หนังสือที่รัก:ไอน์สไตน์ถาม..พระพุทธเจ้าตอบ(เป็นอีกเรื่องที่อยากแนะนำค่ะ :)


ตราบใดที่เราติดอยู่กับความคิดไม่ว่าจะคิดแบบใด ด้านใด นั่นก็หมายถึงเราจะไม่ถึงภาวะนิพพานนั่นได้เลย

ช่วงนี้ได้พักยาว..เป็นเวลาที่แสนจะพิเศษที่สุด....มีความสุขมากๆเลยค่ะ.เมื่อได้อยู่เงียบๆกับการอ่านหนังสือที่ถูกใจ...เล่มนี้ เป็นอีกเล่มหนึ่งที่อยากแนะนำค่ะ

"ไอน์สไตน์ถาม พระพุทธเจ้าตอบ" แต่งโดย คุณศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน จัดเป็นหนังสือเล่มโปรดอีกหนึ่งเล่มในดวงใจ..ถ้าพลาดล่ะเสียดายแย่เลยค่ะ..ต้องขอบคุณพี่สาว..ที่ซื้อหนังสือหลากหลายแนวมาให้เลือกสรร...ก็เลยไม่ต้องเสียตังค์ซื้อเองแต่อย่างใด..(คนมีบุญก็เป็นอย่างนี้ล่ะค่ะ..อิอิ)

       เข้าเรื่องเลยดีกว่า..ที่ว่าประทับใจมากๆ..ก็เพราะว่า..เล่มนี้..ได้แสดงถึงความคิดของไอน์สไตน์ในการหาจุดที่คงที่ของทุกสิ่งที่ผู้แต่งได้แสดงถึงมุมมองความคิดของไอน์สไตน์ที่ไม่มีใครตอบคำถามของเค้าได้นอกจากพระพุทธเจ้า..ต้องขอชมเชยกับความพยายามอธิบายสิ่งที่เป็นนามธรรมให้ผู้อ่านเข้าใจได้ชัดเจนขึ้นด้วยการยกตัวอย่าง และใช้ภาษาที่ง่ายๆ อธิบายเป็นขั้นตอนอย่างใจเย็น อ่านแล้วเพลินมากเลยค่ะ...สิ่งที่เค้าต้องการเน้นคือการไปถึงภาวะนิพพาน..ที่นี่และเดี๋ยวนี้

       ภาวะนิพพานของเค้า..นำเสนอโดยยกตัวอย่างด้วย รถไฟสองขบวน ขบวนที่หนึ่งเป็นพระนิพพาน เราจะใช้ชื่อว่า ขบวนที่นี่ เดี๋ยวนี้ ขบวนที่สอง เราเรียกมันว่า เป็นขบวนรถไฟชีวิต

เมื่อนำกล่องเวลาของอดีตและอนาคตมาเปรียบเทียบกับรถไฟสองขบวนนี้ นั่นก็หมายถึง ทุกครั้งที่เรากำลังคิดถึงอดีตนั้น รถไฟชีวิตจะเดินช้ากว่ารถไฟขบวนที่นี่ เดี๋ยวนี้ และเมื่อใดที่เรากำลังคิดถึงเรื่องราวของอนาคต นั่นก็หมายถึงว่าเรากำลังนั่งอยู่ในกล่องเวลาของอนาคต จึงทำให้รถไฟชีวิตวิ่งขึ้นหน้าเร็วกว่ารถไฟขบวนที่นี่ เดี๋ยวนี้ไปทันที

นั่นก็คือ ทุกครั้งที่เราคิด เราก็ได้เข้าไปนั่งในกล่องของเวลาที่เป็นอดีหรืออนาคตแล้วทันที เราจึงไม่สามารถขับรถไฟชีวิตให้ได้ระดับเดียวกับรถไฟขบวนที่นี่ เดี๋ยวนี้ รถไฟของเราจึงวิ่งไม่เร็วเกินไปก็ช้าเกินไปอยู่เสมอ

