ในปลายปีช่วงสอบปลายภาคได้ประมาณสองวัน ได้เกิดอุบัติเหตุที่เกือบเป็นภัยพิบัติกับข้าพเจ้า แต่อัลลอฮฺได้ทำให้มันกลายเป็นทุกขลาภ เป็นเหตุให้ครอบครัวของข้าพเจ้าทุกคนย้ายจากมะหฺมูดียะฮฺมายังกรุงไคโร
เนื่องจากมีเพื่อนร่วมชั้นกับเราคนหนึ่งที่เช่าบ้านร่วมกัน และเป็นคนต่างถิ่นเหมือนกับเรา ไม่พอใจที่ข้าพเจ้าได้คะแนนเหนือกว่าทั้งที่เขาอายุมากกว่าและเรียนมามากกว่าหลายปี เขาเห็นว่าเขาควรที่จะได้ลำดับและคะแนนสูงกว่าข้าพเจ้า เขาจะยอมให้เด็กได้ลำดับสูงกว่าได้อย่างไร เขาจึงวางแผนการณ์ขัดขวางไม่ให้ข้าพเจ้าเข้าสอบ เขาจึงฉวยโอกาสในขณะที่ทุกคนนอนหลับ ราดทิงเจอร์ไอโอดีนใส่หน้าและคอข้าพเจ้าขณะกำลังนอนหลับ ข้าพเจ้าตกใจตื่นขึ้นมาแต่ได้แกล้งทำเป็นนอนหลับ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าใครทำ แต่ก็รีบเข้าห้องน้ำเพื่อล้างน้ำทิงเจอร์ที่ใบหน้า ข้าพเจ้าได้ยินเสียงอะซานที่มัสยิดศอร์ฆิตมิช ทีเขตศอลีบะฮฺ จึงรีบลงไปละหมาด เสร็จแล้วจึงกลับมางีบต่อเล็กน้อยเนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจาการอ่านหนังสือสอบ ในตอนเช้าตื่นขึ้นมาข้าพเจ้าเห็นร่องรอยการทำร้ายนั้น และเขาผู้นั้นก็ได้ออกไปตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อนคนหนึ่งกล่าวว่า เขาเห็นเพื่อนคนนั้นมีขวดทิงเจอร์จริงๆ เมื่อสอบถามเขาก็ให้การยอมรับและบอกเหตุผลดังกล่าวข้างต้น เพื่อนๆจึงพากันรุมเตะต่อย และโยนสัมภาระของเขาทั้งหมดไปบนถนน แล้วไล่เขาออกจากบ้านไป บางคนคิดแจ้งความกับอัยการหรือแจ้งโรงเรียน ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นด้วยแล้ว แต่มานึกขึ้นได้ว่า ข้าพเจ้าปลอดภัยแล้ว ซึ่งความปลอดภัยเป็นความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่ข้าพเจ้าจักต้องขอบคุณต่อพระองค์ และการขอบคุณนั้นทำได้โดยการให้อภัย
“ومن عفا وأصلح فأجره على الله”
“ ผู้ใดอภัยและคืนดี ผลบุญของเขาขึ้นอยู่กับอัลลอฮฺ ”(อัลกุรอาน)
ข้าพเจ้าจึงมอบหมายเรื่องราวทั้งหมดต่อัลลอฮฺและไม่ดำเนินการอะไรอีก แต่ว่าข่าวนี้แพร่ไปถึงบ้าน เมื่อเสร็จสอบข้าพเจ้ากลับบ้าน ผลการสอบออกมาปรากฎว่าข้าพเจ้าได้ลำดับต้นๆเป็นที่สามของรุ่น แต่มารดายืนยันเสียงแข็งว่า จะต้องเลือกอย่างหนึ่งอย่างใด ระหว่างให้ข้าพเจ้าลาออกและกลับมาทำงาน หรือนางจะต้องมาอยู่ไคโรกับข้าพเจ้า
ตกลงว่า นี้คือ ไดอารี ของผู้เขียนเองหรือว่าของใครค่ะ