inter law
วิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บทที่ 8 กฎหมายระหว่างประเทศ

อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงศุล ข้อ 51-60


อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงศุล

อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล

ข้อ 51
กองมรดกของสมาชิกในสถานทำการทางกงสุล
หรือของสมาชิกในครอบครัวของบุคคลดังกล่าว

            ในกรณีที่สมาชิกในสถานทำการทางกงสุลหรือสมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคล

ดังกล่าวตายรัฐผู้รับ

            (จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้ตาย ยกเว้นทรัพย์สินเช่นว่าใดที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้นต้องห้ามส่งออกในเวลาที่บุคคลดังกล่าวตาย
            (จะไม่เรียกเก็บภาษีมรดกและค่าธรรมเนียมการโอนของชาติท้องถิ่น หรือเทศบาลจากสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ใน

รัฐผู้รับเพียงเพราะการที่ผู้ตายอยู่ในรัฐนั้นในฐานะสมาชิกในสถานทำการทางกงสุล หรือในฐานะสมาชิกในครอบครัวของสมาชิกในสถานทำการทางกงสุล

                   

ข้อ 52
การยกเว้นจากการให้บริการและให้ส่วนบำรุงส่วนบุคคล

            รัฐผู้รับจะยกเว้นให้กับสมาชิกในสถานทำการทางกงสุลและสมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จากการให้บริการส่วนบุคคลทั้งปวง จากการให้บริการสาธารณะทั้งปวงไม่ว่าชนิดใดก็ตามและจากพันธะทางทหาร เช่น พันธะที่เกี่ยวกับการเรียกเกณฑ์ ส่วนบำรุงและการเรียกเอาที่อยู่เพื่อการทหาร

ข้อ 53
 การเริ่มต้นและการสิ้นสุดของเอกสิทธิและความคุ้มกันทางกงสุล

            1. สมาชิกในสถานทำการทางกงสุลทุกคนจะอุปโภคเอกสิทธิและความคุ้มกันที่ได้บัญญัติไว้ในอนุสัญญานี้ ตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาในอาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางมารับตำแหน่ง หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้วตั้งแต่บุคคลนั้นปฏิบัติหน้าที่กับสถานทำการทางกงสุล

            2. สมาชิกในครอบครัวของสมาชิกในสถานทำการทางกงสุลซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลดังกล่าวและสมาชิกในคณะคนรับใช้ส่วนตัวของสมาชิกในสถานทำการทางกงสุล จะได้เอกสิทธิและความคุ้มกันที่บัญญัติไว้ในอนุสัญญานี้ ตั้งแต่วันที่สมาชิกในสถานทำการทางกงสุลนั้นได้อุปโภคเอกสิทธิและความคุ้มกันตามวรรค 1 ของข้อนี้ 

หรือตั้งแต่วันที่เข้ามาในอาณาเขตของรัฐผู้รับหรือตั้งแต่วันที่เข้าเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือสมาชิกในคณะคนรับใช้ส่วนตัวเช่นว่านั้น แล้วแต่ว่าวันไหนจะหลังที่สุด
            3. เมื่อหน้าที่ของสมาชิกในสถานทำการทางกงสุลสิ้นสุดลง เอกสิทธิและความคุ้มกันของบุคคลดังกล่าว และของสมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว หรือของสมาชิกในคณะคนรับใช้ส่วนตัวของบุคคลดังกล่าว ตามปกติจะสิ้นสุดลงขณะที่บุคคลที่เกี่ยวข้องออกไปจากรัฐผู้รับ หรือเมื่อสิ้นระยะเวลาอันสมเหตุผลที่จะกระทำเช่นนั้น แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะถึงก่อนแต่จะยังมีเอกสิทธิและความคุ้มกันอยู่จนถึงเวลานั้นแม้ในกรณีที่มีการขัดกันด้วยอาวุธในกรณีของบุคคลที่อ้างถึงในวรรค 2 ของข้อนี้ เอกสิทธิและความคุ้มกันของบุคคลดังกล่าวจะสิ้นสุดลงเมื่อบุคคลดังกล่าวยุติการเป็นส่วนของครัวเรือนหรือการรับใช้สมาชิกในสถานทำการทางกงสุล อย่างไรก็ดี หากบุคคลเช่นว่านั้นเจตนาจะออกจากรัฐผู้รับภายในระยะเวลาอันสมเหตุผลหลังจากนั้น เอกสิทธิและความคุ้มกันของบุคคลดังกล่าวจะมีอยู่จนถึงเวลาที่บุคคลนั้นเดินทางออกไป
            4. อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำโดยเจ้าพนักงานกงสุลหรือลูกจ้างทางกงสุลในการปฏิบัติหน้าที่นั้น ความคุ้มกันจากเขตอำนาจจะคงมีอยู่โดยไม่มีข้อจำกัดเวลา
            5. ในกรณีสมาชิกในสถานทำการทางกงสุลตาย สมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลดังกล่าวจะคงได้อุปโภคเอกสิทธิและความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้ต่อไปจนกว่าบุคคลนั้นจะออกจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะ
  สิ้นระยะเวลาอันสมเหตุผลที่จะสามารถกระทำเช่นนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะถึงก่อน

ข้อ 54
พันธะของรัฐที่สาม

            1. ขณะที่ไปรับ หรือกลับเข้ารับตำแหน่งของตน หรือกลับไปยังรัฐผู้ส่งถ้าเจ้าพนักงานกงสุลผ่านหรืออยู่ในอาณาเขตของรัฐที่สามซึ่งได้ให้การตรวจลงตราหากการตรวจลงตรานั้นจำเป็น รัฐที่สามจะประสาทความคุ้มกันทั้งปวงที่ได้บัญญัติไว้ในข้ออื่นของอนุสัญญานี้ตามที่จำเป็นให้แก่บุคคลดังกล่าวเพื่อประกันการผ่านหรือการกลับของเจ้าพนักงานกงสุล การปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้จะใช้กับกรณีของสมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลดังกล่าวที่อุปโภคเอกสิทธิและความคุ้มกันเช่นว่านั้นซึ่งติดตามเจ้าพนักงานกงสุล หรือแยกเดินทางเพื่อสมทบกับเจ้าพนักงานกงสุลหรือเพื่อกลับไปยังรัฐผู้ส่ง
            2. ในพฤติการณ์ทำนองเดียวกับที่ระบุไว้ในวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐที่สามจะไม่ก่ออุปสรรคในการที่สมาชิกในสถานทำการทางกงสุลอื่น หรือสมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลดังกล่าวผ่านอาณาเขตของตน
            3. รัฐที่สามจะประสาทเสรีภาพและความคุ้มครองเช่นเดียวกับที่รัฐผู้รับจะต้องประสาทให้ตามอนุสัญญานี้

แก่หนังสือติดต่อทางราชการ และการสื่อสารทางราชการอย่างอื่นที่ผ่านแดน รวมทั้งข้อความที่เป็นรหัสและกุญแจรหัส 

รัฐที่สามจะประสาทความละเมิดมิได้และความคุ้มครองเช่นเดียวกับที่รัฐผู้รับจะต้องประสาทให้ตามอนุสัญญานี้ แก่ผู้ถือสารทางกงสุลซึ่งได้รับการตรวจลงตรา หากการตรวจลงตรานั้นจำเป็น และแก่ถุงทางกงสุลที่ผ่านแดน
            4. พันธะของรัฐที่สามตามวรรค 1 2 และ 3 ของข้อนี้ จะใช้กับบุคคลที่ได้ระบุไว้ตามลำดับในวรรคเหล่านั้น และการสื่อสารทางราชการ และถุงทางกงสุลซึ่งอยู่ในอาณาเขตของรัฐที่สามเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

 

ข้อ 55
การเคารพกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ

            1. โดนไม่เป็นการเสื่อมเสียต่อเอกสิทธิและความคุ้นกัน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งปวงที่อุปโภคเอกสิทธิและความคุ้มกันเช่นว่านั้นที่จะเคารพกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ที่จะไม่แทรกแซงในกิจการภายในของ

รัฐนั้นด้วย
            2. สถานที่ทางกงสุลจะต้องไม่ใช้ในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล

            3.บทบัญญัติของวรรค 2 ของข้อนี้ จะไม่ตัดความเป็นไปได้ที่สำนักงานของสถาบันหรือของตัวแทนอื่นจะมาตั้งอยู่ในบางส่วนของอาคารซึ่งสถานที่ทางกงสุลตั้งอยู่ โดยมีเงื่อนไขว่า สถานที่ที่กำหนดให้แก่สำนักงานเช่นนั้นแยกต่างหากจากสถานที่ที่สถานทำการทางกงสุลใช้อยู่ ในกรณีนั้น สำนักงานดังกล่าวไม่ถือว่าประกอบเป็นส่วนของสถานที่ทางกงสุลตามความมุ่งประสงค์ของอนุสัญญานี้

 

ข้อ 56
การประกันภัยต่อความเสี่ยงของบุคคลที่สาม

            สมาชิกในสถานทำการทางกงสุลจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดใดที่กฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับได้บังคับไว้

ในส่วนที่เกี่ยวกับการประกันภัยต่อความเสี่ยงของบุคคลที่สามอันเนื่องมาจากการใช้ยานพาหนะ เรือ หรือเครื่องบิน

ข้อ 57
บทบัญญัติพิเศษเกี่ยวกับอาชีพส่วนตัวอันมีรายได้

            1. เจ้าพนักงานกงสุลอาชีพจะต้องไม่ประกอบกิจกรรมทางวิชาชีพหรือทางพาณิชย์ในรัฐผู้รับเพื่อผลกำไรส่วนตัว
            2. เอกสิทธิและความคุ้มกันที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้ จะไม่ประสาทให้
            (แก่ลูกจ้างทางกงสุล หรือสมาชิกในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการซึ่งประกอบอาชีพส่วนตัวอันมีรายได้ในรัฐผู้รับ
            (แก่สมาชิกในครอบครัวของบุคคลที่อ้างถึงในอนุวรรค (ของวรรคนี้ หรือแก่สมาชิกในคณะคนรับใช้ส่วนตัวของบุคคลดังกล่าว
            (แก่สมาชิกในครอบครัวของสมาชิกในสถานทำการทางกงสุลซึ่งประกอบอาชีพส่วนตัวด้วยตนเองอันมีรายได้ในรัฐผู้รับ

หมวด 3
กฎข้อบังคับเกี่ยวกับเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์และสถานทำการทางกงสุล
ที่มีหัวหน้าเป็นเจ้าพนักงานเช่นว่านั้น

ข้อ 58
บทบัญญัติทั่วไปเกี่ยวกับความสะดวก เอกสิทธิและความคุ้มกัน

            1. ข้อ 28 29 30 34 35 36 37 38 และ 39 วรรค 3 ของข้อ 54 และวรรค 2 และ 3 ของข้อ 55 จะใช้กับสถานทำการทางกงสุลที่มีหัวหน้าเป็นเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ นอกจากนี้ความสะดวก เอกสิทธิและความคุ้มกันของสถานทำการทางกงสุลเช่นว่านั้นจะอยู่ภายใต้บังคับของข้อ 59 60 61 และ 62
            2. ข้อ 42 และ 43 วรรค 3 ของข้อ 44 ข้อ 45 และ 53 และวรรค 1 ของข้อ 55 จะใช้กับเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ นอกจากนี้ ความสะดวกเอกสิทธิ และความคุ้มกันของเจ้าพนักงานกงสุลเช่นว่านั้นจะอยู่ภายใต้บังคับของ

ข้อ 63 64 65 66 และ 67
            3. เอกสิทธิและความคุ้มกันที่บัญญัติไว้ในอนุสัญญานี้จะไม่ประสาทให้แก่สมาชิกในครอบครัวของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ หรือของลูกจ้างทางกงสุลที่ถูกว่าจ้าง  สถานทำการทางกงสุลที่มีหัวหน้าเป็นเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์
            4. การแลกเปลี่ยนถุงทางกงสุลระหว่างสถานทำการทางกงสุลสองแห่งที่มีหัวหน้าเป็นเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ในต่างรัฐ จะกระทำมิได้โดยปราศจากความยินยอมจากรัฐผู้รับทั้งสองรัฐที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 59
การคุ้มครองสถานที่ทางกงสุล

            รัฐผู้รับจะดำเนินการที่อาจจำเป็นเพื่อคุ้มครองสถานที่ทางกงสุลของสถานทำการทางกงสุลที่มีหัวหน้าเป็น

เจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์จากการบุกรุกหรือความเสียหายใด และเพื่อป้องกันการรบกวนใดต่อความสงบของสถานทำการทางกงสุล หรือการทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรีของสถานทำการทางกงสุล

ข้อ 60
การยกเว้นจากการเก็บภาษีของสถานที่ทางกงสุล

            1. สถานที่ทางกงสุลของสถานทำการทางกงสุลที่มีหัวหน้าเป็นเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ ซึ่งรัฐผู้ส่งเป็นเจ้าของหรือผู้เช่า จะได้รับยกเว้นจากภาษีอากรทั้งปวงของชาติ ท้องถิ่น หรือเทศบาลนอกจากที่เป็นการชำระค่าบริการที่ได้ให้โดยเฉพาะ
            2. การยกเว้นจากการเก็บภาษีที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้จะไม่นำมาใช้กับภาษีอากรเช่นว่านั้น หากผู้ที่ได้ทำสัญญากับรัฐผู้ส่งจะต้องชำระภาษีอากรนั้นตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ

หมายเลขบันทึก: 179552เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2008 19:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 16:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท