1
คู่มือการใช้ยาในหญิงให้นมบุตรและผลของยาต่อทารก
10
เชียงใหม่
โดย
นายไตรทิพย์ สามหงษ์
กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ศูนย์อนามัยที่
10
เชียงใหม่
.ศ. 2550
2
คู่มือการใช้ยาในหญิงให้นมบุตรและผลของยาต่อทารก
เพื่อใช้ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่
10
เชียงใหม่
ยาเกือบทุกชนิดสามารถผ่านไปสู่น้ำนมได้ในปริมาณหนึ่ง ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณยาที่ทารกจะได้รับจากการรับประทานน้ำนมมารดา ได้แก่ ระดับยาในเลือดของมารดา ปริมาณเลือดที่ไหลไปสู่เต้านม ค่าความเป็นกรดด่างของเลือดของมารดาและน้ำนม คุณสมบัติต่าง ๆ ของตัวยา เช่น ความชอบไขมัน น้ำหนักโมเลกุล การแตกตัวเป็นอิออนของยาในเลือดมารดาและน้ำนม ความสามารถในการจับกับโปรตีน เป็นต้น รวมถึงช่วงเวลาในการให้นม ปริมาณน้ำนมที่ทารกรับประทาน และเภสัชจลนศาสตร์ของยาในทารก
ข้อแนะนำสำหรับการใช้ยาในสตรีที่ให้นมบุตร
มีดังนี้
1.
หลีกเลี่ยงการใช้ยาในสตรีให้นมบุตรหากเป็นไปได้
2.
หากมีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรเลือกใช้ยาที่มีความปลอดภัยสูงสุดโดยมีอาการข้างเคียงน้อยสุด หรืออาจพิจารณาว่า หากยาชนิดใดเป็นยาที่สามารถให้ได้ในทารกอย่างปลอดภัย ก็น่าจะมี ความปลอดภัยหากมารดาจะใช้ในระหว่างให้นมบุตร
3.
เลือกใช้ยาที่ผ่านสู่น้ำนมน้อย โดยพิจารณาจากสัดส่วนระหว่างความเข้มข้นของยาในน้ำนมกับความเข้มข้นของยาในพลาสมา
( milk to plasma ratio: M/P ratio )
4.
ใช้ยาในขนาดต่ำที่สุดที่ให้ผลในการรักษา และใช้ในระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
5.
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีค่าครึ่งชีวิตยาว หรือยาที่มีสูตรตำรับเป็นแบบออกฤทธิ์นาน
6.
เลือกวิถีทางให้ยาที่ปลอดภัยที่สุดที่จะทำให้ยาผ่านสู่น้ำนมได้น้อยที่สุด เช่น ใช้ยาทาภายนอกแทนการรับประทานยา
7.
ควรให้ทารกดูดนมในช่วงที่ระดับยาในเลือดมารดาต่ำที่สุด คือ ก่อนที่มารดาจะรับประทานยาในครั้งต่อไป
8.
หากมีความเป็นไปได้ว่ายานั้นอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อทารก อาจพิจารณาวัดระดับยาในเลือดของทารก
9.
หากจำเป็นต้องใช้ยาซึ่งเป็นยาที่มีข้อห้ามใช้ในสตรีให้นมบุตร มารดาจำเป็นต้องหยุดให้นมในช่วงที่รับประทานยา โดยในระหว่างนั้นควรบีบน้ำนมทิ้งด้วย และหลังจากหยุดใช้ยาแล้ว ก่อนที่จะให้นมแก่ทารก ควรเว้นระยะห่างให้เหมาะสม เช่น ประมาณ 4-5
เท่าของค่าครึ่งชีวิตของยานั้น
10.
ควรสังเกตทารกอย่างใกล้ชิดว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น ซึมลง กระสับกระส่าย ผื่นขึ้น เบื่ออาหาร เป็นต้น หากพบว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นควรรีบแจ้งแพทย์ผู้ดูแลทันที
11.
หยุดให้นมในช่วงระหว่างการให้ยา หากพิจารณาแล้วพบว่าความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อทารกมีมากกว่าประโยชน์จากการรับประทานน้ำนมมารดา
1 เป็นรายการยาซึ่งได้รับการพิจารณาจาก The American Academy of Pediatrics และองค์การอนามัยโลกว่าสามารถใช้ได้ในสตรีให้นมบุตร โดยพิจารณาจากการที่ยานั้นมีการขับออกทางน้ำนมน้อย มีข้อมูลการใช้ยาในสตรีให้นมบุตรจำนวนมาก และ/หรือ มีรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์น้อยในทารกที่ได้รับนมจากมารดาซึ่งรับประทานยานั้นและอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นไม่รุนแรง
3
ตารางที่
2 เป็นรายการยาซึ่งได้รับการพิจารณาจาก The American Academy of Pediatrics และองค์การอนามัยโลกว่าสามารถใช้ได้ในสตรีให้นมบุตร แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง หรือควรเลือกใช้เป็นอันดับสุดท้าย เนื่องจากยานั้นถูกขับออกทางน้ำนมในปริมาณมาก และ/
หรือ มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์ในตัวอ่อนของสัตว์หรือในหลอดทดลองหรือมีรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารกที่ได้รับนมจากมารดาซึ่งรับประทานยานั้นหลายราย หรือยานั้นอาจลดการหลั่งน้ำนมของมารดา
3 เป็นรายการยาซึ่งได้รับการพิจารณาจาก The American Academy of Pediatrics และองค์การอนามัยโลกว่าไม่
ควรใช้ในสตรีให้นมบุตร หรือควรหยุดให้นมบุตรระหว่างใช้ยานั้น เนื่องจากทารกที่ได้รับนมจากมารดาซึ่งได้รับยานั้นอยู่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง
1,2 และ 3
ไม่มีข้อมูลการขับยาออกทางน้ำนม หรือมีข้อมูลน้อยมาก และไม่มีข้อมูลการใช้ยาในสตรีให้นมบุตร ซึ่งไม่ได้หมายความว่ายาเหล่านั้นไม่มีความปลอดภัยในการใช้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้หรือหากมีความจำเป็นต้องใช้ยาเหล่านั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น
ตารางที่ 1 /กลุ่มยา ยาที่มีข้อมูลการใช้ในสตรีให้นมบุตรและมีรายงานอาการไม่พึงประสงค์น้อยในทารกที่ได้รับนมมารดาที่ใช้ยานั้น |
การขับยาออกทางน้ำนม /อาการไม่พึงประสงค์ที่มีรายงานในทารก/ข้อแนะนำ |
Angiotensin converting enzyme inhibitors (ACEIs)
|
• ยา Captopril และ Enalapril
ถูกขับออกทางน้ำนมในปริมาณน้อย ACEIs ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องใช้ยากลุ่มนี้ควรเลือกใช้ยา Captopril หรือ
Enalapril |
Acetaminophen (Paracetamol)
|
• ควรเลือกใช้ยานี้เป็นลำดับต้นสำหรับบรรเทาอาการไข้/
ปวด เนื่องจากมีข้อมูลการใช้ยาในสตรีให้นมบุตรมาก ได้รับการพิจารณาว่ามีความปลอดภัยในการใช้ในสตรีให้นมบุตร |
Acyclovir
|
|
Albendazole
|
|
Allopurinol
|
|
Aminoglycosides
|
|
Aminophylline
|
• มีรายงานทารกที่ได้รับนมจากมารดาที่ได้รับยานี้เกิดอาการงอแง (irritability)
ได้ |
Antacids
|
• ควรเลือกใช้ยาลดกรดที่มี Aluminum hydroxide และ Magnesium hydroxide
เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากถูกขับออกทางน้ำนมในปริมาณน้อย |
ไม่มีความเห็น