จิตร ภูมิศักดิ์ นักปฏิวัติแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้นำเสนอกลอนเปล่าไว้สมัยที่จิตร ภูมิศักดิ์ เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา(โรงเรียนประจำจังหวัดสมุทรปราการ)โรงเรียนชาย เขาเขียนไว้อย่างน่าสนใจว่า " เยาวชนคนหนุ่มสาว ผู้ได้รับโอกาสอันดีในการเข้าศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยของรัฐ ซึ่งตึกรามอาคารสมัยใหม่สร้างขึ้นมาจากหยาดเหงื่อแรงงานที่มาจากภาษีอากรของประชาชนและความยากลำบากของประชาชน เธอคือผู้ได้รับอภิสิทธิ์ ดังนั้นเธอจึงต้องเร่งศึกษาหาความรู้ขวนขวายศึกษาสรรพวิชาและเมื่อจบการศึกษา เธอจะต้องนำความรู้ความสามารถนั้นออกไปรับใช้สังคม ไปรับใช้ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากจน ผู้ที่ถูกกดขี่ขูดรีด ในฐานะลูกที่ดีของประชาชน แต่หากเธอสำเร็จการศึกษาแล้วกลับไม่นำพานำวิชาความรู้ไปรับใช้สังคม รับใช้ประฃาฃน เธอคือผู้ทรยศ" ฝากบทกลอนเปล่านี้ไว้ให้น้องๆนักศึกษารุ่นใหม่ไว้ให้ฝังใจและไตร่ตรองไว้อย่างหนักแน่นว่าจะเรียนไปเพื่อใคร สมัยผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐ(มธก รุ่น 6 ตุลา 19) รุ่นพี่ผมได้ร้องบทเพลงเพื่อชีวิตให้ผมฟัง ผมขอถ่ายทอดให้เยาวชนคนหนุ่มสาวเธอคือความหวังคือพลังของสังคมไว้ดังนี้ " น้องเอ๋ย น้องใหม่ ใฝ่ฝันขยันศึกษา หมั่นเรียนเพียรค้นตำรา น้องเอยน้องหาสิ่งใด น้องเอยน้องรัก เรียนหนักจะก้าวไปไหนเรียนเพื่อประโยชน์ของใคร น้องให้อะไรแก่ตน มองดูสังคมรอบด้าน มวลชนทำงานเช้ายันค่ำ สังคมไม่เคยยุติธรรม มวลชนระกำทุกข์ทน น้องเอ๋ยน้องใหม่ สดใสบริสุทธิ์เหมือนดังหยาดฝน เรียนไปเพื่อรับใช้ปวงชน สร้างตนสร้างสังคมให้สมบูรณ์ " ขอให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงชีวิตที่มีค่า ชีวิตที่มีความหมาย ชีวิตที่รับใช้ประชาชนให้มาก อย่าหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง อย่าให้ทุนนิยมโลกาภิวัฒน์มันเข้ามาในหัวใจมากเกินไป จงสนใจความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาขน เอากิจของเราเป็นรอง กิจของประชาชนเป็นหนัก และจงตระหนักอย่างหนักแน่นว่า " ชีวิตคือการศึกษา การศึกษาหาใช่ชีวิตเรา เรียนรู้โลกและชีวิตอุทิศสร้างสรรสังคมยุติธรรม มหาวิทยาลัยไหนมีความหมายเหมือนกันไม่แตกต่างกันอยู่ที่เราจะขวานขวายเพื่อใคร เยาวชนคนหนุ่มสาวที่สำเร็จการศึกษาในมหาวิทยาลัยเปิด ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย แกร่งกว่าเด็กที่จบในมหาวิทยาลัยปิดเป็นล้นพ้น อย่าได้คิดกับชีวิตอย่างไร้ค่า ทำตัวให้สมกับคุณค่าของคุ่นรุ่นใหม่ที่สร้างสรรและมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล ไม่กลัวความยากลำบาก และไมท้อแท้ใจจนถึงขั้นฆ่าตัวตายจากเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ขอประนามคณะกรรมการการอุดมศึกษาที่แก้ปัญหาแบบวัวหายล้อมคอก โดยเฉพาะเรื่องของครอบครัวยากจนที่หาโอกาสทางการศึกษายากลำบากอยู่แล้ว ยังต้องมาเจอ คณะกรรมการเฮงซวย นี่หากเด็กไมฆ่าตัวตายไม่ออกมาแก้ปัญหา นี่แหละผู้ใหญ่ในวันนี้ (ที่ไม่น่าทำตาม) และอยากฝากข้อคิดในฐานะที่เคยผ่านชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความหมายที่สุดในชีวิต สำหรับการใช้ชีวิตของน้องๆว่า 1.ให้สนใจเรียนเป็นที่สุด อย่าสักแต่ท่องจำ เป็นนกแล้วนกขุนทองที่ไม่รู้ความหมายและไม่ชัดแจ้งในความเข้าใจ 2.หันมาสนใจความทุกข์ยากของประชาชน คนยากจน คนที่เดือดร้อน คนที่ยากไร้ ถูกกดขี่ขูดรีด คนด้อยโอกาส 3 เสริมสร้างพลังใจที่หนักแน่นว่าเราจะเป็นผู้หนึ่งที่จะถาโถมตัวเองเข้าไปช่วยเหลือคนเหล่านี้ในทุกรูปแบบที่ทำได้ ที่มีโอกาส 4 สนใจทำกิจกรรมทางการเมือง ทางสังคม กิจกรรมที่ทำเพื่อส่วนร่วมที่สะท้อนในการหาทางออกในข้อ 3 5 หลีกหนีการดื่มสุราและบุหรี่ 6 ห่างไกลจากการพนันทุกประเภท รวมถึงพนันฟุตบอล และเกมส์ออนไลน์ 7 อย่าได้มีเพศสัมพันธ์อยู่และใช้ชีวิตแบบผัวเมียและอย่าขายบริการทางเพศทั้งชายและหญิง 8 อย่าตกเป็นเหยื่อการบริโภคสินค้าที่ฟุ่มเฟื่อยที่ตัวเองหาเงินมาเสพไม่ได้และต้องสร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่ 9 หลีกหนีการทะเลาะวิวาทและใช้ความรุนแรง 10 หลีกหนีการเที่ยวเตร่ในสถานบันเทิงที่ไม่เหมาะสม 10 อย่าติดยาเสพติด 11 อย่าคิดและทำอะไรเพื่อประโยชน์ส่วนตนมากจนเกินไป 12 เร่งสร้างจิตสำนึกสาธารณะในหัวใจน้อยให้เบ่งบาน 13 สร้างและเสริมจิตใจให้เป็นลูกที่ดีของประชาชน 14 สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อม การละเมิดสิทธิชุมชน และ 15หากจะแก้ปัญหาสังคมให้เริ่มด้วยจิตใจ มือ ปาก และการขีดเขียน รวมกลุ่ม สะท้อน ให้การศึกษาผู้คน ค้นคว้าหาข้อมูลและตีแผ่ให้คนทราบความจริง 16.น้อมนำพระราชดำรัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในวิถีชีวิตอย่างหนักแน่นอย่าให้ทุนนิยมครอบงำ 17.ดำรงตัวให้มีความซื่อสัตย์ยิ่งชีวิต 18 รังเกลียดการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างยิ่งยวด 19 ไม่คบค้าสมาคมกับคนชั่ว คนเลว คนขายชาติ โกงบ้านเมือง รวมถึงไม่สนับสนุนธุรกิจของคนพวกนี้ เหล่านี้แหละที่ จิตร ภูมิศักดิ์ ภูมิใจในฐานะผู้ได้รับอภิสิทธ์ "เธอคือพลังที่กล้าและแกร่ง เธอร้อนแรงดังแสงตะวัน เธอคือแสงแห่งความใผ่ฝัน เธอร่าเริงและเบิกบาน หมั่นเรียนเพียรขยันเพื่อสร้างความดี เธอสุขขีไม่มีทุกข์ตรม อยากมีอนาคตสดใสรื่นรมย์ เธอหวังเพียงเท่านั้นฤา มองดูรอบกาย มองดูสังคม เธอสุขอยู่ได้อย่างไรเมื่อผองชนทุกข์ยากลำเค็ญ เธอจงเป็นดวงดาวที่พราวส่วาง นำหนทางเพื่อมวลชน เธอคือประกายไฟที่โหมกระหนำลามลุกไหม้ความทุกข์ตรม" (มธก 6ตุลา19)ขอเพียงระลึกถึงประชาชนเธอจะไม่หลงทาง
เรื่องนี้ขออนุญาตนำไปปฐมนิเทศก์นักเรียนนะครับ