บันทึกโอเอ็ม...ภูเขางามรีสอร์ท นครนายก
เป้ง !
เสียงเหรียญสิบบาทกระทบเข้ากับผนังด้านในของกระป๋องใส่นมผงขนาดเขื่องยี่ห่อหนึ่ง ที่ตั้งอยู่กลางห้องประชุม มีระยะไกลไม่เกิน ๒ เมตร จากคนที่โยนมันลงไปด้วยการโยนครั้งเดียว
คนรายรอบกระป๋องใบนั้นปรบมือ แสดงอาการดีใจพร้อมกับหัวเราะเสียงดังแทบจะพร้อมกัน
ในขณะที่ชายคนหนึ่งกลับทำท่าเหมือนไม่สนใจ เอาแต่นั่งเล่นอินเตอร์เน็ตที่โซฟาหวาย ใกล้ทางเดินอีกฟากหนึ่งของห้อง
เขาหันไปมองและเหลือบตาดูหน่อยหนึ่งก่อนที่จะทำท่าพิมพ์อะไรต่อไป
............เสียงที่ได้ยินเงียบหายไปช่วงหนึ่ง
“อ้าว... ต่อไปคนสุดท้ายของกลุ่ม ๓ มาเลยครับ กล่องอ้าปากรอจนเมื่อยแล้ว” คนนำเกมเรียกหาอย่างอารมณ์ดี
............สิ้นเสียงจากไมโครโฟน
เขาหันมาอีกรอบ ก่อนที่ลุก แล้วเดินมาอย่างช้าๆ เหมือนเข็มนาฬิกาที่เหนื่อยล้ากับการเดินทางมาแสนนาน แม้ว่าจุดที่เขานั่งกับที่โยนเหรียญจะห่างไม่ถึง ๑๕ เมตรก็ตาม
เขาแหวกคนข้างหลังสุดไปด้านหน้า ก่อนที่จะประจันหน้ากับสิ่งที่เขาทำท่าเฉยเมยก่อนหน้านั้น
“ไม่ไกลเท่าไหร่” เขาบอกตัวเอง “มันก็แค่เหรียญกับกระป๋องนมธรรมดาใบหนึ่ง” เขาย้ำความคิดตัวเองอีกครั้ง
ทำไมจะโยนไม่ลง ลงอยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่เคยโยน เมื่อกี้ขนาดลองโยนเล่นๆ ยังลงเลย...เขาพึมเพาในใจอีกนิดหน่อย
ตึ๊ก ! เสียงเหรียญจากมือของเขากระโดดข้ามกระป๋องไปราว ๒ นิ้ว ตกลงที่พื้นแล้วไหลไปคว่ำนิ่งไม่เคลื่อนไหว
เหรียญไม่ลงกระป๋อง มันเลือกเส้นทางของมันอย่างนั้นหรือ ?
มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย อะไรทำให้เป็นอย่างนั้น...เขาพึมพำส่ายหัวแสดงอาการไม่เชื่อในความเชื่อมั่นของตนเอง
--------------------------------------------
แม้ว่าเขาจะทำท่านั่งพิมพ์งานเหมือนไม่สนอะไร แต่ในใจมันอึดอัด เขารู้ เขาไม่อยากได้ยินเสียงเหรียญกระทบผนังด้านในกระป๋อง เขาอยากกระโดดสะบัดเสียงนั้นให้มันหลุดออกไปจากหัว
เขาพึมพำ....เราวางแผนไว้แล้วว่า น่าจะได้แต้มในกลุ่มที่นำอยู่ ถ้า ๓ คนแรกโยนลง แต่ที่โยนมามันไม่เป็นอย่างนั้น ไม่ได้เลยสักแต้ม เพื่อนเราโยนไม่ลงกระป๋องเลย กลุ่มอื่นก็ไม่ต่างจากเรามากนักนี่นา แต้มที่เหลือเราต้องทำให้ได้ตามที่วางไว้ เพื่อนคนก่อนโยนเข้าไปแล้ว เราได้ ๓ แต้ม แม้จะตามกลุ่มแค่กลุ่มเดียว แต่ก็นำบางกลุ่มอยู่เหมือนกัน
เอาละสิ อีกคนก็โยนไม่ลงอีก เราพลาด ๑๐ แต้มไปอย่างน่าเสียดาย
ถ้าเราโยนลงก็จะได้ ๗ แต้ม มันเป็นคะแนนที่สูงที่สุด แน่นอน....เราอาจชนะ
เขานั่งทำท่าพิมพ์งานต่อไป
-----------------------------------------
หลังจากยืนในจุดที่ต้องโยนเหรียญ เขาหรี่ตามองด้วยสายตาที่สงสัย...ทำไมปากกล่องมันเล็กลง จุดที่ยืน ดูเหมือนห่างออกไปจากเดิมอีก เพื่อนในกลุ่มก็จ้องดูว่าเหรียญเราจะเข้าไปอยู่ในนั้นไหม....
โอย...ใจมั่นสั่น มือสั่นด้วย ทำไงดีนะ
ทำไงดี.........ทำไงดี.........ทำไงดี ใจกับมือเรามันไม่ไปด้วยกัน
ไม่.....ไม่นะ.....
ตึ๊ก ! เสียงเหรียญจากมือของเขากระโดดข้ามกล่องไปราว ๒ นิ้ว ตกลงที่พื้นแล้วไหลไปคว่ำนิ่งไม่ไหวติง
อ่านไป คิดไป ชายคนนั้น กำลังต่อสู้อะไรบางอย่างในจิตใจ
ผมมองว่า ปราการที่ถูกสร้างขึ้น ทำให้เขาแปลกแยกมากขึ้น ในสังคมที่เขาอยู่
โยนเหรียญเข้าเป้าหรือไม่ ไม่สำคัญ ...
ใช่หรือเปล่าครับ
สวัสดีค่ะ... คุณธรรมาวตาร
แล้วตกลง ชายคนหนึ่ง คนที่โยนเหรียญไม่ลงคือใครค่ะ หรือว่าจะเป็นคนที่เล่าเนี่ยถึงได้เข้าใจว่าเค้าคิดอะไรอยู่
ความจริงก็เป็นแค่เกมนะคะ คุณไม่น่าจะเครียดมากเกิน
ถ้าไม่เครียดหรือตั้งเป้าไว้เกินไปก็อาจโยนลงก็ได้ค่ะ
ขอบคุณนะครับ ที่กรุณาแวะมาเป็นครู
ผมคิดเองนะว่า....ก็แค่ภาพฝัน ความจริงและความเกี่ยวของทั้งสองสิ่ง...เท่านั้น
ชายคนหนึ่ง ก็คือ ชายคน หนึ่ง ไม่อาจมีสองคนได้ในมิติเดียว ไม่ว่าคนเขียนหรือชายคนหนึ่งก็ตาม
มันอาจเป็นเกม...เกมอารมณ์ เกมชีวิต หรือเกมสังคม...นั่นสินะ มันแค่เกม ? ?