วันนี้จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่อง "ทำอย่างไรจึงจะทำให้วัสดุเคลือบร่องฟันยึดติดอยู่ได้อย่างดี"
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2551 ผมได้มีโอกาสไปเป็นวิทยากรในโครงการ การจัดการความรู้เรื่องการให้บริการเคลือบร่องฟันเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา จังหวัดกำแพงเพชร ณ โรงแรมเพชร
- เริ่มจากการนำเสนอ"ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการความรู้" (พอให้ทราบว่า KM คืออะไร ,ทำไมต้องทำ KM และ KM ทำอย่างไร)
- แนะนำแบบคร่าว ๆ เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้เทคนิค "การเล่าเรื่อง"
- คิดหัวข้อในการพูดคุย ซึ่งเป็นเรื่อง "กลวิธีในการบริการเคลือบหลุ่มร่องฟัน" เนื่องจากในปีที่ผ่านมา จังหวัดกำแพงเพชร ประเมินผลการทำเคลือบร่องฟัน พบว่าอัตราการคงอยู่ของวัสดุมีเพียงร้อยละ 53 เท่านั้น ดังนั้นในวันนี้จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่อง "ทำอย่างไรจึงจะทำให้วัสดุยึดติดอยู่ได้อย่างดี" ซึ่งมีบางหน่วยงานทำได้ถึงร้อยละ 84
- สำหรับเนื้อหาในการแลกเปลี่ยน แยกเป็นหัวข้อเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกันคือ
- การเลือกและไม่เลือกทำ
- การขัดฟันก่อนการทำ
- การใช้กรดกัด (Etching)
- การ Apply วัสดุ และการฉายแสง
- การตรวจสอบการหลุด
- ทำการแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม ตามโซนของสถานที่ทำงาน
- ให้เวลาในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 60 นาที
- ให้เวลาในการนำเสนอกลุ่มละ 15 นาที
จากผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สามารถสรุปออกมาได้ว่า
- การเลือกทำหรือไม่ทำ จะดูที่พฤติกรรมเด็ก โดยจะเลือกทำในเด็กที่ยอมให้ทำก่อน โดยซี่ฟันที่ทำต้องไม่ผุ ขึ้นเต็มซี่ มีร่องฟันลึก หากสงสัยว่าผุให้เลือกไม่ทำ (จะใช้วิธีการอุดแบบ PRR แทน)
- การขัดฟัน จะเลือกใช้หัวขัดที่เป็นแปรง ขัดด้วยผงขัด pumice (ที่ไม่หยาบเกินไป) หลังการขัดก่อนการล้างผงขัด จะใช้เครื่องมือ (explorer) เขี่ยลากไปตามร่องฟัน จากนั้นล้างและเป่าให้แห้ง ตรวจดูว่าในร่องฟันมีการผุหรือไม่ หากมีให้ทำ PRR แทน
- การใช้กรดกัด ขึ้นอยู่กับชนิดของกรด โดยจะใช้เวลาตามที่บริษัทแนะนำ ซึ่งโดยทั่วไปใช้เวลา 15 - 40 นาที
- หลังจากกรดกัดแล้ว จะล้างและเป่าให้แห้ง โดยตรวจดูว่าผิวแห้งเป็นสีขาวขุ่นในบริเวณที่ต้องการหรือไม่ หากไม่ ให้กัดกรดใหม่ โดยใช้เวลาน้อยกว่าเดิม (ประมาณ 10-15 นาที)
- สำหรับการ Apply วัสดุ เลือกใช้พู่กัน , Dycal carrier , หรือ Plastic instrument แล้วแต่ความถนัดของผู้ทำ ปริมาณที่ใช้ไม่ควรมากเกิน จนมีปัญหาต่อการกัดสบ และขอบควรเรียบเสมอไปกับผิวฟัน ไม่ควรเป็น step จนใช้เครื่องมือสกิดขอบได้
-
การฉายแสงนั้น ให้เป็นไปตามคำแนะนำของบริษัท แต่ที่ตกลงคือใช้เวลา 40-60 วินาที (ทั้งนี้ต้องเช็คความเข้มของแสงด้วยว่า อยู่ในค่าปกติหรือไม่)
-
ใช้ Explorer ตรวจสอบขอบวัสดุว่าแนบไปกับผิวฟันหรือไม่ หากมีบริเวณที่ขอบเกินไม่แนบ ให้ลองสกิดออก หากหลุดให้ทำใหม่ หากไม่หลุดให้กรอแต่งจนเรียบ และหากมีฟองอากาศให้ทำการกัดกรด และ Apply บริเวณที่มีฟองอากศอีกครั้งหนึ่ง
- หากวัสดุที่ใช้สึกได้ อาจไม่ต้องเช็ดการกัดสบ เพราะวัสดุที่เกินจะสึกไปเอง แต่ในรายที่ไม่แน่ใจ เช่นเห็นขัดเจนว่าวัสดุมากเกิน เด็กสบลึก ให้ทำการเช็คสูง แล้วขัดแต่ง
- หากเป็นไปได้ให้ทำการตรวจสอบการยึดติดหลังการทำ 3-6 เดือน
จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งบางท่านทำเป็นครั้งแรก อาจจะเป็นลักษณะการระดมสมอง (Brain strome) เสียมากกว่า แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการนำความรู้ที่มีอยู่ในตัวคนออกมาแลกเปลี่ยนกับคนอื่น ทำให้ทราบว่าคนที่ทำแล้วสำเร็จ เขาทำอย่างไร เรามีอะไรที่บกพร่องหรือดีกว่าคนอื่น ซึ่งจะนำไปปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น .... ในปีหน้าคิดว่าจังหวัดกำแพงเพชรน่าจะมีอัตราการเคลือบหลุมร่องฟันแล้วคงอยู่ มากกว่าร้อยละ 53 นะครับ ......... ขอบคุณครับ