ดีเอ๋ยดีใจกับทิศทางการเกษตรแผนใหม่ที่หงสา
สวัสดีครับ
ตั้งใจจะเขียนบันทึกบทนี้มาสองสามเดือนแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสวันนี้เอง ด้วยความประทับใจในนโยบายการเกษตรในเชิงอนุรักษ์ที่ได้พบเจอในลาว จึงนำมาบอกเล่าให้ชาวประชาชีในประเทศสาระขันธ์ให้รับรู้ และ อิจฉาเล่นๆ ว่าถึงแม้นว่านักลงทุนจากต่างชาติจะเข้ามารุมทึ้งทรัพยากร มีการสัมปทานปลูกยาง ปลูกไม้กฤษณากันอย่างกว้างขวาง แต่ขั้นเทิงเขาก็ยังไม่ทิ้งไม่เลิกงานส่งเสริมการเกษตรในเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมครับ
เมื่อนั่งรถผ่านหมู่บ้านต่างๆในลาว นอกจากจะเห็นป้ายชื่อหมู่บ้านแล้ว หลายๆบ้านท่านจะพบป้าย “บ้านยุติการเฮดไร่หมุนเวียน” หันมา “เฮดไร่ถาวอน” หมายความว่าชุมชนนั้นชาวบ้านได้เลิกการทำไร่หมุนเวียน หรือไร่เลื่อนลอย และหันกลับมาทำไร่ทำสวนเป็นที่เป็นทาง ซึ่งจะช่วยลดการถางป่าการเผาป่าลงได้มาก เมื่อมีโอกาสเข้าไปประชุมในห้องสโมสรเมือง ก็ได้พบป้ายผ้าแสดงเป้าหมายที่สำคัญของเมืองคือ “ยุติการเฮดไร่หมุนเวียนในปี 2010” นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความตั้งใจของรัฐ ที่จะลดการทำลายป่า
เดือนที่ผ่านมา ได้พบเห็นอ้ายน้องรัฐกรห้องกสิกรรมฯ เตรียมครอบครัวต้นแบบสำหรับทำการเกษตร แบบใหม่ตามที่ทางแขวงกำหนดทิศทางมา เขาคัดเลือกมาหกครอบครัว เพื่อเป็นศูนย์สาธิตในเรื่อง
· หมูหลุม มีการเตรียมคอก(หลุม) การทำน้ำหมักชีวภาพ และสนับสนุนลูกหมูให้เกษตรกรสองครอบครัว
· การทำไร่แบบไม่เผา และใช้การปลูกถั่วแระปลูกเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน
· การปลูกข้าวใช้ปุ๋ยอินทรีย์แบบใช้กล้าต้นเดียว โดยประยุกต์แบบมาจากเมืองจีน เห็นเขาใช้ไม้ไผ่สานกะบะสำหรับใช้ ในการเพาะต้นกล้าข้าวน่ารักน่าชื่นชมดี
อันนี้เป็นตัวอย่างที่สองของการเกษตรเชิงอนุรักษ์ในหงสา
ส่วนตัวอย่างที่สามที่จะนำมาสำแดง ได้แก่เอกสารเผยแพร่ของกระทรวงกสิกรรม และป่าไม้ เรื่อง “คิดให้ดีก่อนจึ่งปูก” เป็นแผ่นพับที่ว่าด้วยการเตือนเกษตรกรผู้ที่มีที่ดินน้อย ให้คิดให้ดีก่อนตัดสินใจปลูกยางพารา ในเอกสารกล่าวถึง ข้อเสีย ข้อเสี่ยง และทางเลือกในการปลูกพืชอื่นด้วย อันนี้แสดงถึงความจริงใจ และความห่วงใยที่มีต่อพี่น้องเกษตรกรรายย่อย (ไม่เหมือนที่ประเทศสารขันธ์...ไม่เคยเห็นบอกกล่าวประชาชีเช่นนี้ .....) อาจเป็นเพราะที่นี่ไม่มีการประมูลจัดซื้อจัดหากล้ายางฯไปแจกเกษตรกรเหมือนที่อื่น...... แต่เขาใช้วิธีอบรมสอนพี่น้องให้เพาะกล้าให้ติดตายางเอง เพียงแต่สนับสนุนงบประมาณในการอบรม และจัดหาเมล็ดยาง พร้อมทั้งกิ่งพ่อแม่พันธุ์สำหรับติดตาเท่านั้น
นี่ยังไม่รวม เรื่องพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่ยังคงมีมากมายในเมืองหงสานะครับ เอาไว้มีเวลาจะรวบรวมมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสหน้า
ก่อนจบขอรายงานความก้าวหน้าของแปลงสาธิตการปลูก พืชเหลื่อมฤดู งา-ข้าวโพดของผม ว่าท้าวสมจิด ผู้ช่วยผม สามารถใช้น้ำสกัด สะเดา+บอระเพ็ด (เครือกอฮอ) ขับไล่หนอนกัดกินใบงาไปจากแปลงได้สำเร็จไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียวแล้วครับ ตอนนี้ที่แปลงเลยมีอี่นางสาวๆเข้ามาดายหญ้าได้โดยไม่ต้องกลัวเจ้า “โคตร”หนอน “แมงบุ้งเลน” ที่ตัวขนาดนิ้วมืออีกแล้ว
หวัดดีค่ะ อาวปาลี
ปล. เดี๋ยวจะลองเอาเครืออกฮอ มาไล่หนอนกล้วยไม้บ้านป้าแดงจะได้ผล รึป่าวน้อ
หวัดดีเอื้อยครับ
ท้าวสมจิตรบอกว่า ใช้เครือกอฮอ ๑ กก. ใบสะเดา ๑ กก. หั่นป็นชิ้นเล็กๆ หมักใส่น้ำ ๒ ลิตร ทิ้งข้ามคืนไว้ นำมากรอง แล้วผสมกับน้ำสัดส่วน น้ำหมัก ๒ แก้ว ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร ฉีดพ่นได้เลย รับรองผลครับ