lบ้านเกิด เมืองนอน


สังคมบ้านเกิด กับค่านิยมที่เปลี่ยนแปลง

ไม่ได้อยู่ทำกิจกรรม "วันปี๋ใหม่" ที่บ้านเกิดหลายปี เนื่องจากเป็นคนสองวัฒนธรรม "วัฒนธรรมเรา (ไต)บวกกับวัฒนธรรมเขา(ล้านนา)"  ส่วนใหญ่พอถึงวันปีใหม่เมืองต้องไปร่วมกับวัฒนธรรมของเขา เพราะวิถีชีวิตของล้านนา ลูกหลานต้องกลับบ้านโดยพร้อมหน้าไม่เว้นแม้แต่ลูกสะไภ้ ลูกเขย หลาน เหลน โหลน เราอยู่ในสถานะหนึ่งในนั้นจึงต้องตกกระไดพลอยโจน ทั้งๆที่รู้ว่า วันๆหนึ่งไม่ต้องทำอะไรมีแต่กินกับกิน ลาบ หลู้ ส้า ..ส้า หลู้ลาบ หมุนวนอยู่อย่างนี้ ทำให้บางมือเราต้องกินข้าวเปล่า ข้าวคลุกนำมัน ประกาศให้ทราบช่วงปีใหม่คนเมืองลืมนำพริกครับ กว่าจะปรับตัวได้ต้องใช้เวลาหลายปี เพราะพฤติกรรมการกินของคนไตและคนเมืองผิดแผกแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คนไตกินผัก คนเมืองกินเนื้อ (ต้องเป็นเนื้อประเภทเขายาวด้วยนะ)ช่วงหลังจึงหางานทำแก้เหงา ตำนำพริกถั่วเน่าไปทำนำพริกคั่ว และยำส้มมะขามใส่ยอดมะตูมให้ญาติคนเมืองกิน ปรากฏว่าชอบมากโดยเฉพาะลูกหลาน นอกจากนี้ก็ยังเอาผ้าป่าไปทอดถวายที่วัดใกล้บ้านด้วย ได้บุญอีกต่างหาก (ได้บุญหรือบาปก็ไม่ทราบ เพราะญาติๆก็ขอเหล้าเรากินอีก) ต้องซื้อเหล้าซื้อเบียร์เลี้ยงผู้คนที่มาช่วยผ้าป่า (จำเป็นต้องตัดใจ เพราะรู้ว่าเป็นฮีตของเขา) ทำไงได้ละครับอยากรักลูกสาวหลานสาวเขานี่นา อิอิ

หลังขึ้นวัด ก็ไปดำหัวญาติผู้ใหญ่ และพ่อแม่ของเรา (พ่อตา แม่ยาย)จะเรียกว่าพ่อแม่ของเขาก็ไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะโกรธเอา ยิ่งกว่านั้น "กลัวถูกยึดคืน" อุตส่าห์เสียค่าผีมาแล้วตั้ง 12 บาทแน่ะ ให้มีความรู้สึกว่า สัมพันธภาพของญาติพี่น้องทางล้านนามีความกระชับสัมพันธ์ที่ดีมาก ดีกว่าชาวไต ตรงนี้ประทับใจมากเห็นความแตกต่างได้ชัด คนไตถ้าสัมพันธภาพในครอบครัวไม่แน่นแฟ้นจริงๆ ขาดพ่อขาดแม่เมื่อไหร่เปิดศึกกันทันที (แย่งสมบัติ) ไม่ได้กล่าวหา ส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลายครอบครัวต้องขาดพี่ขาดน้องกันเพราะเหตุและปัจจัยเพียงตัวเดียว ภาษาธรรมะเรียกว่า กามตัณหาแปลว่า ความอยากมีอยากได้ (ไม่ได้หมายถึงเพศนะครับ)

ปีนี้ได้อยู่บ้านเกิด เพราะเขาไม่ชวนเราไป (คงเห็นว่าไปเมื่อไรก็เป็นตัวแปลกประหลาด กินก็ไม่เหมือนเขา คิดก็ไม่เหมือนใคร ให้ไปเล่นนำกลับนอน พอให้นอนกลับนั่งเขียนหนังสือ) ประจวบกับมีภาระกิจต้องดูแลเยาวชนที่ถูกลงโทษตามมาตร 63 จากสถานพินิจฯในฐานะกรรมการสงเคราะห์ เพื่อให้ทำความดีไถ่ความผิด 20 ชั่วโมง (เท่ากับ 5 วัน) จึงนำเด็กไปฝากไว้กับท่านสารวัตรจราจรให้ช่วยแจกเอกสารเมาไม่ขับ คอยดูแลคนเล่นนำสงกรานต์ จากคนสร้างปัญหา กลับมาเป็นคนควบคุมปัญหา

เท่าที่สังเกต เยาวชนบ้านเรา (แม่ฮ่องสอนบ้านป่า) ดูเปลี่ยนไปมาก ชอบเลียนแบบเยาวชนตามเมืองใหญ่ ขับขี่จักรยานยนต์เป็นคู่ๆ แล่นไปแล่นมาที่ละ4-5คัน ประกบหน้าประกบหลังในเชิง "ประมาทเลินเล่อ" ซึ่งเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ ดูท่าทางน่าจะมีการดื่มแอลกอฮอร์ด้วย ตำรวจจับปรับทุกวันก็ไม่เข็ดขยาด ตัวผมเองก็ประกาศเตือนทางสถานีวิทยุอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พ่อ แม่ พี่ น้อง ทั้งหลาย (เริ่มฟ้องแล้ว) เห็นท่า เราคงจะทวนกระแสความเปลี่ยนแปลง และค่านิยมที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ได้เสียแล้ว เหนื่อยครับ....เหนื่อยใจ ...เหนื่อยกาย แต่ยังไม่ถึงกับเหนื่อยหน่ายหรอกนะครับถ้าหากมิตรแท้จาก gotoknow ช่วยกันเสนอแนะเข้ามา ช่วยหาทางแก้ไขให้คนอยู่ป่าด้วย อย่าบอกว่า "ยกจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้พม่าไป" นะครับ เราคงทำไม่ได้ทั้งๆที่อยากจะทำใจแทบขาด อิอิ

ขอให้ทุกท่านจงอยู่ดีมีสุขตลอดปี๋ใหม่เมืองครับ

อาจารย์เก

หมายเลขบันทึก: 176758เขียนเมื่อ 13 เมษายน 2008 14:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

คุณประจักษ์ ขอบคุณคุณประจักษ์มากครับ ที่มอบสคส.ปีใหม่มาให้ดูการเต้นของลิงคงมีความสุขตามประสาวัยรุ่น น่ารักดีครับ ขอพรปีใหม่จงกลับคืนสู่ผู้เป็นเจ้าของ ลุงเก

คุณดอกไม้ที่ปลายดอย ขอบคุณที่มอบสคส.ปีใหม่มาให้ ปีใหม่เมืองก็ต้องเน้นที่การดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ เป็นฮีตของเฮา สำหรับลุงยึดตามฮีตไป ได้ไปดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่เมื่อวานเรียบร้อยแล้ว ขอให้พรปีใหม่ จากทุกคนที่ส่งให้กันในภาคเหนือ จงกลับคืนสู่คุณดอกไม้ที่ปลายดอยที่น่ารักของทุกคน ตลอดไป ลุงเก

ไหมสูงต๋อนค่ำโจ้งค่าอาจ๋ารย์เก

      - ตอนที่ครูสุไปแม่ฮ่องสอนใหม่ ๆ หลงรักแม่ฮ่องสอนมาก เพราะเหมือนชีวิตวัยเด็ก ไปตลาดแม่ค้าเอากับข้าว ผัก หมู ห่อใบตองขาย

     - หน้านี้อยากกิน หมากโม่งโก้ (มะม่วงยำแบบไต) ก็อร่อยดีนะครับ เดี๋ยวนี้อดกิน ไปถามแถวเวียงแหง ไม่มีใครรู้จัก

    - มาอ่านบันทึกของอาจารย์นึกถึงความหลัง (ตอนบรรจุใหม่) เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอย่างไร อาจารย์ครับ เอาภาพแม่ฮ่องสอนมาลงด้วยนะครับ อยากเห็น ครูสุจำได้แค่ภาพเก่า ๆ น่ะครับ

เรียนครูสุ

สวัสดีปี๋ใหม่เมืองครับ

ลุงเกว่าแม่ฮ่องสอนกับเวียงแหงบรรยากาศ สภาพแวดล้อมคล้ายๆกันนะ ยิ่งทางไปเวียงแหงก็เหมือนทางไปแม่ฮ่องสอนเลยหละ

ตอนนี้พวกเรากำลังรณรงค์ให้กลับไปใช้ใบตองตึงห่ออาหาร เพราะถุงพลาสติคย่อยสลายยาก เป็นกากทางสภาพแวดล้อม อ้อ...เขาไม่เรียกหมากม่วงโก้ เขาเรียกว่า หมากม่วงสะนาบ ถ้าเป็นพวกผักจึงจะเรียกว่าโก้ หากเป็นพวกผลไม้ชาวไตจะเรียกว่า สะนาบ ทั้งคำว่าโก้ หรือสะนาบ คนไทย คนเมืองเรียกเหมือนกันว่า ยำ นี่เป็นความแตกต่างทางภาษานะครับครูสุ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ขอจงโชคดีปีใหม่นะครับ

ลุงเก

. ตามมาให้กำลังใจคุณลุงค่ะ

. สงกรานต์ที่ผ่านมา หนูก็ได้กลับบ้านเกิดเหมือนกันค่ะ

. อยากบอกว่า หนูมีความสุขมากเลย ที่เห็นคนบ้านเรามีความรัก และสามัคคีกันดี

. ต่างกับคนที่กรุงเทพ เยอะเลยค่ะ

. สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะคุณลุง

. ขอให้คุณลุงและครอบครัว มีความสุขมากๆ และมีสุขภาพแข็งนะคะ

สวัสดีครับอาจารย์เก

  • อาจารย์เกผมลืมคำนี้ไปเลย สะนาบครับ มะม่วงสะนาบ (ไม่ได้พูด และ กินมะม่วงสะนาบมา 4 ปี ต้องขออภัยครับ) พูดแล้วอยากกินจริง ๆ ครับ
  • วันนั้นก็ปล่อยไก่ภาษาไตอีกครับ  คือ ป้าหลู่ แม่ของเด็กเขาจะแกงผักเขียว ครูสุบังเอิญได้ผักหวานป่าจากเด็กมูเซอ ก็เลยเอาผักไปให้ แต่ครูสุพูดว่า เอาผักหวานไปแกงจอมผักเขียว  เขาหัวเราะเลยครับ เขาบอกว่า แกงลอกัน ไม่ใช่แกงจอมกัน
  • ที่เวียงแหงได้พูดภาษาถิ่นตนเองมากไปหน่อย ลืมภาษาไทยใหญ่ไปเยอะเลยครับอาจารย์

หนู pam ครับ

ใจไม่ดีเลย นึกว่าเธอหายไปไหน ขอบคุณครับที่ยังนึกถึงลุง ตามประสาคนมีอายุก็ให้รู้สึกเป็นห่วงลูกหลานทุกคน จำได้ว่าเธอเขียนอยู่เรื่องหนึ่ง วิเคราะห์ดูแล้วคล้ายคนสิ้นหวัง ไม่อยากจะเดาว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ก็ไม่อยากให้ใครคิดอย่างนั้น..ที่พูดเตือนลูกหลานเพราะลุงก็เคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน ชีวิตในวัยหนุ่มมันคิดแบบผลีผลาม ซึ่งไม่มีประโยชน์ บั่นทอนจิตใจเปล่าๆ หนูคงสอบผ่านแล้วนะ ตั้งใจเรียน อดทนอีกสักนิดหนูก็จะได้เป็นบัณฑิตแล้ว

ลุงเก

ไหว้สาอาจารย์เกครับ...

*ผมแว่เข้ามาแอ่วเรื่องบ้านเกิดเมืองนอนก็ม่วนดี มีคติแฝงอยู่

แต่ที่ว่าฮีตคนล้านนากินเหล้าเบียร์นั้นมันเป็นบางแห่งครับ.

*ที่บ้านผมวันที่ 12 เมษาทุกปี ผมเปลี่ยนเครื่องบูชาครูประจำปีพอตอนบ่ายห้าโมงสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ผะหญาภูมิปัญญาล้านนาจะร่วมกันทอดผ้าป่าทันใจไม่มีเหล้าเบียร์ครับมีแต่น้ำสมุนไพรที่สมาชิกเอามาร่วมกันเป็นปัจจัยทานบ้าง ดื่มบ้างก็ม่วนดีครับ

สรุปแล้วคนล้านนาบางกลุ่มยังไม่ดื่มเหล้าเบียร์ในวันบุญครับ

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา

ไหว้สาป้อหนานอาจ๋ารครับ

ไม่ได้เข้าบล็อคเสียนาน เนื่องจากย้ายที่ทำงาน ขาดสัมพันธภาพที่ดีกับคณะเครือข่ายเสียหลายวันครับ แต่ก็ยังนึกถึงพ่อหนานอาจารย์อยู่ตลอด

ขอบคุณ ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ วิถีชีวิตชาวล้านนา โดยเฉพาะเชียงใหม่น่าชื่นชมครับ อย่างว่านั่นแหละในสิ่งที่ดี ก็อาจมีสิ่งที่ไม่ค่อยดี แฝง หรือปะปนอยู่บ้าง จริงๆแล้วผมไม่อยากตัดสินว่าไม่ดี หรอกนะครับ เป็นวัฒนธรรมที่แปลกปลอมเข้ามาต่างหาก เช่นการทอดผ้าป่าต้องมีการเลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้งกัน ผมอยากให้ทุกคนเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ให้ห่างอะบายมุขแวลาทำบุญ จะทำให้เราได้บุญอย่างเต็มที่ ไม่ถูกด้านบาปคอยตัดทอนแบ่งเอาไป ผมคิดอย่างนั้นครับ แต่มันฝืนต่อหลักปฏิบัติของคนบางกลุ่ม (ไม่ใช่ทุกกลุ่ม)เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เราไม่สามารถไปห้ามเขาได้ นอกจากพระพยอม ตัวผมเองก็ไม่กล้าไปห้ามหรอกครับ เพียงแต่ให้ทรรศนะและความคิดเห็นอย่างเป็นกลางเท่านั้น

ขอบพระคุณพ่อหนานอีกครั้งครับ

อาจารย์เก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท