วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ทางกลุ่มได้กำหนดไว้ คือ
เราจะทำอย่างไรที่จะให้สมาชิกกลุ่มและคนทำงานหรือคณะกรรมการได้ดำเนินกิจกรรมของกลุ่มให้บรรลุ
แต่การทำงานมักจะมีปัญหาให้เราคิดและแก้ไขทุกครั้ง
อันดับแรกที่เราจะต้องทำ คือ
ทำให้สมาชิกเกิดความศรัทธาและเชื่อมั่นในการทำงานของคณะกรรมการ
เมื่อคณะกรรมการสามารถที่จะตอบคำถามให้กับสมาชิกได้
สิ่งแรกที่เราจะได้ คือ ความเชื่อมั่นของสมาชิก
ฉะนั้น สิ่งที่เราจะต้องพัฒนาด้านการทำงาน
ด้านความคิด และอีกหลายอย่างที่เราจะต้องฝึกฝน คือ
ต้องยึดหลักคุณธรรม 5 ประการให้มั่นตามที่ได้เขียนไว้ครั้งแรก
สิ่งที่จะต้องปฏิบัติแล้วให้เห็นผลจากการปฏิบัติจึงทำให้เกิดการพัฒนาของสมาชิกเอง
ฝึกให้สมาชิกมีวินัยในการออมเพื่อให้ตนเอง ให้ผู้อื่น
ให้สังคม และได้ให้มากกว่าเงิน 1 บาทที่เราช่วยกันออม
ช่วยให้ชุมชนเรารู้จักคำว่าพอเพียง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
เราจึงตั้งเป้าหมายในการทำงาน คือ
ทำอย่างไรให้สมาชิกสามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
และขยายโอกาสให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการพาองค์กรด้วย
ที่ได้รวมตัวกันขึ้นเพื่อให้เกิดกองทุนสวัสดิการชุมชน
โดยใช้จุดศูนย์รวมใจที่คนในชุมชนเคารพสักการะ
จึงกำหนดให้วัดเป็นสถานที่ในการรวมตัวกันดำเนินกิจกรรมของกลุ่ม
เราจะได้เห็นภาพจากคนที่ไม่เคยเข้ามาในวัดก็จะได้เห็นภาพคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการปฏิบัติที่ใช้วัดเป็นศูนย์รวมใจ
รวมคน รวมทุกๆด้านที่มีอยู่ในชุมชน
การรวมคนที่หลากหลายความคิดให้มารวมทำกิจกรรมร่วมกันได้
มันเป็นเรื่องที่ว่าง่ายก็ง่าย จะว่ามันยากก็ได้
เพราะ
เมื่อเราปฏิบัติงานมาช่วงหนึ่งจึงทำให้เราเข้าใจคนในชุมชนมากขึ้น
และรู้ว่าตัวเราที่มีโอกาสดีกว่าและอาจจะมีความพร้อมมากกว่าคนอื่น
ควรจะยึดมั่นที่จะทำงานให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้
และอยากจะเห็นสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนที่ดีขึ้นกว่าเดิม
แต่ต้องมีผู้ที่กล้าดำเนินกิจกรรมนี้
เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดี
ยอมขายความคิดของเราที่คิดว่ามันควรจะเป็นอย่างที่เราคิดว่าดี
ยอมที่จะปรับเปลี่ยนทุกอย่างแม้มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการของชุมชน
การทำงานวันแรกที่เราเริ่มทำงานเป็นวันที่เราตื่นเต้นมาก
เพราะ เราไม่เคยทำงานให้กับชุมชนบ้านตัวเองเลย
ทำแต่ให้ตัวของเราเอง วันแรกที่เราเริ่มทำงาน คือ
วันที่ 15 สิงหาคม 2545 เริ่มรับสมัครสมาชิกรุ่นแรกจำนวน
262 คน
การทำงานของคณะกรรมการทุกคนมันเป็นเรื่องใหม่จึงทำให้เราหวั่นวิตกขึ้นมาว่าจะเกิดปัญหาอะไรตามมา
การทำงานเราได้แบ่งหน้าที่ให้แต่ละคนทำงานจึงไม่รู้ว่าใครถนัดการทำงานด้านไหนบ้างจึงใช้การทำงานครั้งนี้เป็นตัวชี้วัดการทำงานของคนทำงานหรือคณะกรรมการ
จากที่เราเริ่มแจกชุดสมัคร ให้กรอกใบสมัครการเป็นสมาชิก
บางคนก็เขียนหนังสือไม่เป็น บางคนอ่านหนังสือไม่ออก
เมื่อเป็นแบบนี้เราจะเห็นภาพที่เราไม่ค่อยได้เห็นในสังคมปัจจุบันเท่าไหร่
