ต้นทุนการดำเนินงาน ศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ปีงบประมาณ 2550
ปิยพร เสาร์สาร
5. บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วยผลผลิตและกิจกรรมสำคัญของศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ ปี 2550 โดยเก็บข้อมูลย้อนหลัง (Retrospective Study) จากรายงานการใช้จ่ายจริงตามระบบเกณฑ์บัญชีคงค้าง จากเงินงบประมาณและเงินบำรุง ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2549 – 30 กันยายน 2550 พบว่า
ศูนย์อนามัยที่ 10 มีผลผลิต 3 ผลผลิต คือ ผลผลิตที่ 1 องค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมได้รับการศึกษาวิจัย ผลผลิตที่ 2 ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ ผลผลิตที่ 3 ประชาชนและภาคีเครือข่ายได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ มีต้นทุนรวม 135,769,125.37 บาท โดยเป็นต้นทุนค่าแรงมากที่สุดร้อยละ 68.54 รองลงมาคือค่าวัสดุ คิดเป็นร้อยละ 27.91 และค่าลงทุนร้อยละ 3.55 โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพเป็นหน่วยต้นทุนหลักที่มีต้นทุนรวมสูงสุด คิดเป็นร้อยละละ 66.55 รองลงมาคือ ฝ่ายบริหารทั่วไป มีต้นทุนรวมร้อยละ 16.57 กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม มีต้นทุนร้อยละ 11.16 และกลุ่มสนับสนุนวิชาการมีต้นทุนร้อยละ 5.92 เมื่อพิจารณาตามภาระงานแล้ว พบว่า ผลผลิตที่ 1 มีภาระงานเฉลี่ยสูงสุดคือร้อยละ 89.29 คิดเป็นต้นทุน 121,230,686.81 บาท รองลงมาคือผลผลิต 3 มีภาระงาน 10.36 คิดเป็นต้นทุน 14,063,865.63 บาท และผลผลิต 2 มีภาระงานต่ำสุด คือร้อยละ 0.35 ต้นทุนต่อหน่วยผลผลิตของผลผลิตที่ 1 มีต้นทุนสูงสุด คือ 3,276,505,05 บาท ต่อเรื่องและกิจกรรมหลักการศึกษาวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้มีต้นทุนสูงสุดคือ 1,250,912.34 บาทต่อเรื่อง รองลงมาคือการพัฒนาระบบบริหารจัดการมีต้นทุนต่อหน่วย 129,784.75 บาท ต่อคน และการบริการสาธิต และสนับสนุนบริการส่งเสริมสุขภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพมีต้นทุนต่อผู้มารับบริการ เป็นเงิน 764.26 บาทต่อครั้ง ผลผลิตที่ 3 กิจกรรม นิเทศติดตามและรับรองมาตรฐานมีต้นทุนต่อหน่วย 20,689.07 บาทต่อครั้ง การเพิ่มขีดความสามารถภาคีเครือข่ายภายในหน่วยงานมีต้นทุน 9,877.79 บาทต่อคน การเพิ่มขีดความสามารถของภาคีเครือข่ายภายนอกหน่วยงานมีต้นทุน 1,356.02 บาทต่อคน การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสาธารณะและผลิตสื่อมีต้นทุน 211.29 บาทต่อชิ้น
6. บทนำ
ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 หมวด 4 มาตรา 21 กำหนดให้ส่วนราชการจัดทำบัญชีต้นทุนเพื่อเป็นเครื่องมือให้ผู้บริหารนำไปใช้ในการตัดสินใจในการพัฒนาบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในอนาคต ให้สามารถดำเนินการได้อย่างเหมาะสมกับทรัพยากรของหน่วยงาน ศูนย์อนามัยที่ 10 เป็นหน่วยงานสังกัดกรมอนามัยที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาคมีหน้าที่ในการผลิตและพัฒนาองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีทางด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมและการสร้างความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถให้ภาคีเครือข่าย ได้ใช้ระบบการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายรัฐบาล ที่ผ่านมาผลการปฏิบัติงานหรือผลสำเร็จของงาน ยังไม่ได้มีการนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีมากน้อยเพียงใด มีความคุ้มค่าหรือไม่ แต่ละหน่วยงานมีผลผลิตและกิจกรรมหลักที่ส่งผลต่อผลผลิตขององค์กรอะไรบ้าง มีต้นทุนเท่าใด งานไหนมีภาระต้นทุนมากน้อยอย่างไร สัมพันธ์กับปริมาณงานและบุคลากรหรือไม่อย่างไร จึงได้ศึกษาต้นทุนต่อหน่วยผลผลิตและกิจกรรมหลักขึ้นเพื่อนำมาเป็นข้อมูลอ้างอิง วิเคราะห์เปรียบเทียบ จัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพและเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารองค์กรและประเทศชาติต่อไป
7. วัตถุประสงค์
เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วยผลผลิต การดำเนินงาน ปี 2550 ของศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่
8. วิธีดำเนินการ / วิธีการศึกษา/ ขอบเขตงาน
การศึกษาต้นทุนต่อหน่วยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) โดยเก็บข้อมูลย้อนหลัง (Retrospective study) ศึกษาต้นทุนผลผลิตตามพจนานุกรมกิจกรรมของกรมอนามัย และตามเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 ของสำนักงบประมาณ คือ
1. องค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อมได้รับการศึกษาวิจัย
2. ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ
3.ประชาชนและภาคีเครือข่ายได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรใช้ในการศึกษา ได้แก่ข้อมูลจากการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เงินบำรุง ซึ่งคิดเป็นต้นทุนค่าแรง (Labor Cost – LC) ค่าวัสดุ (Material Cost – MC) และค่าลงทุน (Capital Cost – CC) เป็นข้อมูลที่ได้จากหน่วยงานของศุนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ ของปีงบประมาณ 2550
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เป็นแบบบันทึกข้อมูล ประกอบด้วย
1. ข้อมูลต้นทุนค่าแรง (Labor Cost: LC)
2. ข้อมูลต้นทุนค่าวัสดุ (Material Cost: MC)
3. ข้อมูลต้นทุนค่าลงทุน (Capital Cost: CC)
การวิเคราะห์ข้อมูล
ใช้โปรแกรม EXCELL ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ โดยใช้ค่าสถิติร้อยละ และการกระจายต้นทุนวิธี Step –down Allocation Method
ขั้นตอนการศึกษา
1.กำหนดผลผลิตของศุนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ เพื่อนำไปใช้ในการคำนวณต้นทุนโดยศึกษาจากเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 ของสำนักงบประมาณ และแผนงานโครงการของศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ ปีงบประมาณ 2550 ได้ 3 ผลผลิตคือ
1.1 องค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมได้รับการศึกษาวิจัย
1.2 ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการเฝ้าระวังโรค และภัยสุขภาพ
1.3 ประชาชนและภาคีเครือข่ายได้รับการถ่ายทอดองค์ความรุ้และเทคโนโลยีเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม
9. ผลการศึกษา
1. ผลผลิตและกิจกรรมของศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ ในปี 2550 ศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ มีผลผลิตจำนวน 3 ผลผลิตและแต่ละผลผลิตมีกิจกรรมหลักสำคัญๆ ที่ส่งผลถึงผลผลิต ดังนี้
ผลผลิตที่ 1 องค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อมได้รับการศึกษาวิจัย มี 3 กิจกรรมหลัก คือ
1. การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ มีจำนวน 4 เรื่อง
2. การบริการส่งเสริมสุขภาพสาธิต และสนับสนุนบริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ มีจำนวน 19 เรื่อง จำนวนผู้รับบริการ 96,208 ครั้ง
3. การพัฒนาระบบบริหารจัดการ มีจำนวน 14 เรื่อง บริการแก่บุคลากรของหน่วยงาน 329 คน
ผลิตที่ 2 ประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับการเฝ้าระวังโรค และภัยสุขภาพโดยการกระจายนมผง ให้เด็กที่คลอดจากมารดาติดเชื้อเอดส์ มีเด็กได้รับนมผง จำนวน 564 คน
ผลผลิตที่ 3 ประชาชน และภาคีเครือข่ายได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม มี 4 กิจกรรมหลัก คือ
1. การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสาธารณะ และผลิตสื่อ จำนวน 12,656 ชิ้น
2.การเพิ่มขีดความสามารถของภาคีเครือข่ายภายนอก มีจำนวน 3,165 คน
3. การเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรภายในหน่วยงาน มีจำนวน 329 คน
4. การนิเทศติดตามงานและรับรองมาตรฐาน จำนวน 186 ครั้ง
2. การจำแนกและกำหนดเกณฑ์การจัดสรรหน่วยต้นทุน
ตามโครงสร้างศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ มีหน่วยงานอยู่ 4 หน่วยงาน จัดหน่วยต้นทุนตามความชัดเจนของบทบาทหน้าที่และความเป็นเอกภาพของการใช้ทรัพยากรได้ดังนี้
หน่วยต้นทุนหลัก ประกอบด้วย
1. กลุ่มพัฒนาการส่งเสิรมสุขภาพและพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม
2. กลุ่มโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
หน่วยต้นทุนสนับสนุน ประกอบด้วย
1. กลุ่มสนับสนุนวิชาการ
2. ฝ่ายบริหารงานทั่วไป
ทั้งนี้ใช้ จำนวนของบุคลากรในหน่วยงานเป็นเกณฑ์ ในการกระจายต้นทุน
3. การคำนวณต้นทุนรวม
ต้นทุนรวมของศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ เป็นข้อมูลจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าแรงค่าวัสดุ ค่าลงทุน ที่ปรากฏจริงตามรายงานการใช้เงินจากเกณฑ์บัญชีคงค้างตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2549 – 30 กันยายน 2550 โดยค่าเสื่อมราคาของครุภัณฑ์ ถือเป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยต้นทุน ส่วนค่าเสื่อมราคาของอาคาร สิ่งก่อสร้าง ถือเป็นค่าใช้จ่ายจริงของฝ่ายบริหารเนื่องจากฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบอาคารสถานที่ และเป็นหน่วยต้นทุนสนับสนุน จึงต้องกระจายค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยต้นทุนหลักอื่น และพบว่าต้นทุนรวมของศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ ในปี 2550 เป็นเงิน 135,769,125.37 บาท โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพมีต้นุทนสูงสุด เป็นเงิน 90,357,747.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 66.55 รองลงมาคือฝ่ายบริหารทั่วไปมีต้นทุนเป็นเงิน 22,224,033.70 บาท คิดเป็นร้อยละ 16.37 กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม มีต้นทุน 15,147,523.09 บาท คิดเป็นร้อยละ 11.16 และกลุ่มสนับสนุนวิชาการมีต้นทุนเป็นเงิน 8,039,821.08 บาท คิดเป็นร้อยละ 5.92 และพบว่าต้นทุนค่าแรงมีจำนวนสูงสุดคือ 93,058,667.20 บาท คิดเป็นร้อยละ 68.54 รองลงมาคือต้นทุนค่าวัสดุ เป็นเงิน 37,891,996.27 บาท คิดเป็นร้อยละ 27.91 สอดคล้องกับการศึกษาของอาภา ศันสนียวณิช( 2546) และนพวรรณ ขำโอด( 2547 ) และค่าลงทุนเป็นจำนวนเงิน 4,818,461.90 บาท คิดเป็นร้อยละ 3.55
4. ต้นทุนผลผลิต
การคำนวณต้นทุนผลผลิต ใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละของภาระงานเป็นเกณฑ์ กระจายพบว่า ผลผลิตที่ 1 องค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมได้รับการศึกษาวิจัยมีค่าเฉลี่ยภาระงานมากที่สุดคือ ร้อยละ 89.29 คิดเป็นต้นทุน 121,230,686.81 บาท รองลงมาคือ ผลผลิต 3 ประชาชน และภาคีเครือข่ายได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยีเพื่อการส่งเสิรมสุขภาพมีภาระงานร้อยละ 10.36 คิดเป็นต้นทุน 14,063 , 865.63 บาท และผลผลิต 2 ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ โดยการกระจายนมผงให้ เด็ก ที่คลอดจากมารดาติดเชื้อเอดส์มีภาระงาน ร้อยละ 0.35 คิดเป็นต้นทุน 474,572.93 บาท
5. การคำนวณต้นทุนต่อหน่วยผลผลิต
ใช้จำนวนหน่วยของกิจกรรมเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ ต้นทุนต่อหน่วย ผลผลิต และต้นทุนต่อกิจกรรม พบว่า ผลผลิตที่ 1 กิจกรรม การวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ มีต้นทุนต่อหน่วยกิจกรรมสูงสุดคือ 1,250,912.34 บาทต่อเรื่อง รองลงมาคือการพัฒนาระบบบริหารจัดการ มีต้นทุนต่อหน่วย 3,049,941.69 บาทต่อเรื่อง หรือ129,784.75 บาท ต่อ คน การบริการสาธิต และสนับสนุนบริการส่งเสริมสุขภาพในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ มีต้นทุนต่อเรื่อง 3,869,887.04 บาท หรือคิดต่อผู้รับบริการเป็นเงิน 764.26 บาท ต่อครั้ง โดยรวมผลผลิตที่ 1 มีต้นทุนต่อหน่วยผลผลิตเท่ากับ 3,276,505.05 บาท ต่อเรื่อง
ผลผลิตที่ 2 การบริการป้องกันการติดเชื้อเอดส์มีต้นทุน 841.44 บาทต่อคน
ผลผลิต 3 กิจกรรมการนิเทศติดตามและรับรองมาตรฐาน มีต้นทุนเป็นเงิน 20,689.07 บาท ต่อครั้ง การเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรภายในหน่วยงานมีต้นทุน 9,877.79 บาทต่อคน การเพิ่มขีดความสามารถของภาคีเครือข่ายภายนอก มีต้นทุน 1,356.02 บาทต่อคน การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสาธารณะและผลิตสื่อ มีต้นทุน 211.29 บาทต่อชิ้น โดยรวมผลผลิต 3 มีต้นทุนต่อหน่วย ผลผลิต 4,025.15 บาทต่อคน
10. การนำไปใช้ประโยชน์
1.) เป็นข้อมูลให้ผู้บริหารนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ ทำข้อเสนอของบประมาณ และจัดสรรเงินให้เหมาะสมกับภาระงาน การทบทวนบทบาทภารกิจของหน่วยงานว่างานโครงการจะดำเนินการต่อไปหรือหยุดดำเนินการหรือปรับลดกิจกรรมที่เกิดประโยชน์น้อย และรายงานในคำรับรองการปฏิบัติราชการ
2.) นำไปเป็นข้อมูลอ้างอิงเปรียบเทียบกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพต่อไป
3.) เชื่อมโยงกลยุทธ์ในการดำเนินงานขององค์กรกับการตัดสินใจอันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารในการพัฒนากิจกรรมต่างๆที่ถือเป็นจุดเด่นขององค์กรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4.) สามารถระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดต้นทุนในรูปของตัวผลักดันต้นทุน
11. ความยุ่งยากในการดำเนินการ / ปัญหา / อุปสรรค
- มีความยุ่งยากในการเก็บรวบรวมข้อมูล ค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ ซึ่งต้องพิจารณาให้เหมาะสมว่า ตรงกับพจนานุกรมกิจกรรมใดของกรมอนามัย ผลผลิตไหน ซึ่งต้องศึกษาและมีความเข้าใจทั้งระบบแผนงาน งบประมาณ การเงิน การบัญชี การประเมินผล การวิเคราะห์ต้นทุนอย่างเชื่อมโยงกัน
- บุคลากรยังไม่มีความเข้าใจในทฤษฎีแนวคิดวิธีการจัดทำต้นทุน ทำให้การสื่อสารการให้ความร่วมมือในการเก็บข้อมูลไม่ครบถ้วนและล่าช้าและไม่ได้วางแผนเก็บข้อมูลไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีทำให้มีความยุงยากในการเก็บและกำหนดสัดส่วนงาน กำหนดตัวผลักดันต้นทุน
12. ข้อเสนอแนะ / วิจารณ์
การศึกษาต้นทุนต่อหน่วยของศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ จัดทำขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ – ต้นทุนต่อหน่วย ผลผลิตและกิจกรรมหลักสำคัญที่ส่งผลให้เกิดผลผลิตโดยกำหนดชื่อผลผลิต ตามพจนานุกรมกิจกรรมของกรมอนามัย ปี 2550
ไม่ทราบว่ามี Full paper หรือไม่ค่ะสนใจทำเรื่องนี้เหมือนกันแต่ยังไม่มีแนวทาง