นกแอ่นกินรัง หน้าที่ 26 ตอนที่ 2


ควันหลงสงกรานต์ หน้าบานรับไซโคลน

บันทึกนกแอ่นกินรัง หน้าที่ 26 ตอนที่ 2

จากควันหลงสงกรานต์ ครั้งที่แล้ว กะว่าจะมาต่อด้วยสถิติการบินของนกอีแอ่นกับคู่เปรียบ กับข่าวการชนกันของมัน

ข่าวนั้นรอให้คนที่เคยนั่งชมนกบนท้องฟ้า เขียนกันเข้ามา มากขึ้นอีกหน่อยได้ไหม

แหม๋ครูเล็กก็  รออยู่ได้.. เท่าที่ผ่านมา...ก็รู้อยู่ว่า ทุกท่านเข้ามาเยี่ยมเยียนอย่างเงียบๆ เสมอเลย

ไม่เป็นไร รออีกหน่อย

วันนี้ขอเขียนถึงดอยลางก่อน

------------

จากงานแสดงกล้วยไม้สุดสวยที่เชียงใหม่ 1 พ.ค. ดีเดย์ คือดีจริงๆ ที่เชียงใหม่ฝนหยุดตก

ตัดสินใจไปดอยลางต่อ  ดอยลางอยู่ที่ไหน ก็โปรดหาในเว็ปเอาละกัน มีคนเขียนถึงมากกกก

"ดูนกดอยลาง" แผนถูกวางไว้ก่อนหน้าแล้ว 10 วัน

เจ้าไซโคลนนาร์กีส ดันมาซ้อนแผน

แต่ก็ตัดสินใจขึ้นดอยลาง

(ทั้งที่กรมอุ-ตุ-ฯประกาศเตือนว่า ไซโคลนจะเข้าพม่าเพื่อนบ้าน แถบเดียวกับที่เราจะไป ไม่ใช่ไม่เชื่อนะ แต่อยากลองดู อยากไปดอยลางมาก)

เป็นการดูนก ที่แฉะที่สุดในโลก ที่ไม่เคยดูแบบนี้มาก่อน

วันที่ 2 พ.ค. ฝนเว้นวรรคครึ่งวัน 2-3 ชม ให้ชื่นใจ เร็วรี่ออกไปดูนก โห แค่นั้นก็คุ้มแล้ว นกที่เห็น new recorded หมด เพิ่งวันแรกที่มาถึงเองอะเนี่ย กระหยิ่มอิ่มเอมใจ

ตกเย็นเท่านั้นแหละ สายฝนกระหน่ำลงมา

แต่เป็นสายฝนที่สุภาพมาก ไม่มีเสียงฟ้าฝ่าหรือคำราม ฝนเม็ดละเอียด  แม้อารมณ์จะแปรปรวนไปหน่อย ผันผวน 180 องศา มันโปรยเม็ดทุกทิศทาง  ไปมาสลับกัน หมอก+ไอน้ำ -+ฝนเม็ดละเอียด ปนเปกันไปหมด  แยกกันมาได้ไหม ป้าเล็กงง อารมณ์ไหนกันเนี่ย

เปียกกันไปถ้วนหน้า เหลือส่วนกลางของลำตัวเท่านั้นที่ปกป้องไว้ได้ มือและเท้าเย็นเฉียบ จนไม่มีอะไรจะหนาวไปกว่านี้ได้อีก..เวอร์ซะ  ก็ ประมาณ 15 องศา ไม่หนาวหรือเนี่ย 15 องศานะ ขณะที่ พิโลก เกือบ 40 องศามั้ง 

หนาวกระหน่ำ ละกัน

แต่อย่างที่บอก เป็นฝนสุภาพ ดูท่าแล้วเธอตั้งใจจะเทให้หมดสตอร์คไม่เว้นวรรค

ทั้งคืนหนาวเหน็บ  ดีว่า ท่านตชด.อุทิศกระท่อมว่างให้อาศัย แถมผ้าห่มส่วนตัวของพวกเขา (ที่บอกว่ากลิ่นลาเวนเดอร์) ไม่งั้น ครูเล็กตาย..ตายแบบhypothermia...

ลมพัดอื้ออึงทั้งคืน มันโยนกระท่อมจนไหว แต่นายแน่มาก (คนสร้างกระท่อม) กระท่อมแข็งแรง ถูกบุด้วยพลาสติคแน่นหนา ป้องกันลมหนาวที่โหดร้าย กระนั้นมันยังพิษใส่ด้วยความเย็นแผ่คลุมพื้นที่ดอยลางไว้ทั้งหมด ถุงเท้าทำหน้าที่สุดฤทธิ์ เราไม่รู้ว่าเท้าอุ่นขึ้นบ้างหรือเปล่า หรือตอนไหน จวบจนรุ่งสาง  

....ชีวิต ตชด.น่าเห็นใจจริงๆ พวกเขาดูแลพื้นที่ทั้งทางการเมืองและพื้นที่ป่า ท่ามกลางสภาพอากาศแบบนี้ เขาบอกว่า ซักผ้าไม่เคยแห้ง ...รัฐสร้างสถานที่ ให้พวกเขาสะดวกกว่านี้ได้ไหม เพิ่มสวัสดิการให้มากขึ้น แม้ว่าพวกเขาไม่เคยบ่นนะ มีแต่พูดปนยิ้มว่า อากาศดี อยู่แล้วสุขใจ.... 

เช้าวันที่ 3 พ.ค.ฝนชุดใหญ่ก็มาแบบเดียวกัน

สงสัยดอยลางเห็นว่าครูเล็กไม่เคยมา เลยแจกโปรโมชั่นสุดคุ้ม ...ฝนโปรยแบบไซโคลน+หมอกหนาแบบเหมันต์+ละอองไอแบบ..ในฉากHolly wood แต่สมจริง เพราะว่ามาจากพัดลมไอน้ำธรรมชาติขนาดยักษ์ ทำงาน 24 ชม. วิสัยทัศน์ เอย ทัศนวิสัยไม่เกิน 2 เมตร ถ้าท่านอยู่ท่ามกลางหมอกหนา

ทั้งสองวันไม่ต้องอาบน้ำ แต่สระผมด้วยน้ำแช่สมุนไพร(น้ำฝนผ่านฟางหลังคาจาก) อ้อ เคล็ดลับคือใส่  น้ำแข็งไปอีก 10 ก้อนใหญ่  เทราดผมแล้วขนลุกไปหมดทั้งตัว ศรีษะเย็นจนปวดตึบ มันฆ่าตัวตายหรือเปล่าเนี่ย  ที่สระผมง่ะ 

ตอนแรกนั่งจับเจ่า รอฝนหยุด แต่ก็ไม่มีแวว ชะเง้อออกไป ฉากโรแมนติคสุดขนาดนั้น นางเอกจะนั่งอยู่ในกระท่อมได้อย่างไร

ว่าแล้วก็คว้าร่ม กับกล้องส่องนกตัวเล็ก ...กางจ้องส่องนก เออ เก๋ไปอีกแบบ คนอื่นๆเขามีกล้องกันน้ำเข้า ไอ้กล้องเรามันกันน้ำออก และราขึ้นแล้วหลายดอก เพิ่มอีกซักสองดวงจะเป็นไรไป

เสียงนกแจ๋วๆ กลางละอองหมอก ถ้าไม่ออก  ไม่ได้เห็นนกแน่

เออ แฮะ ดอยลาง เป็นแหล่งดูนกชั้นเลิศจริงๆ 

ไต่ไม้ใหญ่ ไล่กันไปมาแบบไม่สนใจฟ้าฝน

อีแพรดอกเหลือง ก็ยังต้องเลี้ยงลูกอยู่ จับแมลงเล็กขาวดำก็ป้อนอาหารลูกวัยกระเตาะ 2-3 หน่อ คุณพ่อตัวจิ๋วน่ารักจริงๆ

เสียงบอกว่า กระรางแก้มแดงก็เลี้ยงลูกที่หุบข้างล่าง (เสียงบอกและพาไปดูจากกลุ่มคนดูนกชำนาญการพิเศษ--แปลว่า expert--..ดอยลางช่วงนั้น มีนักดูนก 2-3 กลุ่ม ดูนกเก่งๆ ทั้งนั้น ยกเว้นครูเล็ก  แต่ทั้งคนเก่งและไม่เก่ง ต้องชะตาฟ้าหัวเราะเดียวกัน)

อีแพรดและจับแมลงเล็กขาวดำ กับปรอดหงอนปากหนา Crested finchbill สามชนิดนี้ พวกลูกของมันยังไม่โตพอ ชนิดหางขนยังไม่ขึ้น พ่อแม่ก็เรียกให้ออกไปนอกรัง พาไปกินอาหารนอกบ้าน เกาะกิ่งไม้กินอาหารดีกว่านะลูก ลูกมันก็เกาะมั่ง ร่วงมั่ง ตื่นเต้นดี บินไปทางโน้น ทางนี้ พ่อแม่ก็ตามไปป้อน ลูกนกก็ขออาหาร เป็นการสอนบินไปในตัว

ไม่เหมือนนกอีแอ่นกินรัง ลูกเธอปักหลักอยู่แต่ในรัง ขนาดโตเป็นควาย เอ้ย..ปีกยาวเท่าพ่อแม่  หย่อนแค่ 1 ซ.ม.ก็ยังไม่ออกไปไหน ถ้าออกไป เพราะบังเอิญร่วงจากรัง พ่อแม่ทิ้งเลย เพราะมันตามไปป้อนไม่เป็น

(จึงขอย้ำว่า อย่าย้ายลูกนก เพื่อจะเก็บรัง จะเก็บรังออกก็ต้อง วางลูกมันในพื้นที่เดิมเปะ  แต่อย่าเก็บก่อนลูกบินออกเลยจะดีกว่า)

แต่พ่อแม่ของนกอีแอ่นขยันขันแข็งสุดๆ  ทำงานกกไข่และป้อนอาหารไม่ต่างกัน เหมือนปรอดหงอนปากหนาก็เลี้ยงลูกทั้งสองตัว ที่เราเห็นมันมีลูก 1 ตัวโตเท่าๆ พ่อแม่ ยกเว้นหงอนไม่สูงเท่า และใบหน้า"เด็ก"กว่า จัดว่าเป็นควายก็ยังให้พ่อแม่ป้อนเหมือนกัน 

ฮืม ชีวิตใคร ชีวิตมันจริงๆ..เรียกว่า life trait ...อย่าไปว่าลูกนกอีแอ่นเขาเลย ที่ยังเกาะขอบรังรอพ่อแม่ในรังอยู่ ก็เขาไม่สามารถเกาะคอนได้อย่างนกอื่นไง  พ่อแม่มันก็เกาะไม่ได้ มันจะชวนกันไปกินอาหารนอกบ้านได้อย่างไร 

-------

 ดอยลาง ท่ามกลางไซโคลนนาร์กีส สร้างความประทับใจไปอีกแบบ กลับมายังแข็งแรงดี ไม่ป่วยแฮะ แต่ขอเตือนว่า หน้าฝนในพื้นที่เสี่ยงภัย ไม่ควรออกไปนะคะ ครั้งนี้ถือว่ากล้าบ้าบิ่น

ถือว่า เราโชคดีมากๆ ที่ดอยลางเป็นเพียงหางฝน ไม่รุนแรงอย่างที่เป็นข่าวกับประเทศเพื่อบ้านเรา   วันที่ 4 พ.ค.ฟังข่าวของตชด.บอกเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันทุกจังหวัดในภาคเหนือไม่เว้นแม้แต่พิจิตร และชาวพม่าเสียชีวิตประมาณ 10 คน แต่วันที่ 5 พ.ค.CNN บอกว่าตายเหยียบมื่น และข่าวออนไลน์วันนี้ บอกว่าเสียชีวิตเกือบ 2.2 หมื่น หลายรายไร้ที่อยู่อาศัย ขาดแคลานน้ำและอาหาร น่าเห็นใจมาก

พิษไซโคลนนาร์กีส ร้ายกาจ แต่กับที่ดอยลาง นุ่มนวล และสวยงาม  แม้ว่ากล้องของฉันกำลังมีรางอกขึ้นมาก็เถอะ

-------------

ดอยลางในหน้าหนาว เขาบอกกันว่า เป็น the liveing eden ของนักดูนกก็ว่าได้

ธันวาคมนี้ ไม่พลาดแน่ วางแผนกันล่วงหน้าเดี๋ยวนี้เลย ครึ่งค่อนปี ไซโคลนหน้าไหนก็อย่ามาซ้อนแผนละ

ดอยลาง เป็นพื้นที่บริสุทธิ์อยู่ เริ่มเป็นที่นิยมของนักดูนก มาเมื่อประมาณ 5-6 ปีมานี้

มีคนเข้ามามาก ก็มีขยะมากขึ้น ดูหลักฐานได้จากเศษซองขนมขบเคี้ยว บะหมี่แห้ง กระป๋อง ขวดเหล้าขาว..(น้ำเหล้าน่ะขาว แต่ขวดสีน้ำตาล) และ....หลุมขยะข้างค่าย ตชด.ก็ใหญ่เอาการอยู่

จึงมีคนทำดี ทำป้ายบอกไว้ "อย่าทิ้งขยะไว้บนดอย" เช่นเดียวกับช่องเย็น ที่บอกว่า "รักแม่วงศ์ เอาขยะกลับบ้านด้วย"

ป้ายเหล่านี้  เราชอบมาก

ไปป่าทุกครั้ง เราจะช่วยเก็บขยะแห้งกลางป่าออกมาบ้าง เท่าที่สามารถ และขยะสดย่อยได้ จะถูกโยนออกไปไกลๆในป่า หวังว่า หนึ่งเดือนให้หลัง มันจะถูกย่อยสลายไปหมด

แต่ที่นี่...ไม่เกินสองคืน  เปลือกมะละกอหายแผล็บในพริบตา ..เป็นผลงานของสัตว์ฟันแทะแน่ๆเลย..แบ่งปันกันกินเนอะ   ไม่มีอะไรเสียเปล่า

บิ๊กสุ(สุนัข) ที่นี่  กินทุกอย่าง ขนมที่มันไม่รู้จัก กินหมดแม้แต่ใบมะกรูดกับมะเขือเทศจากน้ำต้มยำปลากระป๋อง เยี่ยม น่ารักและถ่อมตน เป็นนักเก็บกวาดที่ดี

เราอยากให้ มีการจัดการทำหลุมแยกขยะเปียก ขยะแห้ง และเชิญชวนให้ลดขยะแห้งย่อยสลายยาก เพราะว่า

แม้คุณจะเก็บขยะลงมาจากดอย มันก็มาสะสมไว้ที่ชุมชนคนเมืองอยู่ดี ขยะนั้นไม่หายไปไหนเร็วเท่ากับเปลือกมะละกอบนดอยลาง หรอกนะ

ดูเหมือนว่า "ขยะ คือสิ่งของที่คนไม่ใช้ และเปลี่ยนที่อยู่ได้รายวัน ไม่สูญหายไปจากโลก"

------------------------

อีกเรื่องหนึ่งคือ ห้องสุขาควรมีการใช้ EM

เพราะว่าห้องสุขาแทบทุกที่ มีกลิ่นฉาวโฉ่ ประกาศแต่ไกลว่า ฉันอยู่ทางนี้ 

เรายินดีจ่ายเงินเป็นค่าบริการ สำหรับซื้อเชื้อ EM มาใช้ 

จริงๆนะ

แม้แต่ค่าน้ำมันเครื่องปั้มน้ำใช้  ก็อยากจะร่วมออกเงินด้วย  

เราจึงอยากให้มีคนกลางจัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรม ไม่ใช่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวอย่างเดิมๆ

(คือเก็บเงินค่าเข้าไม่กี่สิบบาท...พาลูกทัวร์ขึ้นมาเที่ยว แล้วทิ้งขยะไว้ เหยียบย่ำไม้พื้นล่าง ลูกทัวร์แอบทิ้งขยะเปลือกลูกอมไว้กลางป่า  ทั้งที่อาจไม่ตั้งใจ แต่ทำไมมันมีเกลื่อนอยู่เหมือนกัน...อะไรประมาณนี้ ไม่เอา)

แต่ให้เป็น ecotour คือคนในพื้นที่รวมกับตชด.ดูแลรักษาพื้นที่และคนมาเที่ยวก็พยายามรักษาความบริสุทธิ์ของมันไว้สุดฤทธิ์

เงินที่คนทำทัวร์ได้ ต้องจ่ายภาษีไว้ให้คนในพื้นที่บ้าง เขาจะได้จัดการสร้างหลุมทิ้งขยะสดและใช้ EM กับส้วม ขยะแห้งให้ทัวร์เอากลับ

คนในพื้นที่เป็นผู้กำหนดว่า ทัวร์คณะไหนขึ้นมาแล้วทิ้งขยะมาก ไม่ต้องให้ขึ้นมาอีก เป็น blacklist ไปเลย และกำหนดว่าจะรับนักท่องเที่ยวได้กี่คน คนคำนวณอาจเป็นนักวิชาการ

คนเที่ยวต้องจ่ายภาษีลงชุมชนอย่างภูฐานน่ะ

ชาวบ้านได้รับเงินส่วนแบ่งจากค่าเข้าสถานที่  เพื่อเอามาเป็นสวัสดิการอะไรก็ได้ ค่ารักษายามเจ็บป่วย ค่าสาธารณูประโภคของพวกเขา ค่าปลูกผักที่ลดสารเคมี...ปลูกฝิ่นให้ชมดอกฝิ่น  ที่ไม่แอบกรีดยางฝิ่น ..!...แล้วต้องมีสัญญาใจกันว่าจะดูแลสถานที่ให้บริสุทธิ์ ไม่ล่าสัตว์ ไม่ค้ายาเสพติด 

ideal เกินไปหรือเปล่าไม่รู้ แต่ฝันว่า ทุกสถานที่ที่ดูนก อยากให้เป็นอย่างนี้

คนเลี้ยงนกอีแอ่น เห็นด้วยหรือเปล่า? กด1 ถ้าชอบ กด 2 ถ้าไม่ชอบ กด 3 ถ้าไม่สน แล้วก็ไม่ต้องส่งไปที่ใด

ครูเล็ก

ปล. คราวหน้า ไม่พลาดแน่  กับข่าวการชนกันของอีแอ่นกลางอากาศ

  

 

คำสำคัญ (Tags): #นกแอ่นกินรัง
หมายเลขบันทึก: 181112เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2008 17:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท