ห้ามเป็นตุ๊ด


วันนี้มีคำถาม จากเรื่องราวรับรู้ เรื่องราวการออกกฏข้อห้าม ข้อบังคับภายในโรงเรียน ที่มีผลต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนชาย โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่ายังคงมีโรงเรียนอีกมากมาย ที่ยังมีกฎพิสดาร ซึ่งล่วงละเมิดต่อหลักการความเป็นมนุษย์ และหลักสิทธิมนุษยชน ที่จะให้เด็กของบ้านนี้เมืองนี้ เติบโตและเรียนรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ระหว่างเลือกทำความดี กับการเลือกเพศของตัวเขาเอง ผมเพียงแต่ไม่เข้าใจในกฎข้อบังคับกฎนี้

ห้ามเป็นตุ๊ด

อ้างอิง - ภาพ http://www.oknation.net/blog/DECHARIN

ไม่รู้จะกล่าวว่า

เป็นเรื่องตลกขบขัน

หรือเรื่องจริงอันน่ารันทดใจ

เมื่อได้ยินรุ่นน้องที่ทำงานด้านเด็ก และน้องที่ทำงานละคร บอกเล่าให้ฟังถึงชิ้นงานที่กำลังจัดกระบวนการให้กับเด็กนักเรียนชาย ของโรงเรียนชายล้วนที่มีเสียงของประเทศนี้ จนพบกับความจริงอันเจ็บปวด และบาดแผลที่คาดว่า นานหลายปีกว่าจะสร้างปัญหาในชีวิตของพวกเขา

โรงเรียนนี้เคยพยายามสร้างต้นแบบ

ในการจัดการเรียนการสอน

ในด้านเพศศึกษา

ประกาศถึงการเรียนที่ใช้แบบแผนสำคัญ โดยใช้เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ อธิบายและบอกเล่าสิ่งที่เด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ต้องเผชิญหน้า หรือต้องก้าวย่างไปสู่ความเปลี่ยนแปลงใหม่ใหม่ของชีวิต มิหนำซ้ำยังเปิดพื้นที่ เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากเด็กนักเรียนชายทั้งหลาย

ผมมีเพื่อนหลายคน

ที่สนิมสนมกันมาหลายสิบปี

ซึ่งต่างจบจากสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติ

หลายคนเป็นผู้นิยมการรักร่วมเพศ บางคนเปิดเผยตัวตน หลายคนแอบซ่อน แต่ทั้งหมดสำหรับความเป็นตัวตน และความภาคภูมิใจในสถาบันการศึกษา ของเด็กนักเรียนรู้ซึ่งจบจากโรงเรียนแห่งนี้ ผมเชื่อว่า เขารักและภาคภูมิใจในสถาบันการศึกษาของตนเองอย่างมาก

เบ้าหลอมในความภาคภูมิใจที่ผมเห็น

คืออิสรภาพที่เขาได้เรียนรู้

และรู้จักตนเอง

ภายใต้รั้วโรงเรียน และสถาบันที่เขารักเขาศรัทธา ผมเห็นศรัทธาเหล่านั้นอยู่ในตัวตน ไม่ต่างจากที่คำหยอกล้อในหมู่เพื่อน ยามเห็นเพื่อนโรงเรียนนี้มานั่งสังสรรค์ด้วยกัน เรามักจะชอบหยอกล้อว่า ได้ข่าวว่าโรงเรียนนี้ตุ๊ดเยอะไม่ใช่เหรอ ซึ่งเพื่อนที่เรียนจบจากโรงเรียน ก็ตอบกลับด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง หักมุมถากถางว่า ไม่ใช่โว้ย โรงเรียนนี้ตุ๊ดไม่เยอะ แต่ผัวตุ๊ดเยอะกว่า

แต่ครั้งนี้

ผมกลับได้ยินเรื่อง

ที่น่ารันทดใจอย่างมาก

เมื่อใครสักคนในโรงเรียน ออกกฎเกณฑ์กับเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาว่า ห้ามเป็นตุ๊ด ซึ่งกฎระเบียบข้อนี้ อาจไม่มีการจารีกหรือระบุเป็นกิจจะลักษณะ ว่าห้ามโดยเด็ดขาด หรือใครที่เป็นตามกฎข้อบังคับนี้ ต้องถูกดำเนินการตามกฎของโรงเรียน เพียงแต่คาดการณ์ได้ถึงสิ่งที่กำลังกดดัน

นักเรียนชายในโรงเรียนเล่าถึงเรื่องราว

ให้คนที่ทำงานด้านเยาวชนฟัง

ถึงกฎระเบียบขณะนี้

ว่าห้ามแสดงออกให้เห็น ห้ามประพฤติปฏิบัติ และให้เพื่อนช่วยจับตามองเพื่อนที่เป็น พร้อมทั้งคาดโทษว่า หากพบว่าใครประพฤติปฏิบัติ จะตัดคะแนนความประพฤติ ฟังดูอาจเป็นเรื่องดี สำหรับผู้ยึดมั่นในเพศหลักสองเพศ แต่สำหรับคนที่หวั่นไหวและไม่มั่นใจในความรู้สึกของตนเอง

 

 

ความคิด

และการค้นหาที่ทางชีวิต

หรือกระทั่งความหมายในชีวิตตัวเอง

คือเรื่องราวสำคัญ สำหรับเด็กวัยรุ่นและเด็กนักเรียนมัธยมศึกษา ที่กำลังเติบโตท่ามกลางความตึงเครียดในชีวิต ท่ามกลางความคาดหวังว่า ต้องสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย หรือกระทั่งประสบความสำเร็จในชีวิต ในหน้าที่การงาน และความสำเร็จในการเรียนแต่ละวัน

ใครไม่เคยเห็นความคาดหวังที่กองทับ

และท่วมหัวเด็กไทยในทุกวันนี้

อาจไม่เข้าใจในสิ่งเหล่านี้

สำหรับความจริงในความคาดหวังของผู้คนรอบข้าง สำหรับสิ่งที่เรียกว่า แพ้ไม่ได้ และแพ้ไม่เป็น ที่สังคมไทยกำลังยัดเยียดให้กับเด็กวัยรุ่น ยิ่งเมื่อพวกเขาผ่านเกณฑ์ความสำเร็จ ที่สังคมและผู้คนรอบข้างกำหนด กระทั่งคอยยัดใส่ความเชื่อของพวกเขา หากพวกเขาเชื่อก็คงไม่ใช่สาระสำคัญของความทุกข์ แต่หากว่าไม่เชื่อ และตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านี้เล่า

สำหรับความจริง

และสิ่งที่เป็นจริงในสังคมไทย

แรงกดดันเหล่านี้ไม่ได้ลดน้อยถอยลง

โดยเฉพาะในยุคที่พยายามขายภาพสวยหรูว่า เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ และในสิ่งที่พยายามสร้างภาพ ต่อการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง แต่ในทางกลับกัน การกดดัน กดทับ กดเก็บและปิดกั้นเด็กวัยรุ่น ให้เดินตามกรอบแห่งความสำเร็จ ก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

วันนี้ พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กนักเรียนชาย

สำหรับช่วงนี้ของพวกเขาแล้ว

คือโอกาสสำคัญ

ในการเรียนรู้หัวใจตัวเอง เข้าใจและเท่าทันความเปลี่ยนแปลง รับรู้และเข้าใจที่จะเลือกใช้ชีวิต เลือกเดิน เลือกรับผิดชอบ และตระหนักต่อความจริงในภาระหน้าที่ ต่อบทบาทความเปลี่ยนแปลงของชีวิต ไม่ใช่การทำหน้าที่ เพื่อเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ของครู หรือศักดิ์ศรีของโรงเรียน

พวกเขาเรียน

เพื่อเรียนรู้ตนเอง

และเรียนรู้การก้าวย่างชีวิต

สำหรับความเปลี่ยนแปลงวันนี้ สิ่งที่เป็นกฎไม่ได้กระทบต่อคะแนนความประพฤติ แต่กระทบต่อความสัมพันธ์ ระหว่างเพื่อนผู้ชายด้วยกันเอง หากใครสักคนแกล้งบอกว่าเพื่อนอีกคนเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ สิ่งที่ตามมาระหว่างชีวิต คือความหมางเมิน และความรู้สึกรังเกียจ ภายใต้กรอบคิดของครู

สำหรับวันเวลาเช่นนี้คงไม่ใช่ปัญหามากมายนักหนา

ไม่ใช่เรื่องที่ควรตระหนักสำหรับกฎเกณฑ์

เพราะยังไม่มีเด็กคนใดฆ่าตัวตาย

ความจริงข้อนี้จึงยังไม่มีใครสนใจ ท่ามกลางความอ่อนไหว

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 185123เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2008 13:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2012 16:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีครับ

  • แวะมาทักทายครับ
  • มาอ่านบันทึกครับ
  • เป็นอะไรก็ได้ ถ้าใจอยากจะเป็น
  • ขอให้เป็นคนดีของสังคมก็พอ
  • ไม่ต้องทำให้ใครเดือนร้อน
  • ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกทางเดินชีวิตได้
  • ให้กำลังใจ เพศที่ 3  4  หรือเพศอื่น ๆ ครับ
  • สู้ ๆ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท