สถานภาพการจัดการความรู้ของบุคลากรRDIขณะนี้ถือได้ว่ามีมาก บุคคลากรของเรากว่า 10 ท่านผ่านการกระบวนการฝึกอบรม KM KKU มา ท่านละไม่ต่ำกว่า 3-4ครั้ง ขอบคุณท่านอาจารย์หมอ จิตเจริญอาจารย์ JJของพวกเรา สมัยท่านเป็นผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ มข.เป็นผู้หนึ่งที่ได้ประสิทธิประสาทความรู้เรื่อง KM ให้กับเราและบุคคลากร มข. มากมาย ความรู้หนึ่งที่ท่านบอกเราก็คือ 1.KMเป็นเครื่องมือพัฒนาองค์กร กระบวนการนี้จะช่วยให้ศักยภาพภายในที่มีอยู่ของเรา ปรากฏออกมา ฉายแสงออกมา 2.ทำให้เราแต่ละคนรู้ว่าตัวเองนั้นมีคุณค่าอละสามารถเสริมแรงให้กับตัวเองได้ จะก่อให้เกิดเป็นพลังขององค์กร 3.KM จะช่วยพัฒนาการเชื่อมสาน สานสัมพันธ์คนในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ 4.KM.เป็นกระบวนการพัฒนาคนจากภายใน 5.KM ไม่ใช่เรื่องยากไม่ใช่วิชาการความรู้อะไรมากมาย แม้ในวงพูดคุย ปรึกษาหารือก็คือKM นั่นเอง ซึ่งหากดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีกระบวนการที่ดี ก็จะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนและทุกคนก็พร้อมที่จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เข้มแข็งและเจริญก้าวหน้า จากเรื่องดังกล่าวทำให้เราหันกลับว่าพิจารณาบุคคลากรของ RDI กันจริงๆจังๆว่าแต่ละคนมีความรู้ความสามารถอะไรบ้าง เรื่องนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งขององค์กร และขณะเดียวกันเราก็จะพิจารณาว่าคนของเราอ่อนอะไร เราจะเสริมจุดอ่อนนั้นให้แข็ง เราเชื่ออย่างยิ่งว่าองค์กรพัฒนาได้เพราะคน และคนขององค์กรนี่แหละที่จะทำให้องค์กรเข้มแข็ง RDI มีวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่น่าสนใจ จิตสำนึกของคนที่อยู่รักและผูกพันธ์กับองค์กร และความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคนขององค์กร ที่สำคัญองค์กรเราไม่ใหญ่มีคนทำงานไม่มาก เราจึงสามารถรู้จักกันอย่างลึกซึ้ง สิ่งที่สำคัญก็คือเราจะใช้กระบวนการ KMพัฒนาบุคลากรของเราอย่างต่อเนื่อง ใช้กระบวนการKMกับการพัฒนาศักยภาพความรูของคนทำงานและใช้KMกับการวิจัยที่หลากหลายให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับคน สังคมชุมชน เราเชื่อว่าเราจะสามารถสร้างและดึงความเชื่อมั่นในคนเอง ความรู้ในตัวตนให้ควบคู่ไปกับความการยอมรับในความสามารถของกันและกันในองค์กร ซึ่งจะสามารถนำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องอื่นที่เข้ามาในองค์กรRDI KKU ได้อย่างมีพลัง
ไม่มีความเห็น