ตามหัวเรื่องนี้ หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์หรือ Experiences กับความรู้ เช่น สองอย่างนี้อะไรเกิดก่อน? ถ้าไม่มีประสบการณ์แล้วจะมีความรู้หรือไม่? คอมพิวเตอร์หรือหุ่นยนต์ที่ "คิดได้", "พูดได้," "จับนั่นนี่ได้," นั้น มันจะมีประสบการณ์ด้วยหรือไม่ ? ฯลฯ การพูดที่จะให้มีวามชัดเจน ผมมักจะใช้รูปประกอบครับ และขอใช้รูปเดิมๆ ดังนี้
สี่เหลี่ยมสีม่วงนั้นแทนก้อนสมองทั้งก้อน ห่อหุ้มด้วยกะโหลกศีรษะ สีเหลืองแทนสมองส่วนที่แสดงกิจกรรมตอบสนองสิ่งเร้าจากภายนอกกะโหลก หรือโลกภายนอกของสมอง และ "เกิดความรู้สึกตัว" ตัว "ก" เป็นสิ่งเร้าในรูปของบัตรคำ ระยะห่างจาก "ก" ถึง "ตา" เป็ช่วงหนึ่ง จาก "ตา" ถึง "สมอง" ก็เป็นอีกช่วงหนึ่ง "ก" เข้ากระทบตาในรูปของคุณสมบัติของแสง เช่นคลื่นแสง จากตาคลื่นนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นคลื่นไฟฟ้าหรือคลื่นประสาท และเรียกกันว่า "สาร" หรือ Information คือยืมภาษาคอมพิวเตอร์มาใช้ สารนี้ก็จะเดินทางต่อไปตามใยประสาทตาถึงสมอง(ส่วนที่เป็นสีม่วง) และ "กระทบ"กับสมองส่วนที่แสดงกิจกรรมและเกิด"ความรู้สึกตัวอยู่ก่อนแล้ว" (ส่วนสีเหลือง) และทันใดนั้นก็ "เกิดการรู้สึกสัมผัส-ก1" ขึ้น (คอมพิวเตอร์หรือหุ่นยนต์จะไม่เกิดเหตุการณ์นี้) และการรู้สึกสัมผัสนี้ก็คือ "ประสบการณ์" ระดับหนึ่ง จากนั้นก็ "เกิดการรับรู้-ก2" (ดูบันทึกครั้งก่อนนี้) การรับรู้นี้ก็ถือเป็น "ประสบการณ์" อีกระดับหนึ่งที่ซับซ้อนขึ้น และถ้า "ประสบการณ์-ก2" นี้ "ยังคงอยู่ต่อไปได้นาน" ก็เรียกว่า "จำ" และ ที่ "จำ" นี้แหละที่เรียกกันว่า "ความรู้" ถ้าต่อมาเราหลับ - การรู้สึกตัว(ส่วนสีเหลือง)ก็จะหายไปเหลือแต่ส่วนสีม่วง- และเราตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง (ส่วนสีเหลืองก็เกิดขึ้นอีก) และเรายัง "ระลึก-ก" ได้อีก ก็เรียกว่า "เราจำได้" และพูดว่า "เรามีความรู้ -ก" แล้ว !!
ถ้าเช่นนั้น ประสบการณ์ ก็ต้อง "มาก่อน" ความรู้ !
ถ้าเช่นนั้น ถ้าไม่มีประสบการณ์ - ก แล้วละก้อ จะ "ไม่มี" ความรู้ - ก !!
และถ้าเช่นนั้น ประสบการณ์ - ก ต้องเป็น"ตัวกำหนด" ความรู้ - ก !!!
ไม่ได้อ่าน blog ของอาจารย์เสียนานครับ ผมเองพักหลังๆ ก็วุ่นๆ เปิดเว็บมาอีกที อ้าว มีเพิ่มอีก 2 ตอนทีเดียว
ผมอ่านเรื่อง "ประสบการณ์" แล้ว ก็พยายามคิดว่า ถ้าเป็นกรณีของระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) แล้ว การที่ผู้พัฒนาได้ทำการป้อนซอฟต์แวร์ หรือข้อมูลลงไปเพิ่มเติม จะนับเป็น "ประสบการณ์" ด้วยไหมครับ? ผมว่าน่าคิด
สวัสดีค่ะอาจารย์ ไม่ได้อ่านบล็อกอาจารย์มานาน ต้องขอเข้ามาร่วมแจมต่อยอดซะหน่อยแล้วค่ะ
สวัสดีครับ ดร.จันทวรรณ และ คุณ kafaak รู้สึกยินดีมากครับ ดูเหมือนว่าเป็นคำถามแบบชวนสนทนาทักทาย ทั้งสองคำถาม ดังนั้นผมจะตอบพร้อมกันก็แล้วกันนะครับ
(๑) เอาของคุณkafaakก่อนนะครับ คำถามว่า "...ผู้พัฒนาป้อนซอฟแวร์หรือข้อมูลเพิ่เข้าไป จะเป็น ประสบการณ์หรือไม่ (กรณี AI )" คำถามไม่ได้แจ้งชัดว่าเป็นประสบการณ์ของใคร - ของผู้พัฒนา - หรือว่าของคอมพิวเตอร์ - ถ้าเป็นประสบการณ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว "ไม่ใช่" ครับ "เพราะว่า คอมพิวเตอร์ "ไม่มีความรู้สึกประสบการณ์" แต่ถ้าเป็นของผู้พัฒนาแล้ว "ทุกครั้งที่เขาสัมผัสสิ่งใดๆและเกิดความรู้สึกสัมผัส, รับรู้, สิ่งนั้นๆแล้ว ก็ถือว่าเขา"มีประสบการณ์"อยู่ในขณะนั้นแล้ว ครับ อันที่จริง ในขณะที่เขาลืมตาอยู่นั้น เขาก็ได้"สัมผัสและรับรู้สิ่งแวดล้อมรอบกายเขาอยู่ตลอดเวลา"อยู่แล้ว นั่นก็คือเขามี"ประสบการณ์"กับสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
(๒) คำถามของ ดร.จันทวรรณที่ว่า "....ไม่ต้องมี Experience ก่อน ....มนุษย์มีความรู้ที่จะจัดการกับสิ่งนั้นๆได้ เรียกว่า สัญชาตญาณ" .... แยกแยะดังนี้
ไม่ต้องมีประสบการณ์ (มากำหนดความรู้)
มนุษย์มีความรู้อยู่ก่อนแล้ว
ความรู้นั้นคือสัญชาตญาณ (เป็นตัวกำหนดความรู้นั้น )
นั่นคือ ข้อความว่า "สัญชาตญาณเป็นตัวกำหนดความรู้" นั้น ทำหน้าที่เป็น "ข้อตกลงเบื้องต้น" ( Assumption, Axiom, Postulate)
ความคิดนี้จะมีคำถามตามมาดังนี้ครับ (๑) สัญชาตญาณ คืออะไร ? (๒) มีจริงหรือไม่ ? (๓) ถ้าตอบ (๑),(๒), ได้ ก็จะพบคำถามว่า สัญชาตญาณนั้นกำหนดความรู้ได้อย่างไร?
สวัสดีค่ะท่านผู้รู้ทุก ๆ ท่านคะ
สัญชาตญาณเกิดขึ้นต้องอาศัยสิ่งเร้าหรือไม่ อาจารย์ไสวคะ ยังไม่เข้าใจว่าสัญชาตญาณ คืออะไร ? (๒) มีจริงหรือไม่ ? (๓) ถ้าตอบ (๑),(๒), ได้ ก็จะพบคำถามว่า สัญชาตญาณนั้นกำหนดความรู้ได้อย่างไร?
ขอบคุณนะคะ
อิน
คือในอดีตโน้นผู้คิดมากเขาได้ถกปัญหากันว่า คนเราได้ความรู้มาก่อนเกิด หรือว่าได้มาหลังการเกิด
ฝ่ายแรกตอบว่า คนได้ความรู้มาแล้วก่อนเกิด ความรู้นั้นคือ เหตุผล จากนั้น เหตุผลนี้ก็มาทำหน้าที่เลือกความรู้จากธรรมชาติที่เข้ามาทางอวัยวะสัมผัสทั้งหลาย
ฝ่ายหลังก็แย้งว่า ไม่ใช่ คนเกิดมาหัวว่างเปล่า มีแต่ก้อนสมองล้วนๆ หามีความรู้ใดๆไม่ ความรู้ในธรรมชาติเข้ามาทางอวัยวะสัมผัสที่เราเรียกว่าประสบการณ์ ถ้าไม่มีประสบการแล้วก็หามีความรู้ได้ไม่ ความรู้ในที่นี้หมายถึงความรู้ที่ถูกต้อง คนตาบอดมีความรู้เกี่ยวกับช้างเหมือนกัน แต่ช้างของเขาไม่เหมือนกับช้างจริงๆ อาจเป็นช้างแปดขา มีเขายาว มีปีก ก็ได้ ตามที่เขาจะคิดเอาเอง เป็นต้น
จึงเรียกกันว่า ฝ่ายแรก เหตุผลเป็นตัวกำหนดความรู้ ฝ่ายหลัง ประสบการณ์เป็นตัวกำหนดความรู้ และเถียงกัน ผู้เถียงกันก็เรียกกันว่านักปรัชญา เนื้อหาที่เถียงกัน ก็เรียกว่าปรัชญา ปัญหาที่เถียงกันก็คือ ความรู้เราได้มาอย่างไร
คราวนี้ก็มีคนอื่นๆร่วมวงเข้ามา และเสนอความคิดอื่นเข้ามา คือ สัญชาตญาณ ครับ