โครงการเสริมสร้างสมรรถนะการปฏิบัติในหน้าที่คุณอำนวย หรือโรงเรียนคุณอำนวยภาคราชการของจังหวัดนครศรีธรรมราชกำลังจะเคลื่อน เคลื่อนไม่เคลื่อนขึ้นกับเงินงบประมาณอยู่ดีมีสุข นี่ก็ได้รับแล้วจึงเริ่มลงมือ ผิดกับโรงเรียนคุณอำนวยเมืองคอนภาคนอกระบบราชการที่เราพบปะกันอยู่เรื่อยด้วยเงินในกระเป๋าเราเอง มีเพื่อนฝูงมากมายสนุนกสนานไปตามแบบนอกระบบราชการ
เมื่อวานนี้ผมได้เข้าร่วมประชุมเมื่อวานกับทีมงานท่านอื่นๆจากหลายหน่วยงานเกี่ยวกับแผนงานที่จะดำเนินการปีนี้ที่สำนักงานพัฒนาการชุมชนจังหวัด
เห็นแผนการทำงานว่าห้องเรียนไหนมีกำหนดนัดหมายเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละห้องเรียนว่าที่ไหนเมื่อไร
บอกว่าเป็นห่วงในหลายเรื่อง เช่น
กำลังจะใช้วิธีการพัฒนาสรรถนะคุณอำนวยแบบอบรมในห้องเรียน inclass trainning ผมจึงเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของโรงเรียนคุณอำนวยเมืองคอนให้ที่ประชุมได้ฟังหลังจากที่ประชุมกำลังจะมุ่งไปในทางให้การอบรมแบบชั้นเรียนเป็นหลัก ผมชวนกลับมาว่าเพราะการพัฒนาสมรรถนะแบบชั้นเรียนนี่แหละที่ผ่านมาจึงไม่ยั่งยืน เราจึงมาอบรมกันบนฐานงานของคุณอำนวยแต่ละคน ใครเคลื่อนงานอะไรอยู่ก็ใช้งานนั้นนั่นแหละเป็นห้องเรียนแหล่งฝึกที่แท้จริง ใช้การอบรมแบบห้องเรียนเป็นตัวเสริมเติมเต็ม
มุ่งแต่พัฒนาสมรรถนะให้คุณอำนวยเป็นยอดคุณอำนวย เก่งมีความสามารถมากในการใช้เครื่องมือและมีทักษะเป็นเลิศ แต่เครื่องมือและทักษะเหล่านั้นก่อให้เกิดความสำเร็จอะไร มองได้ที่งานหรือกิจกรรมอะไร ผมพูดเรื่องนี้ขณะที่มีการหยิบยกเรื่องการประกวดห้องเรียนคุณอำนวยดีเด่นขึ้นมา ไม่มีใครคุยเรื่องงานกันเลย คุยแบบไม่ไปไหนติดอยู่แต่เครื่องมือและทักษะกันทั้งนั้น คุณอำนวยจะต้องเขียนบล็อกได้อะไรประมาณนี้ ผมว่านี่คือหลุมดำ ผมตั้งคำถามว่าทำไมโรงเรียนคุณอำนวยจึงไม่ใช้งาน 550 หมู่บ้านที่ กศน.รับไปทำชุมชนอินทรีย์ปีนี้มาเป็นเนื้อหาในการฝึกสมรรถนะคุณอำนวย ทำไมคุณอำนวยไม่เชื่อมโยงกับโครงการถอดองค์ความรู้ชุมชนอินทรีย์ที่ปกครองจังหวัดรับไป คุณอำนวยจะได้ฝึกถอดบทเรียน ฯลฯ มุ่งแต่จะให้ห้องเรียนตนเองเก่งเพราะถ้าห้องเรียนคุณอำนวยห้องเรียนใดใช้เครื่องมือและทักษะอย่างว่าได้ ห้องเรียนนั้นจะได้รับเงินจากโครงการ 20,000 บาท เป็นรางวัล ไม่คุยเรื่องงานสำเร็จเลย เป้าหมายชุมชนอินทรีย์คือชุมชนเรียนรู้ไม่คุยกันเลย
ดีที่ส่งสัญญาณไปอย่างนี้ทำให้ที่ประชุมได้ปรับในหลายๆส่วน
แต่ก็อาจจะทำให้หลายท่านอาจจะเสียความรู้สึกไปบ้าง
ต้องขออภัยจริงๆ
ครูนงครับ
ผมรอวันที่จะได้พบครูนง และฟังเรื่องราวการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ จากปากครูนงโดยตรง
บันทึกนี้ ก็สะท้อนการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของราชการ
วิจารณ์
สวัสดีคะพี่ครูนง
จริงด้วยคะ บางครั้งเราเรียนรู้เครื่องมือเสียมากมาย จน เราเลือกใช้ไม่ถูก