ดังนั้น จึงไม่น่าจะแปลก ที่เรามักไม่เคยพบภาวะนิพพานนั้นเสมอเพราะเราวิ่งไม่ได้ระดับกับรถไฟขบวนพระนิพพานนั่นเอง

เพราะฉะนั้น..การที่เราจะหยุดความคิด..โดยไม่คิดนั้น..เราจำเป็นต้องฝึกปฏิบัติด้วยการอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น โดยทำตัวเป็นผู้ดูหรือผู้สังเกตการณ์ ดูที่ลมหายใจ การเคลื่อนไหวและความรู้สึกของกายอย่างเงียบกริบ ในหัวจริงๆ เมื่อไม่คิด จิตก็ไม่ปรุงแต่ง ไม่ทุกข์และไม่มีกรรมอีกต่อไป เพื่อที่รถไฟขบวนชีวิตของเราจะได้วิ่งคู่ขนานกับรถไฟขบวนที่นี่ เดี๋ยวนี้อย่างแท้จริง

สรุปก็คือ..ตราบใดที่เราติดอยู่กับความคิดไม่ว่าจะคิดแบบใด ด้านใด นั่นก็หมายถึงเราจะไม่ถึงภาวะนิพพานนั่นได้เลย

--------------------------------------------------------

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจในการฝึกสติให้อยู่ที่นี่..เดี่ยวนี้ได้ดีมากเลยค่ะ..

เจอสิ่งดีๆอย่างนี้..ก็ต้องรีบนำมาแบ่งปันกันจริงมั๊ยคะ..

-------------------------------------------------------

อ่านแล้วคิดเห็นอย่างไร..ปฏิบัติแล้วเห็นผลอย่างไร..เล่าให้กันฟังบ้างนะคะ..

ขอบคุณค่ะ.....

หมายเลขบันทึก: 181128เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2008 20:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)
  • สวัสดีค่ะคุณครู
  • อ่านหนังสือแล้วยังเอามาแบ่งปันด้วย
  • ขอบคุณค่ะ
  • ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

สวัสดีครับ ครูแอ๊วครับ

ครูครับ ต้องขอบคุณมากๆครับที่ทำให้ผมตัดสินในในการเลือกหนังสือในการแนะนำฉบับต่อไป ผมเล็งไว้นานแล้ว และเล่มนี้เห็นนักวิจารณ์หลายท่านแนะนำให้อ่าน

เมื่ออ่านบันทึกของครูแล้ว ผมตัดสินใจในทันทีครับ

ขอบคุณพี่สาวด้วยครับที่ใจดีซื้อหนังสือมาให้น้องสาวได้อ่าน เป็นกัลยาณมิตรโดยแท้ ...พี่สาวน่ารักมากครับ ฝากชมครับ

ขอบคุณมากครับ...

รักษาสุขภาพและมีความสุขนะครับ :)

ยินดีที่รู้จักค่ะ..P คุณ berger0123 ^^

เรื่องดีๆ..อย่างนี้ต้องแบ่งปันค่ะ...แอ๊วอ่านแล้วเพลินมาก..อ่านแบบลึกซึ้ง..เลยค่ะ..ชอบอีกประโยคที่เค้าบอกว่า..

ภาวะนิพพานก็เหมือน"ตัก"ที่ถ้าเราไม่นั่งลง..ตักก็ไม่เกิด..เช่นเดียวกัน ถ้าเราไม่ฝึกสติ เราก็จะไม่มีโอกาสสัมผัสพระนิพพานได้เลย..

เพียงแค่การคิด..หรืออ่านไม่สามารถจะทำให้ถึงได้ค่ะ..

งั้นเรามาฝึกปฏิบัติไปพร้อมๆกันดีมั๊ยคะ..ที่นี่เดี๋ยวนี้ค่ะ..อิอิ

ขอบคุณมากค่ะ..

สวัสดีค่ะ.คุณเอกP  จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

คุณเอกได้หนังสือเขียนแนะนำแล้วใช่มั๊ยคะ..ถูกใจมั๊ยคะ..ถ้าคุณเอกชอบอ่านแนวนี้ก็คอเดียวกันเลยค่ะ..

ส่วนตัวแล้วก็ชอบอ่านแนวนี้ล่ะค่ะ..เพราะมันได้อะไรมากมายกับชีวิตของเรา..อ่านแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่า..จริงๆแล้วเราก็เป็นแค่ธุลีของจักรวาล..แค่นั้นเอง..แต่ด้วยความไม่รู้และก็เต็มไปด้วยกิเลสนะคะ..ที่ทำให้เรามองอะไรก็เป็นตัวเรา ของเราไปหมด..ยิ่งเรามากเท่าไหร่ก็ทุกข์มากเท่านั้น..ยิ่งคิด ก็ยิ่งปรุง ก็ยิ่งทุกข์และเจอทางตัน..ในที่สุดก็ตายไปอย่างน่าเสียดาย..

เพราะฉะนั้นเมื่อรู้คำตอบและวิถีทางของการหลุดพ้นแล้วก็ต้องรีบทำ..เพราะไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่..อย่างน้อยชาตินี้เกิดมาได้เป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนาก็ถือว่ามีโชคมาก..ต้องรีบปฏิบัติค่ะ..

แอ๊วก็ถือว่าโชคดีนะคะ..โชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่ดี พบเจอแต่สิ่งที่ดี คนดีดี..ตื่นมาก็รู้สึกขอบคุณทุกๆอย่าง..รู้สึกว่า..มีความสุขแล้วกับชีวิตที่มีอยู่ตอนนี้..พอใจกับสิ่งที่มีและเป็นค่ะ..

ขอบคุณนะคะ..ที่เป็น"กัลยาณมิตรที่ดี"..การมีเพื่อนดี เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสุขค่ะ...ขอบคุณค่ะ. ^^

สวัสดีครับคุณครูแอ๊ว

  • ครูข้างถนนเคยได้ยินหนังสือเล่มนี้ครับ
  • แต่ยังไม่เคยสัมผัสและเคยอ่าน
  • เห็นทีจะต้องหาอ่านแล้วหละครับแต่ว่า
  • เล่มนี้ 527 หน้า ยังอ่านไม่จบเลยครับ ต้องเคลียงานให้เบาบางลงก่อน
  • แล้วจะลงมือ่านอย่างจริงจังสักที
  • ครูข้างถนนชอบอ่านหนังสือ แต่ส่วนมากจะเป็นหนังสือวรรณกรรมเยาวชน
  • และนวนิยายมากกว่าครับ
  • ขอบคุณครับ

ขอแนะนำบ้างนะครับ  ถ่ายภาพไม่ทัน  เอาชื่อหนังสือแล้วกัน  ไม่แน่ใจว่ามีจำหน่ายเปล่านะ  แต่รับรองดีมากๆๆ  ผมอ่านจบแล้ว

กฎหมายในละคร

สวัสดีตอนเช้าค่ะ ครูแอ๊ว

คุณครูเด็กๆ เขาอ่านหนังสือแบบนี้กันเหรอ..น่านับถือจัง พี่อ่านไม่จบสักที..หลับซะก่อน ตามมาอ่านข้อสรุปเอาดีกว่า...พี่อ่านจบแค่ขายหัวเราะ+มหาสนุก ของลูก ..อิอิ

สวัสดีครับ คุณครูแอ๊ว

  • เห็นชื่อบันทึก โดนใจมากส์ จึงตามเข้ามา
  • อ่านบันทึกนี้จบ ได้คิดครับ เราฟุ้งซ่านมากไปจึงไม่เป็นสุข
  • "ภาวะนิพพานก็เหมือน"ตัก"ที่ถ้าเราไม่นั่งลง..ตักก็ไม่เกิด" ถึงเลยครับ
  • อยู่กับปัจจุบันขณะ แล้วเราจะเริ่มรู้สึกว่าเบา สบาย ไร้กังวล
  • ขอบคุณมาก และขอให้โชคดีตลอดไปนะครับ

เล่มนี้ก็อยากอ่านอยู่เหมือนกัน...

แต่เล่มแรก ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น ยังไม่จบเลยจ้า

คร่อกๆ

สวัสดีค่ะ.คุณP  ครูข้างถนน

ชอบอ่านหนังสือนิยายเหมือนกันค่ะ..อ่านตั้งแต่วัยรุ่นเลยค่ะ..ชอบอ่านของ ทมยันตี พอดีที่บ้านคุณแม่ก็ชอบอ่าน..ก็เลยมีห้องสมุดเล็ก..เต็มไปด้วยหนังสือ..มีความสุขค่ะ..

การอ่านมันทำให้เราไม่เหงาและอยู่คนเดียวได้อย่างมีความสุขนะคะ..

ขอบคุณค่ะ..ที่แวะมาเยี่ยมเสมอเลย.^_^

สวัสดีค่ะ..ผอ.P ประจักษ์

หนังสือที่แนะนำ กฎหมายในละคร เนี่ยเกี่ยวกับอะไรคะ..เผื่อจะไปหามาอ่านบ้าง..ชื่อฟังดูแปลกๆนะคะ...อิอิ

เปิดเทอมหรือยังคะเนี่ย..?

ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ..ที่แวะมาทักทายกันเสมอเลย.. ^ ^

 

สวัสดีค่ะ..พี่ นงเยาว์ แช่มช้อย

ดีใจจังค่ะ..ที่พี่นงเยาว์มาแวะอรุณสวัสดิ์เช้านี้..ครูเด็กอ่านหนังสือเกินวัยปะคะ..พอดีโตเป้นสาวปุ๊บก็แก่เลยอะค่ะพี่..อิอิ..ก็เลยชอบมาก..ไม่อยากบอกเลยว่า..ชอบอ่านหนังสือธรรมะตั้งแต่วัยรุ่นแล้วค่ะ..สะสมด้วยค่ะ...แต่ไม่เครียดนะคะ..

พี่นงเยาว์เป็นอย่างไรบ้างเอ่ย..พักเต็มที่หรือยังคะ..โรงเรียนแอ๊วยังไม่เปิดเลย..ก็เลยได้พักต่อนิดหน่อย..ชาร์ตแบตเต็มที่ก่อนเปิดเทอมค่ะ..

ขอบคุณพี่นงเยาว์นะคะ..ที่แวะมาทักทายเสมอ..ดีใจค่ะ..ที่ได้รู้จักพี่และครูตุ๊ก..และอีกหลายๆท่าน..ทำให้มีกัลยาณมิตรทุกภาคเลย. อิอิ.(ไปตกรถแถวไหนไม่ต้องกลัวแล้วเรา ^__^)

ครูแอ๊วครับ...

ผมชอบเช้าวัด, มาก  ไปวัดมาตั้งแต่เด็ก ๆ  ตอนนี้ลูกเลยพลอยชอบเข้าวัดเข้าวา, ปิดเทอมก็บวชเณร

แต่ยังไงไม่ทราบ  ผมกลับไม่คุ้นเคยกับการอ่านหนังสือในแนวธรรมะ  แต่ถ้าออกปรัชญานั้นพอไหว  แต่ที่อ่านแล้วชอบมากก็คือ ไตรภูมิพระร่วง  ภาษาอ่านอ่านยากหน่อย  เพราะว่าเป็นยุคสุโขทัย  แต่วรรณคดีนี้ก็มีความเป็นพุทธ , พราหมณ์  และคติชนความเป็นไทยที่ชัดเจนมาก   เห็นภาพนรกสวรรค์ชัดเจน ......

.....

ไว้มีโอกาสจะศึกษาเรียนรู้ -  ขอบคุณครับ

ไม่ว่าศาสนาใดก็ล้วนแล้วแต่จะสอนให้เป็นคนดี ซึ่งอาจมีเป้าหมายที่แตกต่างกันไปบ้าง เช่น ศาสนาพุทธก็หวังนิพพาน คริสต์ก็มีเป้าหมายคือชีวิตนิรันดร์ และเราล้วนต่างไม่เคยเห็นในจุดนั้น แต่รู้ว่าดีแน่ๆ ดังนั้นการปฏิบัติดีก็เหมือนเอาตัวเองไปอยู่บนเส้นทางหลักที่จะไปยังจุดนั้น ดังนั้นแม้ไปไม่ถึงจุดหนึ่งอย่างน้อยเราก็อยู่บนทางสายหลักและไม่มีวันหลงทาง จริงมั๊ยครูแอ๊ว

สวัสดีค่ะ..อาจารย์P  ทนัน ภิวงศ์งาม

หนังสือเล่มนี้ดีมากๆค่ะ..อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจในการปฏิบัติมาก..โดนใจเหมือนกันค่ะ..

เห็นข้อเขียนของอาจารย์ก็แนวนี้นะคะ..น่าสนใจดีค่ะ..

ธรรมะ..คือธรรมชาติ..เรียนรู้ธรรมะ..ก็คือการเรียนรู้ธรรมชาติ..โดยเฉพาะตัวของเราเอง..

ขอบคุณนะคะ..ที่แวะมาทักทาย..ยินดีที่รู้จักมากๆเลยค่ะ..

 

พี่ตุ่นจ๋า..P  tuk-a-toon

ตอนนี้..ก็กล่อมเด็กหญิงฟ้าให้อ่านได้แล้ว..เรื่อง ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น..แอ๊วเห็นเนื้อหาน่าสนใจ..ก็เลยบอกหลานว่าเล่มนี้อ่านเดี๋ยวนี้ฉลาดเดี๋ยวนี้..มีปัญญาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมร้อยเท่า..(โฆษณาชวนเชื่อไปเปล่าเนี่ย)..ปรากฏหลานฟ้าหยิบมาอ่านอย่างสนใจทีละบรรทัด..เราสุดจะชื่นใจที่เห็นหลานตัวน้อยสนใจหนังสือปรัชญา..แต่ว่า.ตอนนี้..คร่อกแล้วจ้า..(เหมือนใครก็ม่ายรู้..อิอิ)

สวัสดีค่ะ.คุณพนัสP  แผ่นดิน

ดีจังค่ะ..ได้บวชเณร..มิน่าลูกชายสุดหล่อเลยบวชตามรอยคุณพ่อน่ารักจังค่ะ..แอ๊วก็คิดว่าหลานชายโตซักหน่อย..ก็อยากจะให้บวชเณรเหมือนกันค่ะ..เป็นโอกาสอันดีของชีวิตค่ะ..อยากให้เค้าได้เรียนรู้วิถีของนักบวชน่าจะได้อะไรดีๆกับชีวิตของเค้าบ้าง

ดีใจค่ะ..ที่คุณพนัสแวะมาทักทายกัน.เห็นช่วงหลังๆดูคุณพนัสจะงานยุ่งมากๆ..ยังไงอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..

 

แอะแอ้..เห็นด้วยจ้า..ทุกศาสนาล้วนมุ่งหวังให้ทุกคนทำความดีและไม่เบียดเบียนกัน...ทุกศาสนาดีหมดในรูปแบบของตนเอง..

ดีนะ..ได้เรียนรู้หลักศาสนาในความหลากหลายก็มีความน่าสนใจคนละแบบ..

ขอบคุณมากจ้าที่มาแวะมาทักทาย..ขอนแก่นเป็นไงบ้างจ๊ะ..

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท