ด้วยวันวิสาขบูชาอันเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันเพ็ญ เดือนหกนี้ ในฐานะพุทธมามกะ คือ ผู้นับถือพระพุทธเจ้าเป็นพระบรมครู ขอรำลึกถึงพระองค์ผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อโลกและขอถวายความนอบน้อมเหนือเศียรเกล้าแด่พระองค์ด้วยจิตอันเลื่อมใสสุดประมาณ
วันประสูติ.... พระองค์ได้ตรัสว่า “เราเป็นผู้เลิศ เป็นผู้เจริญที่สุด เป็นผู้ประเสริฐที่สุดของโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา การเกิดใหม่ของเราจักไม่มีอีกต่อไป” การประสูติของพระองค์ จึงเป็นการการประกาศศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่สามารถเป็นผู้ประเสริฐกว่าเหล่าสัตว์และเทพเจ้าทั้งหลายได้ ทั้งยังเป็นการประกาศจุดยืนแห่งการบำเพ็ญเพียรเพื่อความดีสูงสุดที่มนุษย์จะพึงเข้าถึง ซึ่งมิได้หมายถึง ลาภ ยศ สรรเสริญ หรือความสุขจากความมั่งมีทั้งหลาย แต่หมายถึงการยุติการเวียนว่ายตายเกิดอันเป็นวงจรของความทุกข์ทั้งหลาย โดยการถ่ายถอนความหลงมัวเมาในสิ่งน่าปรารถนาทั้งหลายเหล่านั้นต่างหาก
วันตรัสรู้....พระองค์ได้ตรัสรู้ “อริยสัจ 4” อันเป็นความจริงของชีวิต ประกอบด้วยเหตุและผลทั้งในด้านปัญหาและทางออกของปัญหาชีวิตเป็นที่ประจักษ์ จากนั้นทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกโดยการประกาศสิ่งที่ได้ตรัสรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อชี้แจงให้เหล่าสัตว์หยั่งเห็นความจริงและเชิญชวนให้ปฏิบัติเพื่อปลดเปลื้องตนจากสิ่งเศร้าหมองจนพ้นจากทุกข์ทั้งปวง การตรัสรู้ของพระองค์ จึงเป็นการเปิดเผยความจริงของโลกซึ่งถูกปกปิดไว้ด้วยมายาภาพทั้งหลายและเป็นการจุดประกายแสงสว่างในจิตใจของเหล่าสัตว์ผู้สดับธรรม บรรเทาความมืดคือ “อวิชชา” ที่ท่วมทับมานานแสนนานให้น้อยลงและสิ้นสูญในที่สุด พระองค์จึงทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสว่างและเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของโลกและเทวโลกอย่างแท้จริง
วันปรินิพพาน...แม้พระวรกายจะโรยราและอ่อนแรงตามสภาพของสังขาร แต่พระทัยของพระองค์ยังเต็มเปี่ยมด้วยพระมหากรุณา สมกับที่ทรงเป็นพระบรมครูผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ทรงมีน้ำพระทัยสอนสั่งเหล่าสัตว์ด้วยพระมหากรุณาธิคุณแม้ในวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ ทรงเตือนเหล่าสัตว์ในวันนั้นว่า “สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ขอเธอทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด” การปรินิพพานของพระองค์ จึงเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่ยังความโศกและน้ำตาอันหาประมาณมิได้ให้ปรากฎในโลก แต่ความสูญเสียนั้นหาได้เป็นการสูญสิ้นไม่ เพราะสิ่งที่ยังคงอยู่ตลอดไป คือ พระธรรมคำสอนของพระองค์ตั้งแต่วาระแรกจนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งล้วนเป็นสิ่งมีค่ากว่าทรัพย์ใด ๆ เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของเหล่าสัตว์ผู้มีปัญญา และเป็นสิ่งแทนพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงสอนว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”
วันวิสาขบูชา ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นวันสำคัญสากลของโลก จึงมีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นวันแห่งการรำลึกถึงพระบรมครู วันแห่งสันติภาพที่แท้จริง วันแห่งศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ วันแห่งปัญญา วันแห่งความบริสุทธิ์ วันแห่งความดับทุกข์ ฯลฯ วันสำคัญอันทรงคุณค่าที่มวลมนุษยชาติไม่ควรลืม โดยเฉพาะผู้ที่เรียกตนว่าเป็น “ชาวพุทธ”
ด้วยอำนาจแห่งพระบารมีธรรมของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขอเหล่าสัตว์ จงเป็นผู้เห็นธรรมที่พระองค์ตรัสรู้และสั่งสอนไว้ดีแล้ว
ขอผู้ประกอบด้วยธรรม จงมีจิตผ่องแผ้วปราศจากกิเลสเหตุแห่งทุกข์จนสิ้น
ขอแผ่นดินนี้ จงมีความผาสุกรอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดกาลเป็นนิตย์
ขอพระพุทธศาสนา จงสถิตย์มั่นคงเป็นที่พึ่งของปวงชนตราบนานเท่านาน เทอญ.
ขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ
อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
บุญรักษา ธรรมคุ้มครองนะคะ
วิสาขบูชาวันสำคัญ
ใจตั้งมั่นรำลึกถึงคะนึงหา
น้อมพระคุณองค์พระศาสดา
องค์สัมมาสัมพุทธะ บรมครู
มาใส่เกล้าใส่จิตปิดผองทุกข์
เก็บเกี่ยวสุข ณ ภายใน ใจหยั่งรู้
สดับธรรมนำมาคิดพินิจดู
ดำเนินลู่สู่เป้าหมายพระนิพพาน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ความเข้าใจ
ธรรมะสวัสดี