ยุคข้าวยาก น้ำมันแพง
ไปตลาดในจังหวัดขอนแก่น เขาเรียกตลาด อ.จิระ อยู่ตรงข้าม บ.ข.ส รถแดง ทั้งคนซื้อคนขาย คนจ่ายตลาด จับกลุ่มคุยกันเต็มไปหมดถึงเรื่องข้าวของแพง บางรายพยายาม อธิบายว่ามาจากน้ำมัน บางรายว่าข้าวแพงคนเดือดร้อนกันไปหมด ส่งผลต่อสินค้าทุกชนิขึ้นราคากันอย่างไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน บางคนบอกว่าอย่างนี้คนจนจะอยู่อย่างไร มีรายหนึ่งบอกว่าสมน้ำหน้าอยากเลือกพวกซื้อเสียงเข้าไป ไม่เห็นทำอะไรได้เลย พ่อค้าขายของชำ รายนึงบอกอย่างหัวเสียว่า "กูว่าเป็นอย่างนี้มีปฏิวัติแน่นอนเลย" ป้าขายเสือ้ผ้าในตลาดบอกว่า คนเดือดร้อนจะตาย... มากัดกันเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ พ่อค้าขายปาท่องโก๋ บอกว่า ไอ้พวกนักการเมืองมันจะไปเดือดร้อนอะไรละเห็นเปิดเผยรายรับรายจ่ายรายได้ .....มีเงินกันเป็น 5 ล้าน 10 ล้าน บางคนไม่รู้มันทำมาหากินอะไร.....มีปาไปถึงร้อยล้าน พันล้าน มันไม่มาเดือนร้อนกับเราหรอก เจ๊ขายกาแฟบอกว่าที่นายกฯบอกให้กินข้าวแต่น้อยๆ เรามันคนหาข้าวกินค่ำ คนใช้แรงงาน จะมากินข้าวเท่าแมวดมมันจะทำงานไหวหรือ พี่ขายปลาทูบอกว่า ก็ตอนหมูแพงนายกบอกไม่ต้องกินหมู่ให้มากินไก่แทนซี่ บางคนบ่นว่าไม่หาทางออกแล้วยังมาพูดแบบขอไปที่อีก ฟังแล้วไม่กินกับปัญญาเลย น้องชายที่ขายน้ำกะทิ บอกว่า"เนี่ยข้าวยาก น้ำมันแพงมีผลกับหมาแมว มันเอามาปล่อยกันเต็มตลาดเลย มาปล่อยทุกวัน เพราะข้าวแพงแท้ๆ"ผมนำเสียงของประชาชนคนรากหญามาถ่ายทอดให้ทุกท่านฟัง ผมก็เดือนร้อนเช่นเขาเหล่านี้ และดูรัฐบาลนอมินี ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นอยู่อย่างนี้ได้เลย ประชาชนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า แต่รัฐบาลสนใจเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ปกป้องคนของตัวเอง วางแผนกันแก้ปัญหาให้นายใหญ่ วุ่นวายกันไปหมด เรื่องข้าวสารแพง คนเดือดร้อน รัฐบาลน่าจะรีบหาทางออก กับเรื่องนี้ หามาตราการที่ชัดเจนตึงราคา หรือทำอะไรสักอย่าง อย่างอ้างว่าชาวนาได้ประโยชน์ หากเปรียบเทียบราคาข้าวที่ชาวนาได้ กับพ่อค้านายทุนได้มันต่างกันเป็น 100 เท่า เพราะที่ผ่านมาในหลายจังหวัดชาวนาเป็นเพียงแรงงานรับจ้างบนที่ดินที่นายทุนเป็นเจ้าของ และอีกไม่นานผู้ที่มีการศึกษาที่มาจากครอบครัวชาวนาก็จะไม่ทำนา จะหาจ้างคนทำนา การถ่ายทอดภูมิปัญญาที่ขาดตอนจะเกิดขึ้น วิกฤติข้าวก็คงจะรุนแรงขึ้นๆในอนาคตเป็นแน่
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น