1.รำคาญไหมครับเวลาดูโทรทัศน์ที่มีการสอบถาม ความเห็นเรื่องการแก้ไขปัญหาสังคมต่างๆ กับ เช่น ปัญหายาเสพติด, ปัญหาโลกร้อน, ปัญหาน้ำมัน, ปัญหาราคาสินค้า, ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ ฯลฯ
รู้สึกเสียเวลาไหมครับที่ผู้ที่ตอบให้ความเห็นซึ่งมีตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง, ดารา นักแสดง นักร้อง, พิธีกร ตอบคำถามแต่ละประเด็นด้วยรูปแบบเดียวกันหมด ซ้ำๆ ซากๆ ตลอดกาล
แก้ปัญหายาเสพติด...เล่นดนตรี, เล่นกีฬา
แก้ปัญหาโลกร้อน...ใช้ถุงผ้า, ปิดแอร์, ถอดปลั๊ก
แก้ปัญหาน้ำมัน...ใช้แกซโซฮอล์
แก้ปัญหาราคาสินค้า....รู้จักประหยัด, กินไก่แทนหมู
แก้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้...สมานฉันท์ รักกันไว้
แก้ปัญหาเด็กตีกัน....จับไปเข้าค่ายทหาร
แก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ....ควบคุมสื่อ(ลามก)
2. รายการประเภท อินไซด์บันเทิง ที่เอาเรื่องส่วนตัวของดารา มา อัพเดท ให้แฟนตามติดกันเป็นประจำนั้น แต่เดิมก็มีแค่ช่วงหลังข่าวภาคค่ำ ปัจจุบันนี้...สังเกตไหมครับว่ารายการประเภทนี้มีแทบทุกชั่วโมง และแทบทุกช่อง
3.สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว รายการประเภทนี้ที่มักจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องบนเดียงของดารา, เรื่องความหมกมุ่นของสรีระร่างกายว่าอ้วนเกินไป ผอมเกินไป, เรื่องดารากับหมอดู, เรื่องแย่งผัวแย่งเมีย ประเด็นที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมทั้งหลาย แต่รายการประเภทนี้จะได้รับการติดเรตประเภท "เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย"
4.เจ้ากระทรวงต่างๆ จะต้องมาออกโทรทัศน์เพื่อรณรงค์เรื่องต่างๆ ด้วยตัวเองเสมอ....เข้าใจว่ามีเจตนาเพื่อให้คนเห็นหน้าบ่อยๆ มากกว่าที่จะ "ส่งสารรณรงค์" อย่างจริงๆ จังๆ (เมื่อครั้งสงกรานต์ ไม่รู้มีใครสังเกตบ้างหรือเปล่าว่า เจ้ากระทรวงวิทยาศาสตร์ เข้าฉากแบบเท่ห์ ด้วยการขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเพื่อรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัย....แต่อนิจจา ท่านไม่ได้ดูเลยว่า ท่านจอดมอเตอร์ไซค์ของท่านบริเวณถนนที่ทาสีสัญญาณขาวแดง ห้ามจอด...น่าฮาตรงที่ท่านทำผิดกฎจราจร-กฎแห่งความปลอดภัย ตั้งแต่ก่อนเริ่มส่งสารเรื่องการขับขี่อย่างปลอดภัย)
5.โฆษณาร้อยละแปดสิบทำเพื่อส่งสารให้คนที่อยู่ในอำเภอเมือง, โฆษณาที่เจาะจงสำหรับคนอำเภออื่นที่ไม่ใช่อำเภอเมือง คือ โฆษณาในรายการศึกมวยไทย
6.มีประเด็นเรื่องเพศแอบแฝงอยู่ในโฆษณาเสมอ แม้จะเป็นโฆษณาน้ำมันเครื่อง, แป้งเด็ก หรือโฆษณาชุดนักเรียนก็ตาม
7.หากดูจากความถี่ในการโฆษณาเครื่องสำอางค์ต่างๆ รวมทุกประเภทแล้ว...อาจทำให้เราสรุปได้ว่า คนไทย "สำอางค์" ที่สุดในโลก
8.เครื่องสำอางค์สำหรับผู้ชายบิดเบือน "ความสำอางค์" (ดูไม่แมน) ด้วยการใช้คำว่า "การดูแลตัวเองให้ดีอยู่เสมอ"(ดูเป็นคนรับผิดชอบ)
9.นักแสดงตลก ใช้โอกาสแสดงโลกทัศน์ในการชี้นำสังคมผ่านรายการต่างๆ อย่างมากมาย...มากว่านักการเมือง และทิ้งห่างนักคิดและนักวิชาการอย่างไม่เห็นฝุ่น
10.ในโฆษณาน้ำยาบ้วนปาก เรามีคนแต่งตัวคล้ายๆ หมอฟัน แต่ไม่กล้าบอกคนอื่นว่าเป็นหมอหรือเปล่าเราเรียกเขาว่า "ผู้เชี่ยวชาญทางทันตกรรม"
สวัสดีค่ะอ.หมอสุธี
แหะๆ ตอบข้อหนึ่งก่อนเลยนะคะ คือว่ารำคาญค่ะ เห็นตรงกับคุณหมอค่ะ สุดท้ายก็..เลิกดูค่ะ ฮา..
ก็ไม่น่าแปลกใจที่คนส่วนใหญ่ในประเทศมีพฤติกรรมที่ตัวเองคิดว่า"แปลก" และไม่มีตรรกะ แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เวลาสอนเด็กแล้วเขาคิดว่าเรา"โบ(ราณ)" และประหลาดค่ะ ก็เขาดูทีวีมาตลอด ถูกปลูกฝังแบบนี้มานาน มันจะเหลืออะไร.. สมัยตอนรุ่นตัวเองโตขึ้นมา รายการทีวียังไม่แย่ขนาดนี้นะคะ แล้วก็ไม่ได้ดูอะไรมากมายด้วย มาดูเยอะตอนมาเรียนหนังสือที่เมืองนอกเสียมากกว่า แต่จะว่าไปรายการฝรั่งเน่าๆ ก็มีเยอะค่ะ เพียงแต่เราเลือกดูที่ดีๆ ก็มี.. แต่ของบ้านเราเนี่ย option น้อยค่ะ มีแต่รายการแย่ๆ ซ้ำๆ กันเต็มไปหมด เหมือนมาบ่นๆ เลยค่ะ ขออภัยนะคะ ^ ^
สวัสดีค่ะพี่สุธี
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดีใจจัง คิดถึงจังเรยยยยยยยยยย สบายดีนะคะ กลับมาหรือยัง เขียนบทความให้ทันตภูธรบ้างหรือเปล่าคะ พี่แมวสบายดีไหม ลูกพี่สุธีโตแค่ไหนแล้ว
คิดถึงค่ะ
ขอบพระคุณ อ.กมลวัลย์ครับ
จริงๆ แล้วรายการดีๆ ก็ยังมีอยู่อีกมากนะครับ
แต่เผอิญมันไปอยู่ในช่วงเวลาที่เราไม่มีโอกาสได้ดู เช่น ตีห้า หรือบ่ายสองโมง
แต่ดูแล้วทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ยังพอเป็นทางเลือกให้กับคนที่รำคาญรายการในฟรีทีวีทั่วๆ ไปนะครับ
สวัสดีครับน้องอ๋อ
ยินดีที่ได้เจอกันอีก
เวทีนี้เอื้อให้เกิดปฏิสัมพันธ์กันได้มากขึ้นนะ
แล้วจะแวะไปเยี่ยมที่ blog อ๋อนะจ๊ะ