ด้วยความดีใจ และวางแผนเอาไว้ว่าจะหาทางกลับขึ้นไปที่หมู่บ้านที่เคยศึกษา เพื่อไปให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และ พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 ให้แก่ ตัวแทนชาวบ้าน ที่เคยได้ติดต่อเอาไว้
ปรากฎว่าวันนี้โทรไป กลับกลายเป็นว่าได้ยิน "ข่าวร้าย" ว่าคน ๆ หนึ่งที่เคยเป็นคนไร้สัญชาติ แต่ต่อมาได้สัญชาติ ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด (อีกครั้ง) และตอนนี้ได้หลบหนีไปจากหมู่บ้าน
ก็เลยกลับมาคิดว่า ทำไมเขาคนนั้นต้องทำอย่างนั้นกันนะ ทั้ง ๆ ที่กว่าจะได้มามันแสนยากลำบาก และถ้าหากถูกจับกุมได้ ก็คงมีสิทธิที่จะถูกถอนสัญชาติ เพราะความประพฤติ
จึงอยากจะเล่าเอาไว้เป็น อนุสติเตือนใจ คนที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสัญชาติที่ยังไม่ได้ และสำหรับคนที่ได้มาแล้ว ก็อย่าอาจหาญไปทำผิดกฎหมายใด ๆ อีก
ถึงอย่างไร ใครทำแบบไหน ก็ย่อมได้ผลตอบแทนอย่างนั้น ตามกฎแห่งกรรม แหละครับ
วัดดี ได้อ่านข้อความของคุณแล้ว ครั้งแกคิดว่าเป็นเรื่องการเมื่อง ไฉนกลับกลายเป็นเรื่องการขอสัญชาติ แล้วกลับไปทำผิดกฏหมาย แล้วอย่างนี้ใครจะช่วยเขาละ อาหย้า?อัวคิดแล้วคลุ่ม เป็นคนไทยดี ๆ ไม่ชอบ
อ.แหววพยากรณ์ไว้ตั้งนานแล้วค่ะ เรื่องนี้ต้องเกิด และถ้าเราไม่ป้องกัน เราก็ต้องแก้ไข
ตอนนี้ ก็มีคนคิดเรื่องอบรมกฎหมายมากมาย แต่ก็ไม่ค่อยประสานงานกัน และมักไม่เอาปัญหาเป็นตัวตั้ง กลับเอา "ความอยากของคนจัดอบรม" เป็นตัวตั้ง ต้องช่วยกันเตือนสติกันและกันนะคะ
จะมีอบรมที่สำคัญๆ นะคะ
๒๕-๒๗/๔/๒๕๕๑ - อ.เอ๋จัดที่เชียงราย เป้าหมายคือคนทำงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ไม่รับคนที่แค่อยากรู้ หรืออยากสนับสนุน แต่ไม่อยากทำอะไรเลย
๒๗ - ๒๘/๔/๒๕๕๑ กระจกเงาและ พชภ. และเครือข่าย จัดที่เชียงรายเช่นกัน อันนี้รับจำนวนมาก แต่คงลงไม่ลึกเท่างานแรก เพราะคนเข้าอบรมมาก
๗/๖/๒๕๕๑ จัดที่ กทม. โดยคุณหนอน สุรพงษ์ กองจันทึก แห่งสภาทนายความ ก็คงเน้นทนายความที่ทำงานด้านนี้
ถ้าสนใจอันไหน ก็ลองติดต่อดูนะคะ
พี่เคยอยู่ในพื้นที่นั้น พี่พอจะรู้ไหมว่า อะไรเป็นตัวกำหนดให้คนๆหนึ่งในหมู่บ้านนั้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพย์ติด
จิ๊บ
คำเดียวสั้น ๆ คือ
"เศรษฐกิจ"
เพราะ การอาศัยอยู่บนพื้นที่สูงย่อมไม่ทัดเทียมกับคนในพื้นราบ ในทุก ๆ ด้าน
"การดิ้นรน" เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี
"จิตสำนึก" ที่อ่อนด้อย
คงแค่นี้ ครับ