ผู้มีปัญญาย่อมตามพิจารณาจิต


      ชีวิตที่ผ่านมา ประสบการณ์ที่สั่งสม ล้วนก่อให้เกิดการเรียนรู้ต่างๆ มากมาย
ไม่ว่าจะดีหรือร้าย  ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีค่า  หากเรารู้จะที่จะนำมาเป็นบทเรียน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิม 

"ในส่วนดีมีส่วนเสีย ในส่วนเสียมีส่วนดี ่เพราะมีส่วนเสีย จึงทำให้เราเห็นส่วนดีชัดขึ้น      ในความยากไร้ย่อมมีโอกาสแฝงอยู่   ในความสุขยังมีความทุกข์ปะปนอยู่  ในความทุกข์มีความสุขให้เราเจือปนอยู่   ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิต ขอให้ดำรงสติมั่นด้วยความไม่ประมาท  ให้ทุกขั้นตอนของชีวิตประกอบด้วย สติ คือ ความระลึกรู้  เราจะเห็นว่า  ไม่ว่าสุขหรือทุกข์  ดีหรือร้าย  ก็จะผ่านพ้นไปได้..   มันไม่มีอะไร ให้เรายึดติดหรือหวงแหน  ... สุดท้ายทุกอย่างคงเหลือเพียงความทรงจำ  ที่ว่างเปล่า .. 

     พระพุทธเจ้ากล่าวว่า  "ผู้มีปัญญาย่อมตามรักษาจิต"   เราประทับใจกับทุกถ้อยคำในพุทธพจน์   เสียดายที่เราก็ยังไม่ได้เป็นพหูสูตในด้านนี้มากนัก  มีเพียงความสนใจ แต่ยังไม่ได้ศึกษาเต็มที่  ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ในหลักการใหญ่ๆ  ก็คือ  พิจารณาตน  พิจารณาความเกิดขึ้นตั้งอยู่ และ ดับไป  แห่งกายนี้  .. ดูลมหายใจเข้า  หายใจออก...  ทุกเช้าเดินมาที่คณะด้วยใจที่เบิกบาน หายใจเข้า ออก สูดอากาศบริสุทธิ์ ...กำหนด พุทโธ ในใจ   ...  สังเกตุความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทุกขณะ  ทำบ่อยเข้า ทุกวัน ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงแห่งจิตตน    ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบาย... เนื่องจาก ผู้ปฏิบัติย่อมรู้ได้เฉพาะตน...  ความสงบแห่งจิตใจ  มันทำให้จิตมีพลัง   การกำหนดรู้ความเคลื่อนไหว  ความเปลี่ยนแปลงตามความเป็นจริง   ทำให้เราสามารถที่จะแก้ปัญหาทุกข์อย่างได้     เราจึงตั้งใจที่จะฝึกๆ ต่อไป   ... 

     บันทึกฉบับนี้  ก็เป็นเพียงบันทึกเรื่องราว ...ฝากไว้ให้คนที่ระลึกถึงกันได้พอเป็นเครื่องระลึกถึง  ไม่ได้มีแก่นสารอะไรมากมาย  และก็ไม่ได้มุ่งหวังอะไรนัก ... ท่านผู้ใดผ่านมาอ่าน  แล้วก็ผ่านไป  จะีมีจิตยินดี หรือ ยินร้าย หรือ เฉยๆ ก็ตาม   พิจารณาดูจิตตน ... เนื่องด้วย ปัญญาย่อมไม่เกิดแก่ผู้ไม่พิจารณา  หากปล่อยวางได้  ก็ไม่เสียหายอะไร   ... 

    ก่อนจะจบประทับใจ คำกล่าวหลวงปู่เทสก์ ก็ขอบันทึกเตือนความจำย้ำความคิดของตน
    " การเห็นเป็นเหตุของการคิด  การคิดเป็นเหตุของการเห็น  คิดดีก็ไปทางเย็น  คิดไม่เป็นก็เย็นสบาย"

    ในโลกแห่งนี้  หากเราปรารถนาสุขที่ไม่คงทนถาวร  เพียงเพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข  ก็ขอเพียงคิดดี พูดดี ทำดี   ก็จะทำให้โลกมีความสุข สันติ ด้วยเมตตาธรรม... แต่หากปรารถนาที่จะรู้แจ้ง ถึงการพ้นทุกข์ที่ถาวร  ก็มีเพียงทางสายเดียว คือ สติปัฏฐานสี่   ใครปฏิบัติได้ ปฏิบัิติอยู่ กำลังคิดจะทำ...ก็ขอให้สำเร็จผล  ... อนุโมทนาจ้ะ

 

คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิด
หมายเลขบันทึก: 185317เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2008 16:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เคยได้ยิน ใช้วินัยเชิงบวกกับคนรอบข้าง  ทำให้เราสงบสุข

แหม วันนี้รับ ธรรม ตอนค่ำ เชียว

หลวงปู่คำพัน อุปัชญาย์ ผมสอนไว้ ให้โอวาทตอนบวช

"หน้าที่ของนักบวช ก็คือเอาสติไปตามดูจิต เฝ้าระวังจิต รักษาจิต

เพราะจิตมันมีหน้าที่คิด คิดดี คิดชั่ว ผิด ถูก ไม่รู้ รู้แต่ว่าข้ามีหน้าที่คิดเท่านั้น

ความสมบูรณ์ของศีล สมาธิ ปัญญา อยู่ที่สติ

รักษาไว้เด้อ ลูกเอ้ย"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท