มองฟ้าฝน


มีเรื่องราว ความประทับใจ ยามได้นั่งเรื่องราว มองฟ้ามองฝน และมองผู้คน ที่ต่างเดินผ่านชีวิต ผ่านแต่ละความเปลี่ยนแปลงของชีวิต มีบางสิ่งในวันวัยของชีวิต ที่ทำให้เราตระหนักว่า ชีวิตมีคุณค่า และชีวิตมีความงดงาม หลายครั้งที่อดถามตัวเองไม่ได้ ว่าภายใต้ความมากมายหลากหลายของโลกใบนี้ มีหนทางใดบ้าง ที่จะทำให้ผู้คนตระหนัก ในแต่ละรายละเอียด แต่ละความละเอียดอ่อน ของชีวิตตนเอง

มองฟ้าฝน

อ้างอิง - ภาพ http://bangnoikoyrak.multiply.com/

ยามเห็นเรื่องเล่า

ยามได้ยินได้ฟังผู้คน

บอกกล่าวถึงการมองเห็น

ยามเห็นฟ้าฝน เห็นสายลม เห็นแสงแดด หรือกระทั่งมองเห็นผู้คนตามกาลเวลา โดยอธิบายผ่านความประทับใจ ในแต่ละความธรรมดาของดินฟ้าอากาศเหล่านั้น ผมจะชอบอ่าน และแอบสังเกตุความหมาย ซึ่งซ่อนอยู่ในแต่ละความชื่นใจเหล่านั้น หลายครั้งที่แอบอมยิ้มในคำอธิบายยามเห็น

มีหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในเรื่องเล่าเหล่านั้น

มีคำถามบางอย่างปรากฎอยู่ภายใน

เมื่อผู้คนพูดถึงฟ้าฝนและชีวิต

บางครั้งที่เราได้เรียนรู้ความจริง ซึ่งแอบซ่อนอยู่ภายในชีวิตและในจิตใจเหล่านั้น บางคนอดน้ำตารินไม่ได้ ยามเห็นอาทิตย์ทอดตัว ก่อนแสงสุดท้ายลับตาไป เพียงเพราะจดจำได้ถึงวันคืนแห่งความสุข เพราะครั้งหนึ่งจดจำได้ ว่าหัวใจพองโตเพียงใดยามเกาะกุมมือใครคนนั้น ซึ่งไม่เคยลืมเลือนไปไกลจากหัวใจ

ใครบางคนอาจทิ้งหัวใจ

ยามสัมผัสสายลมหนาวกลางขุนเขา

กระทั่งแม้ความหนาวเย็นใดก็มิอาจลบเลือน

เพราะมีเพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น ที่จะทำให้เขาได้จดจำว่า ความสุขในแต่ละความประทับใจนั้นเป็นเช่นไร สำหรับความคิดและสิ่งเสพติดในจิตใจ เมื่อผู้คนต่างโหยหาความประทับใจ และดื่มกินความทรงจำอันอบอุ่นงดงามเหล่านั้น ใช่หรือไม่สำหรับความจริงอันแอบซ่อน เมื่อมองผ่านฟ้าฝน

หลายคนจึงเฝ้าเดินทางเพื่อตามหา

ในแต่ละความเปลี่ยนผ่าน

ของฟ้าฝนและชีวิต

เฝ้าแวะเวียนถามไถ่ และแอบยืนมองความจริงของชีวิตเหล่านั้น เมื่อมีคนพูดถึงฟ้าฝน ธรรมชาติ และการเฝ้ามองชีวิต ผมจะรู้สึกเสมอว่า เขาเหล่านั้นกำลังบอกเล่าความนัยของหัวใจ บอกกล่าวความรู้สึกในแต่ละสัมผัสรับรู้ ผ่านอารมณ์และตัวตน ที่อ้างอิงกับฟ้าฝนเบื้องหน้า

ดินฟ้าอากาศ

สายน้ำสายลมและแสงแดด

ทุกสิ่งอย่างของเรื่องราวแวดล้อมชีวิต

ล้วนกำกับก้าวย่างแห่งชีวิต บางคนอาจเคยชินในการยกย่องความยิ่งใหญ่เบื้องหน้า ว่าเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในศตวรรษ หรือแม้แต่ครั้งเดียวในชาตินี้ ที่มนุษย์จะได้แลเห็นปรากฎการณ์อันสำคัญยิ่ง หลายคนอาจกล่าวเพียงเงียบเงียบ แทบจะเป็นเสียงกระซิบถึงความประทับใจเบื้องหน้า

อาจเพียงรอยยิ้มบางบางที่บอกกล่าวงดงาม

ยอมรับอย่างเรียบง่ายต่อสิ่งที่เห็น

ว่าไม่ได้มากมายไปกว่านี้

บางคนเรียบง่ายในคำอธิบาย บางคนยิ่งใหญ่ในคำขับขาน บางคนเดินทางค้นหา และดั้นด้นทั้งชีวิต เพื่อเสพช่วงเวลาแห่งพลังเหล่านี้ ทั้งยามเช้า ยามสาย ยามเที่ยง ยามบ่าย ยามเย็น ยามพลบ กระทั่งข้ามคืนผ่านพ้นชีวิตไป ทุกยามแห่งการเฝ้าสังเกตุและทบทวนชีวิต

ทุกยามที่เราได้มีโอกาส

เฝ้ามองเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้น

อาจโดยตั้งใจหรือมิตั้งใจก็ตาม ทุกสิ่งล้วนทรงค่า

แม้ใครจะบอกกล่าวว่า ช่างเป็นช่วงเวลาที่สูญเปล่า แต่สำหรับคำตอบในใจผมแล้ว ไม่มีสิ่งใดสูญเปล่าไปจากจิตใจ หากหัวใจของเรายังคงเต้นอยู่ หรือหากความรู้สึกของเรายังคงเดินทางต่อไป ก้าวย่างไปเพียงเงียบและแผ่วเบา ในแต่ละขณะชีวิต ที่ได้มีโอกาสสังเกตุความจริงเหล่านั้น

ไม่มีสิ่งใดสูญเปล่า แม้เพียงการมองเห็นท้องฟ้า

เพราะฟ้าในแต่ละวันไม่เคยเหมือนกัน

ชีวิตผู้คนในแต่ละวันก็เช่นกัน

ล้วนไม่เคยเหมือนกัน ทั้งในแต่ละห้วงอารมณ์ความรู้สึก และลมหายใจของแต่ละความรู้สึกต่อคืนวัน ใครจะกล้ายืนยันว่า ทุกวันของชีวิตเป็นระเบียบจดอาจคาดเดาได้ ว่าคิดอย่างไรทำอย่างไร ก้าวขาอย่างไร ออกจากบ้านเวลาใด ฟ้าฝนเป็นใจกับชีวิตเหมือนเดิม และเหมือนเดิมเช่นนั้นหรือ

ไม่ใช่และไม่จริง

ในแต่ละความจริงของชีวิต

แม้ชีวิตผู้คนจะพยายามทำตนให้เป็นระเบียบ

หรือให้มีแบบแผนในแต่ละขั้นตอนชีวิต กระทั่งคอยกำกับความไม่แน่นอน ด้วยความแน่นอนเป็นระเบียบ คาดเดาคาดการณ์และกะเกณฑ์ได้ว่า ต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ใช่หรือไม่สำหรับความหวาดกลัว อันฝังลึกอยู่ภายใต้ความไม่แน่นอนของชีวิต และหัวใจอันอ่อนไหว ที่เราต้องการควบคุม

ในยามผู้คนอธิบายฟ้าฝน ถึงความใสความขุ่นมัว

หัวใจเขาเหล่านั้นจะกำกับสิ่งที่มองเห็น

เขาเหล่านั้นไม่ได้มองด้วยดวงตา

แต่เขาเหล่านั้นมองด้วยหัวใจและความรู้สึก ทั้งฟ้าฝนลมผ่านที่ขุ่นมัว หรือ สดใสเพียงใด ทั้งหมดทั้งมวลล้วนร้อยได้ด้วยใจภายใน ในเบื้องลึกซึ่งอธิบายสิ่งที่สายตากำกับ และอธิบายความเหมือน ให้กลายเป็นความไม่เหมือน หรือกำกับความไม่เหมือน ให้กลายเป็นความเหมือน

เพียงเพราะเขาเหล่านั้น

ต้องการและต้องการจะสรุปคำในใจ

ให้สิ่งแวดล้อมใจของเขาได้บ่งบอกออกมา

บ่อยครั้งที่ผู้คนมองฟ้ามองดิน มองสายน้ำลำธาร ขุนเขา เพียงเพื่ออยากจะเอ่ยปากถาม ถึงคำถามอันคับข้องใจ คำซึ่งอัดแน่นและคับข้องอยู่ภายใน อันไม่อาจตอบความให้ใครได้เข้าใจได้ว่า เขาคิดอะไร และปรารถนาสิ่งใดในคำถามเหล่านั้น กระทั่งต้องหันไปหาความจริงของธรรมชาติ

ตะโกนออกไปให้สุดเสียง ร้องไห้ให้สุดสายน้ำตา

หรือกระทั่งเพียงกระซิบผ่านสายลม

คำถามล้วนถูกขับขานออกไป

ในแต่ละท่วงทำนองของเรื่องราว ที่ฟ้าฝนได้ให้โอกาสผู้คนได้ถามหา หลายครั้งที่เราจะแลเห็นได้ในแต่ละดวงตา เมื่อดวงใจสะท้อนห้วงความคิดเหล่านั้นออกมา ให้เพียงได้ขับขาน หรือชื่นชมความยิ่งใหญ่อันเรียบง่ายของธรรมชาติเบื้องหน้า หลายครั้งที่เรามีโอกาสมองเห็น คำถามในดวงตาของผู้คน

ยามผู้คนมองฟ้าฝน

จนหลายครั้งที่ชีวิตมีคำถามในดวงตา

แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่ชีวิตจะมีคำตอบเกิดขึ้นในใจ

หมายเหตุ : ภาพอาทิตย์ตกดินริมฝั่งน้ำ ถ่ายโดย สมิทธิ ธนานิธิโชติ ด้วยเรื่องเล่าของคลองบางน้อย ไหลบรรจบน้ำแม่กลอง อัมพวา มุมแห่งสายตา และมุมแห่งสายน้ำ ริมระเบียงนอกชานของบ้านหลังเล็ก บางน้อยคอยรัก จากหัวใจและดวงตาแห่งใหม่ในชีวิตของ สมิทธิ ธนานิธิโชติ

ท่านสามารถติดตามความงดงามได้จาก http://bangnoikoyrak.multiply.com/

หมายเลขบันทึก: 184971เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2008 17:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

...

เย็นนี้เช่นกันค่ะ  ... อาทิตย์อัสดงงามงด แสงสีส้มทอปลายไม้เหนือทุ่งนาเขียวขจีเป็นทาง คล้ายทางช้างเผือก กระนั้น ...

... บรรยากาศแต่ละวัน เมฆแต่ละช่วง ฤดู ก็ต่างกัน นะคะ ปูว่ามันมหัศจรรย์มาก สำหรับ นาฎลีลาบนท้องฟ้า ... 

...

ท้องฟ้าก็เหมือนชีวิต

วันนี้ท้องฟ้างาม ปลอดโปร่ง แสงแดดขยันเสียเหลือเกิน วันใหม่กับแสงแรก คือความหวังพลังใจของช่วงเริ่มต้นวัน

บางครั้งความฝันที่แรงกล้า แต่ไม่ได้เผื่อใจให้ผิดหวัง เหมือน แสงแดดอันแรงกล้าของกลางวันในฤดูร้อน เหนื่อย และท้อในที

เย็นย่ำฟ้าฝนตก...ท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมกรรโชกแรง ...มรสุมชีวิตใช่หรือเปล่านั่น

เสียงฟ้าคำราม ความมืดถาโถม..อดทนไว้กับสิ่งที่เกิด ไม่นานก็จะมีท้องฟ้างามขลิบทอง ฟ้าหลังฝนที่สดใส สดชื่น

ก็เป็นเช่นนี้ชีวิต  ไม่ว่าจะมุมใดเราก็เปรียบกับความเปลี่ยนของธรรมชาติได้ เป็นปรัชญาธรรมะ(ชาติ) ที่สอนตนตัว

 

200671912431

ภาพที่น้องสาวข้างโต๊ะทำงาน ส่งมาครับ

สวัสดีครับ คุณ Poo

ขอบคุณอย่างยิ่งครับ

สำหรับประสบการณ์ ในการซึมซับ เรียนรู้ นั่งมอง และพินิจไปในแต่ละความงดงามของธรรมชาติ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่กล่าวถึงนาฎกรรม นาฎลีลาบนท้องฟ้า ในท่ามกลางความงดงาม ที่ช่วยทำให้เราได้เห็นคำตอบของชีวิต

ขอบคุณมากครับ

สำหรับสมาชิกชมรม มองฟ้ามองฝน

สวัสดีครับ

  • แวะมาทักทายครับ
  • มามองฟ้าด้วยครับ
  • รูปภาพ บรรยากาศดีมาก ๆ เลยนะครับ
  • เยี่ยม
  • ดูดี
  • น่ามอง
  • โรแมนติกสุด ๆ

สวัสดีครับ คุณเอก

คำตอบของคุณเอก

ยามมองเห็น และเข้าใจในแต่ละห้วงอารมณ์ตัวเอง งดงาม ชัดเจนอย่างยิ่งครับ ผมเชื่อเช่นกันว่า ยามคนเราเหนื่อย ท้อแท้ และต้องการกำลังใจ การได้ไปยืนอยู่ในที่โล่ง มองท้องฟ้า มองสายลม และมองการเปลี่ยนผ่านของคืนวัน จะทำให้เรามีกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไปได้

ผมเชื่อเช่นนั้น สำหรับธรรมชาติในตัวตนของผู้คน

ขอบคุณมากครับ

ปล.ภาพที่นำมาฝาก มีพลัง และลึกลับมากครับ สำหรับความงามของท้องฟ้า

สวัสดีครับ คุณครูโย่ง

ยินดีอย่างยิ่งครับ

สำหรับมิตรภาพ การทักทาย และการเยี่ยมเยือน เชิญชมบรรยากาศและเรื่องราว ในแต่ละแง่มุมความรู้สึก นำมาให้ได้ร่วมแบ่งปันความประทับใจร่วมกันครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ

  • แวะมาทักทายครับ
  • มามองฟ้าด้วยครับ
  • รูปภาพ บรรยากาศดีมาก ๆ เลยนะครับ
  • เยี่ยม
  • ดูดี
  • น่ามอง
  • โรแมนติกสุด ๆ
  • นึกถึงเจ้าชายน้อย ที่คอยย้ายเก้าอี้บนโลกใบเล็ก เพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน
  • ดิฉันก็เป็นอีกคนที่ชอบดูแสงสุดท้ายของวัน
  • บางวันก็เหงา เศร้า บางวันก็เป็นกำลังใจว่า พรุ่งนี้ก็จะมีแสงใหม่ให้เชยชม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท