บาป บุญ


ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน

 

                          สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่มีแต่ข่าวที่วุ่นวาย

และเศร้าสลดอีกวันหนึ่งข่าวแรกก็นักเรียนหญิงกลัวผิดพลาดด้านการเรียนกลัวจะได้

้เกรดไม่ดีีอันนี้อ่านจากข่าวนะครับ และอีกข่าวหนึ่งคือสองสามีภรรยากินยานอนหลับ

ฆ่าตัวตายสองข่าวนี้ผมก็เขียนไปแล้วตรงกับการเขียนของผมที่ผมพูดไว้ว่ามนุษย์มี

ีสองอย่างในเวลาเดียวกัน ที่คอยเดินเคียงคู่เราไปจนเราตายครับนั่นก็คือคำว่าผิดหวัง

และสมหวัง แต่ถ้าตราบใดที่เราคิดได้อย่างถ่องแท้แล้วมนุษย์จะไม่ทำลายตัวเองเด็ด

ขาด ต้องทำใจไว้ด้วยเพราะละครชีวิตมนุษย์เป็นเรื่องที่ยาวไม่จบลงง่ายๆจนกว่าเรา

จะหมดลมหายใจไปเอง ตราบใดที่ยังต่อสู้ทำกินดิ้นรนกันไป ความผิดหวัง ย่อมมีและ

ผิดหวัง ควบคู่กันไปครับอย่านะครับ อย่าทำลายชีวิตตัวเองอย่างไรเสียก็ปรึกษาคน

รอบข้างก่อนนะครับ อย่ารีบตัดสินใจอะไรลงไปง่ายๆ เพราะเมื่อพลาดผิดลงไปแล้ว

ผู้ที่อยู่ข้างหลังจะเรียกกลับคืนมาไม่ได ้แล้วคนใกล้จะมีทุกข์ขนาดไหนต้องคิดให้มาก

นะครับ ผมเริ่มเรื่องจริงแล้วผมจะเขียน เรื่องผลของบุญและบาป ที่เกิดจากการกระทำ

ของเราเองหาที่จะมีคนอื่นทำกับเราไม่ในเวลาเดียวกัน ดี ชั่ว ก็คู่กันไปอีกเหมือนกัน

ผมเคยบอกแล้วว่า คนเราทุกวันนี้ห่างวัดเพราะต้องทำมาหากิน ปากกัดตีนถีบ ต้อง

ช่วยกันทำกินเพราะทุกสิ่งทุกอย่างต้องหาซื้อมาด้วยเงิน ฉนั้นมนุษย์เราทุกวันนี้

จะบอกว่าแย่งกันทำกินพูดอย่างนี้ก็ไม่ผิดนัก เพราะเ็ป็้นอย่างนั้นจริงๆ เห็นเขาขาย

อะไรดี็ก็้แย่งกันขายบ้าง ผลสุดท้าย เจ้งทั้งคู่และไม่นึกถึงบาปบุญเพียงแต่ขอให้ได้

้มาจะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ขอให้ได้มาก็แล้วกัน ใจของคนเราจึงมองหาความสุขไม่

ค่อยเจอ เราดูสิทุกวันนี้เราจะถามเขาว่า เป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือ เราจะได้ยิน

เขาตอบมาเลยว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่เขาหาคิดไม่ว่าที่

นอนไม่หลับเพราะเขากังวลมีทุกข์อยู่ในใจ อย่างดีก็ซื้อยานอนหลับมากินเพื่อ

ให้ได้หลับเป็นพอกินบ่อยๆก็ดื้อยาอีก ฉนั้นเราต้องเข้าวัดหาพระทำบุญสร้างกุศล

ผลบุญไว้ให้มากๆ และ เป็นผู้รู้จักให้ ไม่ใช่เป็นแต่เพียงหวังกอบโกยผลประโยชน์

มาให้ตัวเองเท่านั้นเป็นพอ ถ้า้เราไม่ทำบุญหรือสร้างกุศลสร้างทานบารมี ท่านก็จะ

มีแต่ความทุกข ์ทุกวันนี้เราก็เบียดเบียนสัตว์โลกด้วยกันอยู่แล้ว เช่นฆ่าสัตว์เพื่อมา

กินเพื่อความอยู่รอดของเรา เป็นอย่างนี้อยู่ทุกวันแล้วท่านไม่คิดหรือในแต่ละวัน

เราสร้างกรรมโดยไม่เจตนามาเท่าไร แล้วอย่างนี้เราไม่สร้างบุญนานเข้ากรรมที่

ี่เราก่อไว้ก็จะมาเกาะกินเราให้ได้รับทุกข์ บางท่านก็ทำงานด้วยความจำเป็น เช่น

ฆ่าสัตว์เป็นอาชีพ ผมมีญาติคนหนึ่งมารู้ทีหลังว่าเขาทำงานโรงฆ่าสัตว ์ผมก็ถาม

ว่าไม่กลัวบาปหรือ เขาบอกว่าผมกลัวบาป แต่พี่แก้วคิดสิว่า ถ้าผมไม่ทำอาชีพนี้

แล้วผมจะไปทำอะไร เพราะผมไม่มีความรู้เรียนมาก็น้อย แต่เมื่อลูกผมเรียนจบ

แล้วผมก็จะเลิกอาชีพนี้ แล้วก็จะบวชล้างบาป อุทิศส่วนกุศลให้เขาที่เราเคยฆ่า

เขา ผมก็บอกว่าดีแล้วจะได้หมดเวรหมดกรรมต่อกัน เพราะชีวิตใคร ใครก็รัก

เขาก็เหมือนเรานั่นแหละ แต่เขาไม่มีโอกาสได้ต่อสู้จึงแพ้แก่เรา แต่ในเวลา

เดียวกันเมื่อเราสร้างบาปมาแล้วบาปนั้นจะติดตามเราไป

                ที่ผมนำเรื่องบาปบุญมาคุยวันน ี้เพราะผมอยากจะชวนทุกท่านที่

ี่อ่านและฟังรายการผมจงอ่านและบอกต่อด้วยครับ ผมเคยถามพระองค์หนึ่ง

ถามว่าเราฆ่าสัตว์หรือเบียดเบียนใครเขา เราจะบาปไหมพระท่านตอบว่าบาป

สิไม่บาปได้อย่างไร โยมลองปลูกต้นไม้สักต้นสิเอาต้นมะม่วงก็ได้หรือต้นขนุน

ก็ได้ นำมาปลูกแล้วโยมรดน้ำพรวนดินอยู่เป็นประจำ นานวันเข้าเราก็ได้ผลของ

ต้นนั้นใช่ไหม ฉันใดก็ฉันนั้นมนุษย์จะเป็นใครจะเป็นคนรวยคนจนเมื่อทำสิ่งใดดี

ก็ได้ผลดีตอบแทน แต่ถ้าทำผลร้าย หรือสิ่งที่ชั่วร้าย ผลร้ายนั้นก็จะได้บังเกิดกับ

ผู้กระทำแน่นอน เช่นเดียวกับที่โยมปลูกต้นไม้ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน เพราะฉนั้นเรา

รู้ว่าสิ่งไหนไม่ดีก็อย่าไปทำมัน ไหนจะเกิดมาเป็นมนุษย์สักครั้งหนึ่งจะสร้างแต่คุณ

งามความดีไม่ได้หรือ บุญนะทำง่ายกว่าบาปเสียอีก บุญเราทำเราก็ได้กุศลเลย

แต่เวลาทำบาปทำยากกว่าเรายังอยากจะทำอีกเช่นเราจะขะโมยของเขาสักอย่าง

หนึ่ง เราต้องมองหน้ามองหลังมองซ้ายมองขวา มองดูว่าจะมีใครจ้องมองเราอยู่

หรือเปล่าแล้วผิดกฎหมายบ้านเมืองแล้วเรายังจะทำอีก สู้เราทำความดีไม่ดีกว่าหรือ

จากการที่ผมได้พูดคุยกับพระนะครับ และยังมีอีกหลายเรื่องครับที่ผมจะนำมาเล่า

ให้ท่านและผู้อ่านได้ฟังกันอีกครับในโอกาสต่อไป

                        สำหรับวันนี้ผมขอจบแค่นี้ก่อนและสิ่งที่ผมขอฝากนะครับ *วันหยุด

ช่วยกันจูงลูกหลานของท่านเข้าวัดให้บ่อยนะครับอย่าไปคิดว่าเ็ด็้กสร้างความรำคาญ

ให้เรานึกว่าเราได้ช่วยให้เด็กมีความอ่อนโยนไปในตัวเพราะท่านสังเกตุไหมว่าพระทุก

รูปท่านจะสงบมีสมาธิตลอดเวลาสิ่งที่เด็กได้เห็นอย่างนี้เราไม่สอนแต่เด็กเห็นเด็กก็นำ

ไปปฏิบัติครับ เพราะอะไรหรือก็เพราะเวลาเราไปหาพระเราไปกราบพระที่สงบเรียบร้อย

เด็กก็เห็นแล้วว่าผู้ใหญ่เขาไหว้ให้ความเคารพผู้ที่สงบเรียบร้อย อย่างนี้เด็กได้คิดก็ต้อง

ทำตามและตัวเด็กเองก็ต้องประพฤติปฏิบัติตนให้สงบเสงี่ยมเรียบร้อยเช่นพระได้เหมือน

กัน ถึงจะได้มาน้อยกว่าก็ยังดีกว่าให้ไปเรียนแบบเพื่อนๆที่กระโกกระเดกไม่ดีกว่าหรือ

แล้วเด็กเข้าวัดบ่อยครั้ง เพราะที่วัดมีแต่ของดีๆทั้งนั้น เราต้องเอามาไว้ในตัวเราและเด็ก

ของเราด้วย พอเด็กเห็นอย่างนี้แล้ว เด็กก็จะทำแต่ความดีสังคมของเราก็จะมีแต่คนดี

มีคุณภาพแต่ส่วนมากคนจะเห็นเรื่องบาปสำคัญ ที่เห็นอย่างนั้นเพราะ มารชอบดลใจ

ให้มนุษย์ทำบาป และเป็นอย่างไรไม่รู้มนุษย์ก็ชอบทำบาปกันมากด้วยเวลานี้สังเกตุกัน

ให้ดีผมยังเคยเล่าออกอากาศเลยนะครับว่า ทุกวันที่คนเราห่างวัดเพราะการงานมันบีบ

รัดหยุดงานไม่ได้จะหยุดก็หยุดวันเสาร์ วันอาทิตย์ ก็เลยไม่ตรงกับวันพระ

                        ผมเคยเสนอไว้นะครับว่าประเทศของเราควรจะมีวันหยุด วันพระด้วย

อย่างวันพระแปดค่ำวันพระสิบห้าค่ำเป็นวันหยุดทางราชการด้วยเพราะนับถือศาสนาพุทธ

กันมาก และสาสนาอื่นก็หยุดด้วยเหมือนกันถ้าวันนั้นตรงกับวันสำคัญทางศาสนา เราต้อง

หยุดให้เช่นเดียวกัน ถ้าเราจะบอกว่ามีวันหยุดมากทำให้งานราชการไปได้ช้า ผมว่าถึง

งานราชการมีวันหยุดมากในหนึ่งเดือนมีวันหยุดเพิ่มอีกสี่วันไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคนที่

ไม่เข้าวัดทำให้คนในสังคมมีปัญหามากกว่า สมควรจะหยุดนะครับ วันหยุดวันพระนะครับ

ช่วยบอกต่อไปด้วยนะครับ ถ้าประเทศเราไปได้ช้าเพราะวันหยุดมากผมเข้าใจ แต่ในเวลา

เดียวกันประเทศของเรามีคนที่มีคุณภาพทางด้านจิตใจมากมากจะไม่ดีกว่าหรือ เมื่อคน

เรามีจิตใจที่มีคุณภาพดีแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเดินไปในทิศทางที่ดีอย่างนี้้จะทำให้สังคม

ของประเทศไม่วุ่นวาย ผมคิดอย่างนี้นะครับผมหวังว่าผมอ่านและผู้ฟังคงจะไม่ตำหนิผม

นะครับว่าเอ๊ะมาเขียนเรื่องอะไรให้อ่านแต่ท่านคิดให้ดีนะครับเพราะผมเป็นเด็กวัดผมเข้าใจ

คนที่ไปวัด คนที่เข้าวัด ฟังเทศน์ฟังธรรมได้ดีครับ

                   สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกๆท่านจงมีความสุขกายสุขใจหมั่นเข้าวัดบ่อยๆนะครับ

เรื่องที่ว่าพระไม่ดีไม่อยากเข้าวัดอย่ามองตรงประเด็นนั้นนะครับถ้าเรามองอย่างนั้นเสียหมด

แล้วเราจะมองหาสิ่งที่ดีจากไหนจงมองเสียว่านั่นเป็นภาพของมารที่มาบ่อนทำลาย พระศาสนา

ของเราดีกว่าถ้าคิดได้อย่างนี้แล้วใจเราจะเป็นสุขกับ พระศาสนา เป็นอย่างมากเพราะศาสนา

พุทธเ็ป็้นศาสนาที่ละเอียดอ่อน ผู้ที่เข้ามารับไม่ได้เขาก็ออกไปเองหรือที่เรียกว่าแพ้ภัยตัวเอง

นั่นแหละอย่าไปคิดมากนะครับจงมองและเลือกทำบุญให้ดีหรือถ้าเราไม่รู้แล้วเราได้ทำบุญนั้น

ไปเราก็ถือเสียว่านั่นเราได้บุญแล้ว ผมขออธิบายเพิ่มหน่อยนะครับว่าคำพูดของพระ บางคน

ไม่เข้าใจแต่บางคนถ้าไปวัดบ่อยจะเข้าใจอย่างตัวอย่างนะครับเท่าที่ผมเป็นเด็กวัดผมจะได้ยิน

เป็นประจำบางคนทำบุญแล้วเอาสังฆทานมาถวายหลวงพ่อเสร็จแล้วก็เดินดูรอบวัดเห็นอากาศ

ร่มรื่นดี ในเวลาเดียวกันก็เห็นมีคนหิ้วของสังฆทานที่ถวายพระหิ้วผ่านไป ก็มาถามหลวงพ่อว่า

เมื่อสักครู่ผมนำสังฆทานมาถวายหลวงพ่อแล้วทำไมหลวงพ่อจึงเอาของนั้นให้คนอื่นไป ผม

ไม่เข้าใจครับ หลวงพ่อบอกว่าโยมมาทำบุญโยมก็ได้บุญแล้วนั่นหนึ่งและที่อาตมานำของสิ่งนั้น

ให้โยมเขาไปนั่นคืออาตมาให้ทานเขา เขามีทุกข์เขาจึงมาขอแต่บุญที่โยมทำนั้นได้อยู่แล้ว ใน

เวลาเดียวกันอาตมาทำทานไปของนั้นก็คือของโยม แต่โยมก็ยังได้ทานจากที่อาตมาให้เขา

ต่อไปด้วย จึงทำให้โยมท่านนั้นเข้าใจเรื่องนี้สำคัญนะครับบางทีเราจะเห็นโยมนำเงินมาถวาย

หลวงพ่อหรือพระในวัดแล้วบอกว่าหลวงพ่อผมถวายเงินให้หลวงพ่อแล้วแต่หลวงพ่อจะทำอะไร

นะครับ อันนี้ก็เป็นเจตนาของผู้ให้เพราะผู้ให้ไม่ได้เจาะจงลงไปว่าให้นำเงินไปทำอะไร อันนี้ว่า

พระท่านไม่ได้แต่ถ้าโยมมา ถวายเงินสร้างโบสถ ์สร้างกุฏิ หอสวดมนต ์หอระฆัง ก็ต้องทำตาม

วัตถุประสงค์ของโยมท่านนั้น อย่าได้นำเงินไปเป็นธุระของตัวเองซะหมดเพราะผมเห็นคณะ

กรรมการขัดใจกันมามากแล้ว เพราะไม่เข้าใจในเจตนาของผู้ให้แล้วก็ว่าพระ ผมเด็กวัดเลย

ต้องขออธิบายนิดหนึ่งครับเพราะมีคนถามผมหลายคนมากแล้วครับ

สวัสดีครับ

จาก แก้า สาริกา

0818255736    0899039098

 

หมายเลขบันทึก: 187400เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2008 22:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2014 07:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท