เปิดประตูสู่การฝึกอบรมวิทยากรกระบวนกร ณ. สวนป่ามหาชีวาลัยอีสาน


เมื่อเปิดพื้นที่ การเรียนรู้ก็ก่อเกิด แรงบันดาลใจก็ก่อเกิด

                 

                   เริ่มเปิดพื้นที่ของบันทึกด้วยรูปต้นไม้ชื่อ อคาเซีย  ต้นสูงใหญ่อยู่บริเวณด้านข้างของลานไผ่         การที่มีโอกาสมาที่นี่ก็เพราะเมื่อได้เข้ามาในเครือข่ายของการจัดการความรู้  (Knowledge  Management)       จึงได้รับคำแนะนำให้เข้ารับการฝึกอบรมวิทยากรกระบวนกร ณ. สวนป่ามหาชีวาลัยอีสาน  อ.สตึก  จ.บุรีรัมย์

                   การฝึกกระบวนกรหรือ Facilitator เป็นการเรียนรู้แบบวิทยาศาสตร์เป็นการจัดการความรู้กระบวนทัศน์ใหม่  ในท่วงทำนองของจิตวิวัฒน์ หรือจิตปัญญาศึกษา  หรือ Contemplative  Education   ผู้ที่เข้ารับการอบรมหลักสูตรนี้สามารถนำไปจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายของพวกเขาได้   ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งแผง ( Collectively  Transformative  Learning) หรือทั้งองค์กร  หรือทั้งเครือข่าย   โดยจะขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาจะนำไปประยุกต์ใช้

                   การเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นการปรับกระบวนทัศน์จากการมองโลกแบบแยกส่วน ลดส่วนมาเป็นการเชื่อมโยงและองค์รวม    มีการเรียนรู้ว่าคนเราจะทำงานได้อย่างมีความสุขได้อย่างไร    ประสบความสำเร็จในการทำงาน  มีมิตรภาพอันดีงาม   นำไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning  Organization) หรือ LO      ส่วนในครอบครัวก็มีความสุข  มีความเกื้อกูลซึ่งกันและกัน    เป็นการดูแลองค์กรแล้วย้อนกลับมาดูแลใจของตนเอง   สร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาคน  สิ่งแวดล้อม  และสังคม นั่นเอง

                   บันทึกนี้เป็นเหมือนบันทึกเริ่มต้นย้อนไปสู่การสำรวจจิตใจของตนเองในช่วงสามวัน    ในวันสุดท้ายของการอบรมได้มีการสุนทรียสนทนาเป็นครั้งสุดท้าย   ซึ่งในแต่ละครั้งเวลารวมกลุ่มใหญ่ไม่เคยได้จับไมค์เลย  จวบจนกระทั่งวันสุดท้ายจึงตัดสินใจหยิบไมค์มาพูดเป็นบทสรุปของการเรียนรู้ในสามวัน    ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าพูดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นตามมา  หลังจากนั้นหลายท่านได้เข้ามากอดและปลอบว่า " อย่าอ่อนแอนะ  ต้องเข้มแข็ง"  

                   ซึ่งตนเองต้องขอขอบพระคุณในความห่วงใยของทุกท่าน    เพียงแต่...ความรู้สึกณ. เวลานั้นมันไม่ใช่ความรู้สึกอ่อนแอ   ท่านอ.มนตรีวิทยากรได้กอดแล้วบอกว่า "ผมดีใจที่ได้เห็นอาจารย์พูดและดีใจที่อาจารย์ค้นพบใจของตัวเองแล้ว  ยังไม่สายสำหรับการเริ่มต้นใหม่"  ใช่เลย....มันเป็นความรู้สึกปลื้มปิติกับการค้นพบใจของตนเองในความมืดมิด  และเปิดใจตนเองให้เป็นอิสระ      

                   ขอขอบพระคุณ.....ผู้ซึ่งเรายึดเป็นครูทุกท่าน  วิทยากร  เพื่อนร่วมอบรม   ธรรมชาติในสวนป่า   เจ้าตาหวาน    วัวของพ่อครูบาฯ    แล้วเราค้นพบอะไรที่สวนป่าบ้างในช่วงเวลาสามวัน...ต้องติดตามอ่านจากบันทึกตอนต่อไปค่ะ

                  

หมายเลขบันทึก: 183461เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2008 16:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

เยี่ยมมากลูกหว้า ขออนุญาตเปิดในผู้อบรมดูคืนนี้

  • ขอบพระคุณค่ะพ่อ 
  • หนูจะเป็นวิทยากรอบรมพรุ่งนี้เหมือนกันค่ะ  เดี่ยวคงต้องทำการบ้านให้มากหน่อยคืนนี้ รักพ่อค่ะ
  • แนะนำต้นไม้ต้นใหญ่สุดในบันทึกถ่ายไว้แล้วมาถามพ่อครูบา  ทราบว่าคือ  ต้นอคาเซีย   สวยงามจริงๆค่ะ

สวัสดีครับคุณน้อง อ.ลูกหว้า

แม้พลาดโอกาสมาร่วมเข้าอบรมในครั้งนี้ แต่ได้อ่านบันทึกนี้แล้ว ทำให้ทราบหลักการของกระบวนกรในขั้นต้นได้พอสมควรและขออนุญาตสรุปเป็นข้อๆไว้ดังนี้นะครับ

..........

การฝึกกระบวนกรหรือ Faciltator

การอบรมหลักสูตรนี้สามารถนำไปจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งแผง ( Collectively  Transformative  Learning) หรือทั้งองค์กร  หรือทั้งเครือข่าย  ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายจะนำไปประยุกต์ใช้

  • การเรียนรู้ว่าคนเราจะทำงานได้อย่างมีความสุขได้อย่างไร
  • เกิดผลและประสบความสำเร็จในการทำงาน 
  • มีมิตรภาพอันดีงาม  
  • นำไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้(Learning Organization) หรือ LO      
  • ส่วนในครอบครัวก็มีความสุข 
  • มีความเกื้อกูลซึ่งกันและกัน   
  • เป็นการดูแลองค์กรแล้วย้อนกลับมาดูแลใจของตนเอง 
  • สร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาคน  สิ่งแวดล้อม  และสังคม

ขอบคุณมากครับที่นำมาแบ่งปัน

  • ขอบพระคุณค่ะพี่ที่มาช่วยทวนให้เลยรู้ว่าพิมพ์ผิด
  • การฝึกกระบวนกรหรือ facilitor ค่ะ  ถึงไม่ได้ไปแต่เรามี blog สำหรับการถ่ายทอดแล้วไงหล่ะคะ
  • คิดถึงค่ะพี่

อบอุ่น อบอุ่น เอาไปขยาย เอาไปดัดแปลงใช้นะครับ จะช่วยให้เกิดพื้นที่ทางความคิดกว้างมากขึ้นในเรื่องนี้ครับ

ความคิดที่แสดงอย่างบริสุทธิ์นั้นมีคุณค่ามากมาย เพื่อนร่วมวงย่อมสัมผัสด้านลึกของจิตใจได้อย่างเคารพ รับฟังและยอมรับ

คุณค่ามันคือการนำตัวตนที่สัมผัสได้มาวางตรงกลางและหลอมรวมกับเพื่อนๆให้เกิดการกลมกลืนกัน

ขอบคุณครับน้องสาวลูกหว้า

  • ขอบพระคุณค่ะพี่ที่มาช่วยทวนให้เลยรู้ว่าพิมพ์ผิด
  • การฝึกกระบวนกรหรือ facilitor ค่ะ  ถึงไม่ได้ไปแต่เรามี blog สำหรับการถ่ายทอดแล้วไงหล่ะคะ
  • คิดถึงค่ะพี่
  • P  พี่บูทคะ..
  • ขอบพระคุณพี่ชายที่แสนดีจริงๆเลยค่ะ
  • รับรู้ได้ถึงความห่วงใยของพี่นะคะ   
  • สำหรับเรื่องความรู้สึกนี้เหมือนได้ค้นพบสิ่งที่รอมานาน....
  • หว้าจะนำไปปรับใช้ในการทำงานต่อไปค่ะพี่ 

มากอดนุ่มๆจ้ะ

คิดถึงและดีใจที่พบว่าน้องหว้าได้เคลื่อนเข้าสู่กระบวนการจิตวิวัฒน์อีกขั้นหนึ่งแล้ว พี่เข้าใจนะจ๊ะว่าน้ำตาที่ไหลออกมานั้นไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นความรู้สึกในขณะนั้นว่าเราค้นพบสิ่งที่ขาดหายไป

เมื่อถึงตอนนี้เราไม่มีคำถามเลยนะจ๊ะว่าอันไหนคือความคิดและอันไหนคือความรู้สึก เพราะเมื่อจิตอิสระเมื่อนั้นเราก็พบคำตอบเอง

กอดอุ่นๆข้ามฟ้าไกลเพื่อบอกว่าคิดถึงจ้ะ

 

*** แวะมาให้กำลังใจ น้องลูกหว้านะจ๊ะ ***

*** สู้ สู้ ค่ะคนเก่ง ***

พี่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับที่อบรมนี้นัก แต่ก็ได้จากน้องลูกหว้านี่แหละจ๊ะ

ถึงแม้จะงงๆ นิดๆ เพราะไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ก็พยายามปะติดปะ่ต่อเอา

ดีใจที่น้องหว้ารู้สึกดีหลังจากที่ได้พูดจ๊ะ ^ ^

  • เสียดายมากเลยครับ
  • ที่ผมไม่ได้อยู่ร่วมตลอดงาน

ถึงจะไม่ได้มาร่วมกิจกรรมตลอดงานฯ แต่ก็ได้รับสิ่งดีๆ กลับไปค่ะ >>>> "กอด"

จะติดตามอ่านรายละเอียดนะคะ

คิดถึงค่ะ

  • P  พี่เบิร์ดคนสวย...
  • หว้าคิดว่าผู้อบรมบางท่านเข้าใจความรู้สึกนี้นะคะ 
  • เพราะพอพูดจบมีบางรายเดินมาหาแล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งให้ดูว่า...เห็นมั้ยคะว่านี่คือสิ่งที่พี่ค้นหามานานแล้ว  แล้วพี่ก็มาเจอที่นี่   เขารับรู้ความรู้สึกนี้ได้ค่ะ
  • ว่าแต่พอได้พูดไปแล้ว  หว้าเจอผู้อบรมมากอด มาหอมแก้มซ้ายขวาๆๆๆๆ  จนช้ำไปหมดแล้วค่ะ
  • เมื่อไหร่พี่เบิร์ดจะเปลี่ยนรูปซะทีน๊า...
  • คนอะไรน๊อ น่ารักจริงๆเลย
  • P  พี่อรจ๋า..
  • เสียดายจังเลย ไม่ได้ไปเจอพี่ที่ภูเก็ต
  • ขอบพระคุณมากค่ะพี่  สู้อยู่แล้วค่ะ

 

  • P  พี่ตุ๋ยจ๋า...
  • อยากให้พี่มาด้วยจังเลย...
  • ตามอ่านบันทึกนะคะ  จะทะยอยเล่าให้เหมือนกับมานั่งอยู่ด้วยเลยค่ะ   อยากกอดๆๆๆๆๆๆ แย่แล้ว
  • P  น้องมะเดี่ยวคะ...
  • เสียดายจริงๆนะคะไม่ได้ลากันด้วย
  • มีโอกาสครั้งหนึ่งแล้ว   ก็คงจะได้เจอกันอีกค่ะน้องรัก
  • P  พี่กั๊ตจัง
  • ตัวจริงก็น่ารักมากๆเลย  มาแป๊บเดียวแต่มาช่วยเหลือกันมากมาย  ไม่ได้พี่กั๊ตหล่ะ คงแย่เลยนะคะ  ฝีมือๆๆ จริงๆ
  • ยังไงก็คอยตามอ่านนะคะ
  • คิดถึงค่ะ

ไชโย อ.ลูกหว้าจำชื่อต้นไม้ได้อีกชนิดหนึ่งแล้ว ..555

..ต้นนี้แหละผมก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ยืนคุยกันกับ ผอ.นรินทร์ ครูพิสูจน์ว่าต้นอะไรน้าชื่อเป็นฝรั่งๆนึกไม่ออกซักกะที ตอนที่ไปปลูกต้นไม้กัน จะมีต้นที่ยืนตายเป็นแถว พ่อครูเคยบอกชื่อแต่ลืม  มานึกออกตอน อ.ลูกหว้าเอารูปขึ้นบล็อกนี่แหละ

อคาเซีย อคาเซีย อคาเซีย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  จำได้แล้วขอบคุณคร๊าบ..

  • P  พี่อาราม
  • ต้นนี้สูงใหญ่มากอยู่ข้างๆลานไผ่ 
  • หว้าเห็นสวยดีถ่ายรูปมา แล้วไปถามพ่อครูค่ะ   เดี่ยวมีอีกหลายต้นถ่ายไว้ค่ะ  แต่จำไม่ได้หลายต้น ต้องขอตัวช่วยแล้วค่ะ   วันนั้นก็ไปถามอ.พิสูจน์ก็ไม่รู้เหมือนกัน
  • ไปถามพ่อ แล้วไม่ได้จดไว้เลยลืม 
  • ตอนนี้หว้ากำลังเรียบเรียงอยู่ค่ะอาจารย์   มาช่วยด้วยนะคะ กลัวผิดเพราะจะไปเขียนให้เด็ก วิทย์  สิ่งแวดล้อมอ่าน

มาเยี่ยมครับ ช่วงนี้มีบันทึกออกมาอย่างต่อเนื่องเลยนะ ก็ติดตามอ่านตลอดครับ

  • คุณคณิน..
  • ลองตามอ่านดูนะคะ   จะพยายามเรียบเรียงเรื่องราวที่ได้ไปพบเห็นที่สวนป่ามาฝากค่ะ

 

  • สวัสดีครับ
  • เยี่ยมมากเลยครับ

 

  • P   ขอบคุณค่ะพี่
  • คำชมของพี่จะเป็นกำลังให้หว้าต่อไปค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท