ปกติอีกเช่นเคย ที่ผมอ่านวรรณกรรมของกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ช่วงเวลาภาวะโลกร้อน ใครๆ หลายคนคงสาละวนอยู่กับการงานอันไม่รู้จบ เร่งรีบไปสู่ปลายทางตามใจปรารถนา พบความรื่นรมย์ พบรอยยิ้ม พบเห็นความเวทนาที่ข้างถนน ไม่ว่าเราจะนั่งอยู่บนรถยนต์ 4 ล้อ 2 ล้อ หรือเดินข้างถนน ชีวิต 365 วัน นำเราไปสู่ความชาชิน จนเสพสุขบนความไม่รู้สึกใดๆ กับ ??? .....
ลองมาอ่านข้อเขียน ยามเช้าของชีวิต
...การเขียนหนังสือทำให้ผมตั้งคำถามถึงชีวิต และต่อมากลายเป็นแรงปรารถนาในการมีชีวิตอยู่ มันชักนำผมลงสู่หมู่บ้านซึ่งยังพอมีเค้ารอยรูปแบบสังคมบุพกาล ด้วยหวังว่าจะค้นพบคุณค่าและความหมายบางอย่างจากสังคมชนิดนั้น ผมได้มาเห็นชีวิตที่เป็นจริง กับทั้งการรุกคืบของวิถีสมัยใหม่เข้ามาบดขยี้ทำลายชีวิตเหล่านั้น ปรารถนาแห่งการเขียนและการเรียนรู้ยิ่งชักนำให้ผมเดินลึกเข้าสู่สังคมซึ่งคงรูปแบบบุพกาลมากยิ่งขึ้น กระทั่งวันหนึ่งผมได้พบตัวเองกลายเป็นคนปลูกต้นไม้อยู่ในหมู่บ้านหุบเขาอันไกลโพ้น แล้วดวงตาและดวงใจซึ่งสัมผัสไม้แต่ละต้นนับแต่เริ่มแตกผลิกรทั่งหยัดยืนอย่างทระนง ทำให้ผมเกิดความหลงใหลบางอย่าง ผมรู้ ! ความหลงใหลนั้นแผ่ออกไปครอบคลุมถึงองคาพยพของชีวิต ทว่าขณะเดียวกันผมมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่หลงใหล ผมเชื่อมั่นในการมีชีวิต นั่นเองที่ทำให้ผมเสมือนไม่รับรู้ว่ากำลังเดินสวนทางกับยุคสมัย นี่อาจเป็นเรื่องยากเกินความเข้าใจ แม้แต่กับตัวผมเอง....
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันมิตรภาพระหว่างกัน ครับ
ขอบคุณอีกครั้ง ครับ
สวัสดีค่ะคุณครูวิช
สวัสดีครับ อาจารย์ทวิช :)
:)
สวัสดีคนไม่มีราก
ขอบคุณครับที่เขียนถึงกันอยู่
เช่นเคยครับ นิ้วมือซ้ายยังชาอยู่ครับ คงนานอยู่กว่าจะหายชา ครับ
ขอให้มีความสุขครับคนไม่มีราก
เปิดเทอมแล้วครับ
สวัสดีคุณWasawat Deemarn
ขอบคุณครับ
ข้อมือซ้ายยังขยับไม่ดีนัก นิ้วกลางและนิ้วนางยังชาอยู่ ยังกำมือไม่ปกติ
สงสัยเป็นกรรม ครับ
ขอให้คุณWasawat Deemarn มีความสุข ช่วงปิดเทอมอยู่นะครับ
สวัสดีค่ะคุณครูวิช