พิธีไหว้ครู


พิธีไหว้ครู
พิธีไหว้ครูในโรงเรียน โดยปรกติสถานศึกษามักจัดพิธีไหว้ครูขึ้นในวันพฤหัสบดีวันใดวันหนึ่งในราวเดือนพฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายน ดอกไม้ที่ใช้ในการไหว้ครู ในพิธีไหว้ครูนับตั้งแต่สมัยก่อน จะใช้ดอกไม้หลัก 3 อย่างในการทำพาน ซึ่งดอกไม้้ ความหมายในการระลึกคุณครู ได้แก่ หญ้าแพรก สื่อถึง ขอให้เรียนได้เร็วเหมือนหญ้าแพรก ที่โตได้เร็วและทนต่อสภาพดินฟ้า อากาศ ทนต่อการเหยียบย่ำ ซึ่งเปรียบเสมือน คำดุด่าของครูบาอาจารย์ ดอกเข็ม สื่อถึง ขอให้มีสติปัญญาเฉียบแหลม เหมือนชื่อของดอกเข็ม ดอกมะเขือ สื่อถึง การเปรียบเทียบว่า มะเขือนั้น จะคว่ำดอกลงเสมอเมื่อจะออกลูก แสดงถึง นักเรียนที่จะเรียนให้ได้ผลดีนั้นต้องรู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตน เป็นคนสุภาพเรียบร้อย เหมือนมะเขือที่โน้มลง ข้าวตอก สื่อถึง ความรู้ที่แตกฉาน เหมือนลักษณะของข้าวสาร วิธีจัดงาน การพิธีไหว้ครู ตามแบบที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ จะต้องเตรียมสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ สถานที่ โต๊ะหมู่บูชา โดยตั้งไว้ที่สูงบนเวทีชิดด้านหลัง ข้างหน้ามีกระถางดอกไม้และธูปเทียน และ โต๊ะ เพื่อว่างพานดอกไม้และธูปเทียนที่นำมาบูชา หนังสือ เพื่อให้ประธานเจิม โดยเอาหนังสือวางไว้บนพาน บนโต๊ะเล็กหน้าที่บูชา ที่นั่งประธาน และ คณาจารย์ จัดไว้ข้างๆ ที่บูชา ที่นั่งสำหรับนั่งเรียน สิ่งที่ต้องเตรียมในการไหว้ครู พานดอกไม้ มีดอกไม้ หญ้าแพรก (หมายถึง การเจริญงอกงามของสติปัญญา) ดอกมะเขือ (หมายถึง การอ่อนน้อมถ่อมตน) ดอกเข็ม (หมายถึง เฉลียวฉลาด) จัดให้สวยงาม ธูปเทียน พิธีการ เมื่อประธานมาถึง นักเรียนทั้งหมดยืนขึ้น และ ทำความเคารพ จุดธูปเทียน นมัสการพระพุทธรูปที่แท่นหมู่บูชา เริ่มพิธีโดยการสวดมนต์ต์ หลังจากนั้นกล่าวคาถาไหว้ครู และวรรคแรกของคำไหว้ครู เมื่อกล่าวคำไหว้ครูเสร็จแล้ว ให้ว่าคาถาไหว้ครูตอนท้าย ตัวแทนนักเรียนกล่าวคำปฏิญาณตน ประธานเจิมหนังสือ เพื่อความเป็นสิริมงคล คำไหว้ครู (หัวหน้ากล่าวคาถาไหว้ครู) ปาเจราจะริยาโหนติ คุณุตตะรา นุสาสะกา ข้าขอประณตน้อมสักการ (นักเรียนทุกคนรับพร้อมกัน) บูรพคณาจารย์ ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าฯ ในกาลปัจจุบัน ข้าฯ ขอเคารพอภิวันท์ (ให้ออกเสียง อบภิวันท์) ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา ขอเดช กตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าและประเทศไทยเทอญ (หัวหน้ากล่าวคาถาไหว้ครูตอนจบ) ปัญญาวุฑฒิ กะเรเต เต ทินโนวาเท นะมามิหังฯ คำปฏิญาณตน เราคนไทย ใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ เรานักเรียนจักต้องประพฤติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียนมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น เรานักเรียนจะต้องไม่ทำตนให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น
ในโรงเรียน โดยปรกติสถานศึกษามักจัดพิธีไหว้ครูขึ้นในวันพฤหัสบดีวันใดวันหนึ่งในราวเดือนพฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายน ดอกไม้ที่ใช้ในการไหว้ครู ในพิธีไหว้ครูนับตั้งแต่สมัยก่อน จะใช้ดอกไม้หลัก 3 อย่างในการทำพาน ซึ่งดอกไม้้ ความหมายในการระลึกคุณครู ได้แก่ หญ้าแพรก สื่อถึง ขอให้เรียนได้เร็วเหมือนหญ้าแพรก ที่โตได้เร็วและทนต่อสภาพดินฟ้า อากาศ ทนต่อการเหยียบย่ำ ซึ่งเปรียบเสมือน คำดุด่าของครูบาอาจารย์ ดอกเข็ม สื่อถึง ขอให้มีสติปัญญาเฉียบแหลม เหมือนชื่อของดอกเข็ม ดอกมะเขือ สื่อถึง การเปรียบเทียบว่า มะเขือนั้น จะคว่ำดอกลงเสมอเมื่อจะออกลูก แสดงถึง นักเรียนที่จะเรียนให้ได้ผลดีนั้นต้องรู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตน เป็นคนสุภาพเรียบร้อย เหมือนมะเขือที่โน้มลง ข้าวตอก สื่อถึง ความรู้ที่แตกฉาน เหมือนลักษณะของข้าวสาร วิธีจัดงาน การพิธีไหว้ครู ตามแบบที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ จะต้องเตรียมสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ สถานที่ โต๊ะหมู่บูชา โดยตั้งไว้ที่สูงบนเวทีชิดด้านหลัง ข้างหน้ามีกระถางดอกไม้และธูปเทียน และ โต๊ะ เพื่อว่างพานดอกไม้และธูปเทียนที่นำมาบูชา หนังสือ เพื่อให้ประธานเจิม โดยเอาหนังสือวางไว้บนพาน บนโต๊ะเล็กหน้าที่บูชา ที่นั่งประธาน และ คณาจารย์ จัดไว้ข้างๆ ที่บูชา ที่นั่งสำหรับนั่งเรียน สิ่งที่ต้องเตรียมในการไหว้ครู พานดอกไม้ มีดอกไม้ หญ้าแพรก (หมายถึง การเจริญงอกงามของสติปัญญา) ดอกมะเขือ (หมายถึง การอ่อนน้อมถ่อมตน) ดอกเข็ม (หมายถึง เฉลียวฉลาด) จัดให้สวยงาม ธูปเทียน พิธีการ เมื่อประธานมาถึง นักเรียนทั้งหมดยืนขึ้น และ ทำความเคารพ จุดธูปเทียน นมัสการพระพุทธรูปที่แท่นหมู่บูชา เริ่มพิธีโดยการสวดมนต์ต์ หลังจากนั้นกล่าวคาถาไหว้ครู และวรรคแรกของคำไหว้ครู เมื่อกล่าวคำไหว้ครูเสร็จแล้ว ให้ว่าคาถาไหว้ครูตอนท้าย ตัวแทนนักเรียนกล่าวคำปฏิญาณตน ประธานเจิมหนังสือ เพื่อความเป็นสิริมงคล คำไหว้ครู (หัวหน้ากล่าวคาถาไหว้ครู) ปาเจราจะริยาโหนติ คุณุตตะรา นุสาสะกา ข้าขอประณตน้อมสักการ (นักเรียนทุกคนรับพร้อมกัน) บูรพคณาจารย์ ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าฯ ในกาลปัจจุบัน ข้าฯ ขอเคารพอภิวันท์ (ให้ออกเสียง อบภิวันท์) ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา ขอเดช กตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าและประเทศไทยเทอญ (หัวหน้ากล่าวคาถาไหว้ครูตอนจบ) ปัญญาวุฑฒิ กะเรเต เต ทินโนวาเท นะมามิหังฯ คำปฏิญาณตน เราคนไทย ใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ เรานักเรียนจักต้องประพฤติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียนมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น เรานักเรียนจะต้องไม่ทำตนให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น
คำสำคัญ (Tags): #พิธีไหว้ครู
หมายเลขบันทึก: 187005เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2008 09:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 21:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

วัตถุมงคล 3 อย่าง สำหรับการไหว้ครู
เดือน มิถุนายน เป็นเดือนของการไหว้ครู(พิธีไหว้ครู) ของชาวโรงเรียน โดยทั่วไปจัดในวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่สอง มีบางส่วนใช้สัปดาห์ที่สะดวก ในโอกาสนี้ก็ถือโอกาสแบ่งปันความรู้ พิธีไหว้ครู พิธีไหว้ครู คือ การแสดงความกตัญญูต่อผู้ให้ปัญญา โดยทั่วไป พิธีไหว้ครูมักจะจัดในวันพฤหัสบดี ด้วยถือว่าพระพฤหัสเป็นเทพที่ส่งเสริมวิทยาการและความเฉลียวฉลาด ซึ่งเป็นคุณสมบัติของครู จึงถือเอาวันนี้เป็นวันไหว้ครู เพื่อความเป็นสิริมงคล
พระพรหมคุณาภรณ์ได้เขียนในหนังสือ”ธรรมนูญชีวิต” ว่าในทางพุทธศาสนา ถือว่า ครูอาจารย์ คือ ทิศเบื้องขวา หมายถึง ผู้ที่ควรเคารพ ซึ่งมีหน้าที่ต่อศิษย์ตามหลักธรรมอยู่ ๕ ประการคือ
๑. แนะนำฝึกอบรมให้เป็นคนดี
๒. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
๓. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
๔. ส่งเสริมยกย่องความดีงามความสามารถให้ปรากฏ
๕. สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ คือ สอนฝึกให้สามารถใช้วิชาเลี้ยงชีพ และรู้จัก ดำรงรักษาตนในอันที่จะดำเนินชีวิตต่อไปด้วยดีและในฐานะศิษย์
ทางพุทธศาสนาก็สอนให้แสดงความคารวะนับถือตอบครูอาจารย์ ๕ประการเช่นกัน คือ
๑. ลุกต้อนรับ แสดงความเคารพ
๒. เข้าไปหา เพื่อบำรุง รับใช้ ปรึกษา ซักถาม รับคำแนะนำ ฯลฯ
๓. ฟังด้วยดี ฟังเป็น รู้จักฟังให้เกิดปัญญา
๔.ปรนนิบัติ ช่วยบริการ
๕. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ เอาจริงเอาจัง ถือเป็นกิจสำคัญ
ในสมัยโบราณวัตถุมงคลที่ใช้สำหรับไหว้ครูมี 3 อย่างคือ
1.หญ้าแพรก ทนต่อแดด ทนต่อการเหยียบย่ำ เป็นการสอนลูกศิษย์ให้เอาอย่าง ให้มีความอดทนในการเรียน อดทนต่อความยากลำบาก เหมือนหญ้าแพรก
2.ข้าวตอก คือข้าวสารนำไปคั่วให้สุก จึงบานเป็นข้าวตอกและมีกลิ่นหอม สอนให้ยอมรับการอบรมสั่งสอน ยอมให้เคี่ยวเข็ญด้วยความเคารพ เหมือนข้าวตอกที่ถูกคั่ว เพื่อจะได้บานคือ มีความรู้งอกงาม มีกลิ่นหอมคือ เป็นเสน่ห์ในสังคมต่อไป
3.ดอกมะเขือ ดอกมะเขือทุกดอกมีลักษณะพิเศษแตกต่างจากดอกไม้ทั่วไปคือ จะชูกลีบดอกลงสู่เบื้องล่าง คล้ายกับจะบอกว่า ตัวข้านี้เกิดจากดิน จากปุ๋ย แต่ตัวข้าไม่ลืมดิน ไม่ลืมปุ๋ย สอนศิษย์ ไม่ควรลืมบุญคุณของครู-อาจารย์ ควรเคารพและกตัญญูกตเวทีต่อครู-อาจารย์ตลอดไป

  สาธุสะจะขอไหว้             พระศรีไตรสรณา
                      พ่อแม่แลครูบา                          เทวดาในราศี
                      ข้าเจ้าเอากอขอ                         เข้ามาต่อกอกา
                      มีใส่ไว้ในเท่านี้                           ขออย่ามีที่โทษา

ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตรานุสาสกา ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าในกาลปัจจุบัน ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ชาติและประเทศไทยเทอญ ปัญญาวุฒิ กเรเตเต ทินโนวาเท นมา กาพย์ฉบัง ๑๖ ที่เราสวดในวันไหว้ครูทุก ๆ ปีนี้มีคุณค่าทางจิตใจแก่เราเป็นอันมาก จะทำการใดต่อ ๆ ไปรู้สึกอบอุ่นใจว่าเป็นศิษย์มีครู มีผู้คอยสอดส่องดูแลให้เราทำได้ดีถูกต้อง ในวงการศิลปะไม่ว่าจะเป็นดนตรี นาฏศิลป์ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม วิศวกรรม ฯลฯ ล้วนมีการไหว้ครูก่อนแสดงทั้ง พวกดนตรี นาฏศิลป์ จึงมักจะมีพิธีไหว้ครู ครอบศีรษะก่อนจะแสดงหรือออกไปประกอบกิจกรรมเสมอ มักมีพิธีใหญ่โตเป็นประจำทุกปี ครูของช่างทั้งหลายทั้งปวงนั้น มักจะเป็นพระพิฆเณศร หรือพระวิษณุกรรม พระประโคนธรรพ ครูของวรรณศิลป์จะเป็นพระสุรัสวดี เป็นต้น ในวงการศิลปะทั้งมวล ผู้ประกอบการศิลปะมักจะแสดงความเคารพทุกครูบาอาจารย์อย่างจริงใจ แม้แต่ ครูพักลำจำคือ จำเอาจากที่ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังมาก็ถือเป็นครู ผู้ใดลบหลู่ดูหมิ่น ไม่เคารพครูบาอาจารย์มักไม่ค่อยเจริญ ในการแสดงทางศิลปะ การไหว้ครูจึงเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้ พิธีกรรมในการจัดไหว้ครูนั้น เป็นสิ่งที่ควรรู้และระลึกไว้เสมอว่า ผู้หวังเจริญในการประกอบศิลปะทั้งหลายทั้งปวง การไหว้ครูเป็นสิ่งที่ขาดมิได้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท