KM กับวิถีองค์กรที่มีชีวิต 6 : รู้จักตัวเอง..เพิ่มขึ้น


สวัสดีครับ

หลังการแบ่งปัน  เรียนรู้ร่วมกับเพื่อนร่วมงาน  และท่านกระบวนกร

ทำให้ผมเกิดการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่มากมายครับ

 นั่นคือการเรียนรู้เเละเข้าใจตนเองมากขึ้น....

  เข้าใจว่า..เราอาจจะต้องเรียนรู้และเข้าใจตนเองอีกมาก  และเรียนรู้ที่จะเข้าใจผู้คนอีกมาก

   การเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตนเองครั้งนี้นั้น

  น่าจะเกิดจากกระบวนการที่     จิตใจของเรานั้นสงบ

   น่าจะเกิดจากกระบวนการสะท้อนมุมมอง  ข้อมูลผ่านกิจกรรม  VOICE  DIALOGUE

 

   ทั้งนี้อาศัยจิตใจที่เข้าใจวาระตนเอง  เข้าใจประโยชน์ของการสะท้อน

  เมื่อเทียบกับพุทธรรมแล้ว  เรื่องราวที่เราไม่พอใจ  เรื่องราวที่จิตของเรานั้นอยากที่จะไม่เอา  ไม่รับ  ร้อนๆ  หรือภาษาว่าผู้พิทักษ์  ความเป็นตัวตนของเรา...

 

 น่าจะเป็นกิเลสที่เรามี  ที่เรายึดเอาไว้  โดยเห็นว่ามันดี  มันมีประโยชน์ต่อเรา  บางครั้งโดยที่เราไม่รู้ตัว

     ความที่คิดว่าเราเองเก่ง  หรือแน่ (คนอื่นอาจจะมองว่าอวดเก่ง  ขี้คุย รู้ทุกเรื่อง)

     คิดว่าตนเองดี  ซื่อสัตย์  (หลงตัวเอง  โง่  งี่เง่า)

     คิดว่าตนเองเสียสละ  ทุ่มเท (ตอแหล  อยากได้หน้า  อยากเด่น)

     คิดว่าตนเองรู้  (อวดเก่ง)

     คิดว่าตนเองอ่อนน้อมถ่อมตน (คนอื่นอาจจะคิดว่า ตอแหล หลอกลวง)

    คิดว่าตนเองทำผิดต้องขอโทษ (หน้าไหว้  หลังหลอก ตบหัว  ลูบหลัง)

    

  เรื่องราวในวงเล็บ   คือเสียงที่เราต้องรับฟัง  น้อมรับแบบไม่ด่วนตัดสิน  และพิจารณา

  ดูใจ จิต  ของเราที่เกิดขึ้นขณะที่เรารับรู้.....

    สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากเพื่อนหลายคนคือ  หมอเป็นคนที่แปลกๆ  ดูยาก  ดูไม่ออก (หรือจริงๆแล้วผู้คนในสังคมนี้ไม่ปกติ..^_^ ลองคิดเล่นๆครับ)

    หมอดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อน..บ้างนะ

    หมอพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง  เป็นภาษาที่ไม่ได้ใช้ทั่วไปนะ  ผู้คนอาจะตีความไปต่างๆนาๆ

     เป็นเรื่องราวที่ผู้คนสะท้อนเรา....

    รับรู้เพื่อเข้าใจ  เข้าถึงผู้คนและตนเองต่อไปครับ...

   ทั้งที่แต่ก่อนเราจะไม่ยอมรับ หรือเกิดโทสะ  เมื่อสัมผัสกับเรื่องราวเหล่านี้

  แต่ตอนนี้กลับอยากจะเข้าใจ  เรียนรู้ ทัศนะของผู้คน..เพื่อที่จะได้เข้าใจเราเอง  และเข้าใจเขา

  ผ่านกระบวนการสุนทรียสนทนา....

หมายเลขบันทึก: 188540เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2008 13:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ผมไม่รู้จริงๆหรอกนะว่าหมอเป็นอย่างไร และผมก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไร

แต่ไม่สนใจ มิได้แปลว่าไม่แคร์นะครับ

เพียงแต่มองว่าผมจะทุกข์มากกว่า ถ้าไปเพ่งหาว่าเขาเป็นอย่างไร แทนที่จะมองว่า เขาทำอะไร ทำไม และอย่างไร

อดีต หมอเป็นอย่างไร ผมก็ไม่รู้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ผมก็ไม่รู้ และก็คงยากที่จะรู้

แต่ผมรู้ว่า ปัจจุบัน หมอทำในสิ่งที่ดีต่อคนอื่นๆ แล้วเราก็เป็นมิตรที่ดีต่อกัน เท่านี้ก็แฮปปี้แล้ว

สวัสดีครับคุณหมอ

พุทธพจน์...คนที่ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลกครับ

ขอแค่เรารักษาใจของเราไม่ให้พิพากษา ตัดสินใครก็พอ แต่หากยังมีเสียงแห่งคำพิพากษา ตัดสินขึ้นมาทั้งๆที่เราไม่มีเจตนา ก็อย่าไปรังเกียจเสียงนั้น เพียงแค่รู้ แล้ว let it go

ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

สวัสดีค่ะ สิ่งที่เราทำดีก็มีคนว่าไม่ดี สิ่งที่คนอื่นทำดี๊ดี แต่เราก็อาจจะคิดว่าไม่ดี เช่นกันเพราะเราไม่ได้รู้จักเขาทั้งหมด แต่เราก็รู้และเข้าใจว่าเราเป็นอย่างไรทำให้เราเข้าใจในความแตกต่างของคนอื่นมากขึ้น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท