เรื่องเล่าจากประสบการณ์


การศึกษาดูงานต่างประเทศ

            ก่อนอื่นก็ต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันเป็นพยาบาลค่ะ เป็นรุ่นน้อง (ตอนเรียนปริญญาโท) ที่คลานตามกันมาติดๆ กับพี่ชายขอบค่ะ แล้วตามความต้องการของหลักสูตรก็คือ ก่อนที่นักศึกษาทุกคนจะจบการศึกษา ต้องผ่านการศึกษาดูงานเกี่ยวกับระบบสุขภาพของต่างประเทศ แล้วนำมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกับประเทศไทย ในรุ่นของดิฉันนั้น ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานระบบสุขภาพของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย 3 ประเทศด้วยกัน คือ ประเทศสวีเดน นอร์เวย์และเดนมาร์ค

            ที่น่าสนใจมากๆ อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังก่อนใครเพื่อน ก็คือ ประเทศนอร์เวย์ค่ะ เพราะว่าที่นี่นอกจากสวัสดิการจากภาครัฐจะดีแล้ว ยังมีบริการที่น่าเอาอย่างอีกค่ะ กล่าวคือ ที่นี่จะมีการดูแลสุขภาพที่บ้าน คือ เป็นเหมือนกับผู้ป่วยนอนป่วยอยู่ที่บ้าน แล้วจะมีพยาบาลไปดูแลให้ถึงบ้าน พยาบาลที่ไปดูแลก็เป็นพยาบาลจากภาครัฐ มีการจัดเวรเช้า บ่าย ดึก ผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลผู้ป่วยที่บ้าน โดยจะมีรถของศูนย์ที่ให้การดูแลทำหน้าที่ออกตระเวนตามบ้านของผู้ป่วยแต่ละราย เปรียบง่ายๆ ก็คือ ศูนย์การดูแลผู้ป่วยเหมือนเซ็นเตอร์ในการทำหน้าที่รับผู้ป่วยที่เข้ามาแอดมิด ส่วนวอร์ดผู้ป่วยในที่นี้ก็กว้างมาก คือ บ้านของผู้ป่วยแต่ละรายที่เข้ามาแอดมิดไงคะ และพยาบาลก็ทำหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน มีการรับเวร ส่งเวรกันตามปกติ ว่าผู้ป่วยแต่ละรายมีอาการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง อ่านดูแล้วมันจะเหมือนการจ้างพยาบาลดูแลพิเศษตามบ้านไปหรือเปล่า แต่สำหรับที่นี่ การดูแลที่บ้าน คือ พยาบาลไม่ได้อยู่ดูแลผู้ป่วยคนเดียว และตลอดเวลา แต่จะเป็นการดูแลผู้ป่วยในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบตามที่บ้าน

            น่าทึ่งไหมคะ สำหรับบริการของประเทศเขา ที่ตรงกับปรัชญาของตัวเราเองว่า ทำอย่างไรที่จะให้คนที่ไม่ป่วยไปดูแลคนที่ป่วย หรือทำอย่างไรที่จะต้องไม่ให้คนป่วยเป็นผู้เดินเข้ามาหาเราเพื่อมารักษา แต่การที่ประเทศเขาเป็นอย่างนั้นได้ก็ว่า

  1. ประชาชนในประเทศของเขามีการศึกษา มีความรู้
  2. สัดส่วนของบุคลากรต่อประชากรน้อยกว่าบ้านเรา
  3. คนสูงอายุบ้านเมืองของเขาส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว และส่วนใหญ่คนเหล่านี้ต้องการอยู่บ้านจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต

       

           ทิ้งท้ายสักนิดนะคะ  ถ้าอยากให้ผู้ป่วยในประเทศไทยได้รับการดูแลแบบนั้นบ้าง ทุกท่านคิดว่ามีความเป็นไปได้ มากน้อย แค่ไหนคะ  ร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 17645เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2006 14:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
สิ่งที่คุณศันย์ทิ้งประเด้นไว้ เป็นสุดยอดปรารถนาเลยครับ อยากให้ผู้ป่วยในบ้านเราเป็นอย่างนอร์เวย์บ้างจัง แต่สำหรับข้อที่ 1 และ 2 นั้น บ้านเราคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควรเหมือนกันนะครับ
หนังสือทำมือ หนังสือจากท้องถิ่น

     น้องเอ๋ยน้อง พี่รอนานแล้วนะ ตั้งแต่รู้ว่าสมัครเป็นสมาชิก GotoKnow.org และรอบันทึกแรกนี้ งอนนิด ๆ ทำไมไม่เป็น "พี่ชายขอบ" แต่กลับเป็น "คุณชายขอบ"

     เจ้ากล้ามากที่เล่าเรื่องไปต่างประเทศ พี่ยังลังเลเรื่องที่จะเล่าว่าได้ไป "อนามัยโลก" ร่วมประชุม 9/10 Forum หลังจากอยู่แต่ "อนามัยตำบล" มานาน แต่ก็เล่าไม่ออก เพราะ "เขิน" และ "งง ๆ" อยู่จนทุกวัน

     คำถามที่น้องทิ้งประเด็นไว้พี่ไม่ขอตอบนะ (กลัวเสียฟอร์ม ฮา...ฮา) แต่จะบอกว่าดีใจมากเลย ดีใจจริง ๆ

โอเคค่ะพี่

น้องจะเปลี่ยนเป็นพี่ชายขอบให้ค่ะ  ว่าแต่พี่จะไม่เล่าประสบการณ์ที่ไปดูงานมาจริงเหรอคะ เล่าหน่อยเถอะค่ะ ถือซะว่าเล่าเรื่องให้น้องฟังนะคะ

 

 

     น่าจะเล่านะ เดี่ยวว่าง ๆ แล้วจะถอดจากบันทึกการเดินทาง มาเล่าสู่กันฟังขอตั้งชื่อเรื่องไว้ก่อนว่า "ลูกหมอน้ำค้าง...บุก...อนามัยโลก" แต่จะรอเช็ค ratting ก่อนตีพิมพ์นะ...(จะว่าไง)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท