ในปัจจุบันสังคมมีการพัฒนาด้านวัตถุและเทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
แต่ท่ามกลางวิวัฒนาการและความเจริญก้าวหน้าดังกล่าว สังคมยังคงประสบปัญหานานัปการ เช่น ปัญหาความขัดแย้งผลประโยชน์ การทำลายสิ่งแวดล้อมปัญหาความรุนแรง ปัญหายาเสพติดที่กำลังแพร่ระบาด ปัญหาเยาวชนในวัยเรียนขาดคุณธรรม จริยธรรม ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ หลายฝ่ายต่างลงความเห็นสอดคล้องกันว่าเกิดจากความล้มเหลวของการศึกษา ที่ไม่สามารถสร้างคนไทย ให้เป็นคนที่มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ได้ การจัดการเรียนรู้ยังไม่มี คุณภาพเป็นที่พอใจ ซึ่งมีสิ่งที่บ่งบอกว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูปการเรียนรู้ในระบบโรงเรียน ดังนี้
1. การเรียนรู้ที่เน้นวิชาการ รู้แต่หนังสือ ถูกล้อมกรอบด้วยตารางเรียนและ ห้องเรียน การพัฒนาคนจึงไม่เอื้อให้มีคุณลักษณะเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุขมองกว้าง คิดไกล ใฝ่สูง มุ่งทำงาน ชาญชีวิต
2. วิธีการเรียนรู้ไม่เน้นกระบวนการให้ผู้เรียนได้พัฒนาในด้านการคิดวิเคราะห์ การแสดงความคิดเห็น และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูยังเป็นผู้มีอำนาจในชั้นเรียน กระบวนการเรียนรู้เป็นทุกข์ บรรยากาศและสภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ยังเป็นพฤติกรรมจำเจและพฤติกรรมถ่ายทอด
อย่างไรก็ตาม ในภาวะ “วิกฤติ” ก็ยังมี “โอกาส” ที่เป็นความหวัง และถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการปฏิรูปการเรียนรู้ครูและผู้บริหารจะต้องปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการจัดการ เรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนสำคัญที่สุด ภายใต้ความเชื่อตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ปรับปรุงแก้ไข (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ที่ยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
ไม่มีความเห็น