จึงเกิดมีคนที่อาสาสมัครเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการรับสมัคร
คือ กรอกใบสมัครให้กับคนที่อ่านไม่ได้ เขียนไม่ได้
อ่านใบสมัครให้ฟัง
มีการพบปะกันขึ้นทุกวันเสาร์แรกของทุกเดือน
โดยที่ทุกคนได้มีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
สังเกตจากการทำงานของคณะกรรมการ
สมาชิกก็จะออกความคิดเห็นให้ว่าควรจะทำแบบไหน
สิ่งที่คณะกรรมการได้รับกลับมา คือ
การปรับโครงสร้างการทำงานจากคนไหนที่ทำงานไม่ทันต่อเหตุการณ์หรือไม่มีความสามารถพอก็จะขอกลับไปเป็นสมาชิกธรรมดา
โดยคัดเลือกตัวแทนขึ้นมาทำงานแทนกันใหม่
เราก็จะได้คนทำงานให้กับกองทุนด้วยใจรักที่จะทำงานให้กับชุมชน
จากเดือนแรกที่เราเปิดรับสมัครและได้ให้ความรู้ไปทุกครั้งที่มีการออม
สมาชิกที่สมัครแล้วก็เป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้กับกองทุนได้อีกทาง
โดยที่คณะกรรมการต้องทำงานกันอย่างเข้มแข็งและมีความอดทนสูง
ทางกองทุนได้เปิดรับสมัครเป็นสมาชิกทุกเดือน
และมีคนสนใจเป็นสมาชิกมีตลอด
เราจึงคิดว่ากองทุนนี้เป็นสิ่งที่จะช่วยให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามที่เราเคยฝันไว้
ความฝันของเราจะเป็นจริงหรือเปล่าหนอ
เขียนไปชักจะท้อใจเป็นบางครั้ง แต่ไม่ถอยน่า
จะบอกให้ถ้าวันไหนเราเกิดท้อหรือถอยมันเหมือนกับเราเป็นคนที่ไม่สู้กับสิ่งที่เราน่าจะชนะมันได้
จึงคิดและเกิดให้เรามีความคิดจะทำงานต่อ
เราจึงแผนต่อไปว่าจะทำให้กองทุนสวัสดิการชุมชนเป็นรูปเป็นร่าง
และเห็นได้อย่างชัดเจนอย่างไร
อันดับแรก
เราต้องกหาสถานที่ที่จะให้เห็นกองทุนเป็นรูปขึ้นมาให้ได้
เราจึงเป็นผู้โชคดีอีกแล้วที่ได้ความอนุเคราะห์จากคนในชุมชนและได้เป็นคณะกรรมการกองทุนด้วยสนับสนุนให้เราใช้สถานที่ห้องเช้าที่ว่างเป็นสำนักงานกองทุน
ความฝันเราเริ่มเป็นจริงอีกแล้ว
เมื่อเราได้สถานที่เป็นสำนักงานกองทุนที่เล็กๆแต่ก็อบอุ่น
ทุกเมื่อที่เราได้นั่งทำงานจากเอกสารที่กระจัดกระจายเราก็เอามารวมไว้ที่สำนักงาน
แบ่งจัดเก็บเอกสารให้เป็นหมวดหมู่
กำหนดวิธีการทำบัญชีด้วยมือไปก่อน เพราะ
เราทำงานด้วยทุนของชุมชน สิ่งไหนที่มีความจำเป็นจะต้องใช้
เราก็จัดหามาใช้เพื่อให้สมาชิกเกิดความมั่นใจในการเป็นสมาชิกกองทุนให้มากที่สุด
แต่เราก็เจอปัญหาทุกครั้งที่ทำงาน
แต่เราก็ไม่ท้อก็ได้เข้าร่วมประชุมกับเครือข่ายฯ
เมื่อเราสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายองค์กรออมทรัพย์ชุมชนจังหวัดลำปาง
โดยการประชุมแต่ละครั้งจึงรู้ว่าการทำงานของกลุ่มอื่นก็มีปัญหาเหมือนกันแต่ก็ได้แก้ไข
เราจึงนำสิ่งที่เราได้รับมาปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเราบ้าง ชักเมื่อยมือแล้ว
ยิ่งเขียนก็ยิ่งมัน
ขอไปเล่นน้ำให้ชื่นใจก่อนนะแล้วจะกลับมาเขียนให้อีก
ยุพิน เถาเปี้ยปลูก/ผู้เขียนบันทึก
วิไลลักษณ์ อยู่สำราญ/ผู้พิมพ์บันทึก
เคยไปเจอพี่นกครั้งนึง กับ อ.ตุ้ม กับ อ.ภีม ชอบมากครับ ตอนนี้ผมกำลังศึกษาแนวคิดนี้อยู่ เพราะชาวบ้านที่แม่แตงเกิดความสนใจ เขามีหนี้สินกันมากเหลือเกิน จนอยากที่จะแก้ไขกัน ผมคิดว่า การเงินชุมชน น่าจะเป็นเครื่องมือที่แก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดี ไว้ต่อไป คงมีโอกาสได้ขอคำแนะนำจากพี่นก นะครับ