กลัวจับใจ


ความเรียง ถึงคำถามในใจและอีกมากมายของความรู้สึก บางสิ่งบางอย่างของปมที่ปรากฎอยู่ในชีวิตผู้คน หรือปมที่แอบซ่อนอยู่ภายในจิตใจ ซึ่งอธิบายว่า เป็นปมแห่งความหวาดกลัว ปมแห่งความกลัว และความกลัวจับใจ ที่ขับเคลื่อนชีวิตของผู้คน ผลักดันให้เรายังคงก้าวต่อไป ในแต่ละคืนวันของชีวิต วันนี้มีเพียงคำถามถึงความกลัวจับใจเหล่านั้น

กลัวจับใจ

 

อ้างอิง - ภาพ Kati1789

เป็นหนึ่งในใจ

และเป็นหนึ่งในเรื่องจริง

ที่ไม่สามารถล้อเล่นกันได้ระหว่างผู้คน

เมื่อใครสักคนจะกลัวสิ่งใดจับจิตจับใจ กลัวในบางสิ่งที่ใจรู้ดี ใครที่รู้ตัวเองดีว่า กลัวที่สูง กลัวที่แคบ กลัวความมืด จนไม่สามารถที่จะยืนหายใจด้วยความเชื่อมั่นได้ ล้วนรู้ซึ้งดีถึงช่วงเวลาอันน่าสะพรึงกลัวเหล่านั้น เหงื่อซึมฝ่ามือ หายใจเต้นแรง บางคนแข้งขาอ่อน หลายคนแทบจะร้องไห้

หลายคนก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่อายใคร

ความกลัวจึงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

ที่พึงจะล้อเลียน

ในท่ามกลางความจริงของชีวิต ที่เรายังคงหารอยด่างในดวงใจไม่ได้ ใครไม่เคยเข้าใจหัวอกคนที่กลัวความสูง กลัวเครื่องบิน แต่ต้องมีภารกิจชีวิต ต้องเดินทางต้องทำงานและรับผิดชอบ การขึ้นเครื่องบินจึงเสมือนหนึ่ง การเดินทางเข้าสู่หลักประหารในทุกครั้งของเที่ยวบิน

ความกลัว

นับเป็นหนึ่งเรื่องแปลก

ที่มองได้ทั้งแรงผลักดันชีวิต

และกำลังที่กดขี่ชีวิตผู้คน ในแต่ละความเจ็บปวดใจบางอย่าง หลายเรื่องฝังอยู่ภายในใจ เพื่อนผมหลายคนที่เคยนั่งสังเกต ในทุกครั้งที่เขาขับรถ เขามักจะไม่พยายามชิดขอบทาง เกาะกลางถนน หรือกระทั่งเมื่อรถคันใดวิ่งมาประกบด้านข้าง ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจ

เขาจะหลีกเลี่ยงระยะใกล้ชิดเหล่านั้น

นานหลายปีกว่าผมจะเข้าใจ

ว่าครั้งหนึ่งในวัยเด็ก

เขาเคยอยู่ในรถที่เกิดอุบัติเหตุ หลายครั้งที่ภาพเหล่านั้นยังคงติดตา และหลายครั้งที่เขาจดจำไม่ได้ ว่าทำไมจึงกลัวความใกล้ชิดเหล่านั้น กลัวทั้งขอบทาง เกาะกลาง ทางเท้า และรถที่ขับมาใกล้ใกล้ หรืออาจจะรวมถึงความหวาดกลัว ที่ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ชีวิตเขามากเกินไป

คนรู้จักบางคน

หวาดกลัวฝูงนกยามโบยบิน

กลัวในทุกครั้งที่ฝูงนกกระพือปีกบินพร้อมกัน

ใครไม่เข้าใจไม่เคยเห็นภาพ ลองจินตนาการถึงคนที่ยืนอยู่ ท่ามกลางฝูงนกในท้องสนามหลวง หรือตามสวนสาธารณะ ที่ฝูงนกพิราบมากมายลงมากินอาหารที่ผู้คนหว่านโปรย แล้วนึกภาพคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงนก ที่กำลังโบยบินอย่างสวยงาม กำลังกระพือปีกทะยานขึ้นไป

มองด้านหนึ่งก็ดูสวยงามในภาพเหล่านั้น

มองในอีกด้านหนึ่งของชีวิต

เราจะเห็นคนยืนร้องไห้

ไม่ใช่การดัดจริต และไม่ใช่การเสแสร้ง สำหรับชีวิตผู้คนที่ก้าวไม่ผ่านความหวาดกลัวในใจ หากแต่สิ่งเหล่านั้นเริ่มต้นขึ้นจากชีวิต และวัยเด็กที่ผ่านมา เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น จากทั้งปมในใจของวันวัยที่เติบโต หรือเกิดขึ้นจากช่วงเวลาของชีวิต ท่ามกลางบาดแผลที่ยังไม่ลืมเลือนจากใจ

หากชีวิตหนักเข้า

มือไม้ที่อ่อนล้าอาจไม่พอ

สำหรับลมหายใจที่อาจหยุดนิ่ง

เมื่อชีวิตวิ่งไม่พ้น ตัวตนของคนที่หนีไม่ออก ร่างกายอาจสร้างความจริงอันน่าสนใจ ลบเลือนและจางหาย ด้วยการหยุดหายใจ ด้วยการหยุดรับรู้ความเจ็บปวดทีชีวิตไม่อาจทานทน อาการกลัวจนลมจับล้มฟุบลงไป ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสำหรับชีวิตที่ไม่มีทางออก และสำหรับใจคน

 

 

ยิ่งนึกถึงวันคืนของชีวิตที่วิ่งวนมากมายวันนี้

ผมยิ่งไม่เข้าใจว่าเราเข้าใจบางสิ่ง

หรือปมบางอย่างเพียงพอ

หรือสามารถอธิบายกับตัวเองได้ดีว่า เรากลัวอะไร ไม่กลัวอะไร หรือสิ่งใดแอบซ่อนอยู่ในแต่ละรอยหยักของชีวิต บางครั้งเราอาจนึกไม่ถึง บางคราวเราอาจพบเจอเอง เมื่อต้องยืนขึ้นอยู่ท่ามกลางฝูงชน หรือยืนอธิบายเรื่องราวแทนผู้บริหาร ท่ามกลางผู้คนนับร้อยนับพัน โดยไม่ได้เตรียมตัว

ใครเคยเผชิญหน้า

กับความหวาดกลัวอันไม่รู้ตัว

ล้วนรับรู้ได้ดีถึงห้วงเวลาเหล่านั้น

จะเอาอย่างไรกับชีวิตเบื้องหน้า จะทำอย่างไรกับแข้งขามือไม้ เหงื่อก็ออกเต็มตัวเต็มใจ ลมหายใจก็ไม่เป็นใจ มือไม้ไม่รู้จะเอาไปวางหรือซุกไว้ที่ใด จนกระทั่งคำพูดแต่ละคำที่แสนจะยากลำบาก ยากเย็นและเข็ญใจยิ่งนัก บางคนที่เคยผ่านมาแล้ว และผ่านไปได้อย่างผู้ชนะอาจมีข้อสรุป

หลายคนอาจมีคำตอบในใจว่า

หากสิ่งเหล่านั้นเริ่มต้น

จนเคยชินมากขึ้น

เราก็อาจแก้ปัญหาความหวาดกลัวที่ถาโถมในใจเราได้ เช่นเมื่อเราเขินอาย ไม่มั่นใจ ก็ให้เริ่มต้นฝึกฝน เมื่อฝึกฝนบ่อยครั้งขึ้นเราก็จะมั่นใจ จนนำไปสู่ความเชื่อมั่นและหวาดกลัวน้อยลง บ่อยขึ้น ชินชามากขึ้น กระทั่งกลายเป็นความคุ้นเคยของชีวิต เราก็อาจค้นพบคำตอบของความไม่กลัว

แต่ไม่ใช่สำหรับ

ความจริงในทุกทุกกรณี

ของแต่ละความหวาดกลัวในใจคน

เพราะผู้หญิงผู้ชายหลายคน ที่ไม่อยากมีชีวิตสัมพันธ์ผู้อื่น ไม่ต้องการให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัว หวาดกลัวคนแปลกหน้าในทุกครั้งของชีวิต กระทั่งเมื่อใครมาสัมผัสตัว ก็แทบจะร้องไห้ตรงนั้น ไม่ยากหากจะคาดเดาถึงบาดแผล ที่เขาเหล่านั้นถูกล่วงละเมิดในวัยเด็ก

แต่ยากที่เด็กสักคนจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่

ในท่ามกลางความแตกสลายของดวงใจ

และบาดแผลที่ไม่อาจลบเลือน

ในท่ามกลางความจริงของชีวิตวันนี้ ในท่ามกลางสังคมที่มีผู้คนเจ็บป่วยมากมาย เดินวนเวียนกันไปมา บางคนพยายามรักษาดูแลเยียวยาตนเอง รักษาปมของหัวใจอันเจ็บปวดที่แอบซ่อน บางคนเลือกที่จะกระทำความรุนแรงนั้นต่อผู้อื่น เพียงเพราะเชื่อว่าเป็นการแก้แค้น

หรือกระทั่งคิดว่า

เป็นทางออกที่สำคัญของชีวิต

ชดเชยและเยียวยาบาดแผลที่ตนถูกกระทำ

จนวันหนึ่งเขาเหล่านั้นกลายเป็นผู้กระทำ และสร้างบาดแผลจากการกระทำของตนเอง ที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงไม่จบสิ้น จากเหยื่อจนมาเป็นผู้กระทำ และสร้างเหยื่อแห่งความเจ็บปวดต่อไป ในท่ามกลางสังคมป่วยไข้ และผู้คนที่เจ็บปวดในจิตใจ ผมไม่กล้าท้าทายล้อเล่นกับบาดแผลในใจ

ที่เราแต่ละคนไม่อาจแลเห็น หรือมองเห็นเพียงผิวเผิน

ผมไม่กล้าท้าทายต่อบาดแผลเหล่านั้น

ในความจริงของชีวิตที่ซับซ้อน

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 183441เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2008 15:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ คุณครูประจักษ์

ขอบคุณมากครับ

สำหรับดอกไม้ และกำลังใจที่นำมามอบให้ครับ ขอบคุณอย่างมากครับ สำหรับมิตรภาพอันอบอุ่นในครั้งนี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท