหงนมองดูสิ่งสูง ๆ แล้วกล่าวขึ้นใหม่ว่า ถ้าอย่างนั้นก็คือ พระเจ้า
พระเจ้าในโลกนี้มิใช่มีเพียงองค์เพียว...ฉันเอ่ยอย่างแผ่วเบา ถ้าเช่นนั้นก็คงเป็นฟ้าและดิน.......เพื่อนพยายามคาดหมาย นั่นก็มิใช่.....ฉันส่ายหน้าและพูดอย่างช้า ๆ ........ฟ้าและดินมิใช่สิ่งซึ่งยิ่งใหญ่ และทรางพลังที่สุดของโลกนี้ เพราะว่าฟ้าและดินไม่ใช่สิ่งที่มีหัวใจได้แต่แน่นิ่งไม่ติงกายมาชั่วกัปชั่วกัลป์แล้ว........ถ้าอย่างนั้นก็เป็นดวงตะวัน....... เพื่อนตอบด้วยความมั่นใจ
ผิดอีก.....ฉันยิ้มจนเกือบจะกลายเป็นเยาะ....เพราะว่าดวงตะวันยังถูกเมฆบังทุกทิวา.....เพื่อนมองฉันด้วยความจนปัญญา แล้วถามว่า ถ้าอย่างนั้นคือ อะไร.......... ฉันตอบกับเพื่อนไปด้วยเสียงที่หนักแน่นว่า สิ่งซึ่งยิ่งใหญ่และทรงพลังที่สุดในโลกก็คือ น้ำใจ ของคนเรานั่นแหละ.......
หากโลกนี้ไม่มี น้ำใจ คำว่า บุญคุณก็ไม่มี คำว่า ตอบสนองก็ไม่มี คำว่า เมตตากรุณา ก็ไม่มี คำว่า รำลึกถึงก็ไม่มี คำว่า บุญทานก็ไม่มี คำว่า เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ก็ไม่มี คำว่า ช่วยเหลือก็ไม่มี คำว่าห่วงใยอาลัยอาวรณืก็ไม่มี คำว่า เวทนาสงสารก็ไม่มี และถ้อยคำใด ๆ ที่เมื่อฟังแล้วทำให้รู้สึก ชื่นใจ ก็คงไม่มีทั้งนั้น
ฉันคงพร่ำเฉลยต่อไปว่า..........น้ำใจ ของคนเรานั้นอาจจะหลากล้นจนท่วมฟ้าได้........เหมือนความรัก..........เพราะหากโลกนี้ไม่มีน้ำใจ โลกนี้ก็คงไม่มีความรัก.........เพราะความรักก็ต้องการน้ำใจเหมือนกัน........
อันว่าความกรุณาปรานี
จะมีใครบังคับก็หาไม่,
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน
สวันดีคุณ suksom
ที่ได้อ่าน "น้ำใจ" และลงข้อความมา ถูกต้อง ใช่เลย ขอบคุณ