WCNC 2008 & CTIA Wireless 2008


พระเอกในงานนี้คือ WiMax

ระหว่างวันที่ 31 มี.ค. - 3 เม.ย. 2551 ได้มีโอกาสมาเข้าประชุมวิชาการ WCNC 2008 ย่อมาจาก Wireless Communication and Networking Conference ที่ลาสเวกัส อเมริกา เป็นครั้งแรกที่มาร่วม WCNC ดูจากหัวข้อก็คงทราบว่าเน้นหนักไปทาง wireless technology เนื่องจากไม่ได้ทำวิจัยทาง wireless เราจึงไม่เคยสนใจ conference นี้เลย เจ้าลูกศิษย์ตัวดี แอบเอาเปเปอร์ไปส่ง (ทั้งๆ ที่เปเปอร์ก็ไม่ได้เกี่ยวกับ wireless เลย) สงสัยคุณลูกศิษย์จะอยากมาเที่ยวลาสเวกัส แต่พอเอาเข้าจริงคุณเธอก็ไม่มีตังค์จะมาพรีเซนต์เปเปอร์เอง เราจึงต้องรับหน้าที่มาแทน พูดเหมือนไม่อยากมาเลยเนอะ ก็เฉยๆ นะ ไม่ค่อยชอบลาสเวกัสเท่าไหร่จึงไม่ค่อยตื่นเต้นที่จะมานัก แต่ก็ยินดีที่ได้กลับมาอเมริกาอีก เหมือนได้กลับบ้านเก่า

กลับมาคุยเรื่อง conference ดีกว่า conference นี้ มี 4 ด้านหลัก: physical, MAC, Network, Application เพราะฉะนั้นงานของเราด้าน Network จึงฟิตใน conference นี้ได้ คนที่มาร่วมก็มีเกือบ 700 คน นับว่าเยอะทีเดียว แต่ปรากฎว่าแย่ตรงที่เขามี presentation พร้อมๆ กันทีเดียว 10 ห้อง ทำให้ คนกระจัดกระจายกันไปหมด เหลืออยู่ห้องละไม่ถึง 10 คน ครึ่งหนึ่งก็เป็น speaker เข้าไปแล้ว how pathetic! เราคาดหวังไว้ว่าน่าจะเป็น conference ที่ดีมี participation/discussion เยอะๆ กว่าพวก conference ฝั่งเอเชีย ปรากฎว่าไม่แตกต่างกันเลย  แถมยังไม่เลี้ยงอาหารกลางวันอีกต่างหาก :P

กลับมาดูสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก conference ปรากฎว่าในงานนี้ดูเหมือน Wimax และ 4G จะเป็นพระเอก keynote speech เกี่ยวกับพวก technology 4G เช่น wimax, HSPDA, LTE สองตัวหลังก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อเหมือนกัน ต้องไปหาข้อมูลก่อน ในอเมริกาพูดถึง Wimax กันมาก เหมือนจะใกล้ความจริงเข้ามาทุกที ในงาน CTIA Wireless ซึ่งเป็นนิทรรศการแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้าน Wireless technology ซึ่งจัดที่เดียวกับ WCNC ก็มีหลายบริษัทที่เปิดตัวอุปกรณ์ที่ใช้กับ Wimax ได้แล้ว เช่น Nokia N810 กำลังจะวางขายเร็วๆ นี้ ใช้งาน Wimax โดยไม่รองรับ Cellular network เลย Sumsung, Motorola ก็มีโชว์นิทรรศการด้าน Wimax ของตัวเอง นอกจากนั้นก็น่าจะเป็น trend ด้าน location-based service ได้ไปฟัง tutorial เรื่องนี้มา แต่ก็ไม่ค่อยได้อะไรใหม่ๆ เพราะพูดถึงเทคนิคการหาตำแหน่งโดยใช้ GPS หรือ GSM ในงาน CTIA Wirelss มีการแจกรางวัลการประกวด NAVTEQ Global LBS Challenge ด้วย ไม่รู้ว่าทีมไหนได้ รางวัล แต่เป็นไอเดีย ไปเล่าให้ทีม ITS ที่แล็บฟัง เพราะปีหน้าก็จะมีประกวดอีก ดูรายละเอียดได้ที่ www.LBSChallenge.com

พูดถึง CTIA Wireless งานนี้ใหญ่มากๆ ถึงมากที่สุด เขาพูดกันว่าเป็น trade show ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเลย มีคนเข้างานเกิน 40,000 งานจัดที่ Las Vegas Convention Center ที่เดียวกับ WCNC งานนี้ WCNC เป็นเพียงตัวประกอบ ห้องประชุมแอบอยู่ในหลืบ โดน CTIA กลบหมด ประสบการณ์ที่ได้จาก CTIA นอกจากจะเห็นมือถือรุ่นใหม่ๆ ที่แต่ละผู้ผลิตต่างนำมาโชว์ ทั้งระบบ CDMA และ GSM (อเมริกาใช้ทั้ง CDMA & GSM) แล้ว ก็ยังมีทั้งบริษัทเล็กใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ Wireless ไม่ว่าจะเป็น TeleAtlast, NAVTEC, ESRI (ทำแผนที่), Microsoft, Symbian (ทำ OS สำหรับมือถือ PDA), Yahoo (software for mobile), Nortel, Qualcomm, Siemens (ทำฮาร์ดแวร์) และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีบริเวณแสดงนิทรรศการของประเทศอื่นๆ ด้วย เช่น China Pavillion, Taiwan Pavillion, etc. ที่ประทับใจอีกบูธคือ NTT Docomo ของญี่ปุ่น ได้นำเทคโนโลยีต้นแบบมาแสดง เช่น Mobile Wallet (อันนี้เคยเห็นใช้กันแล้วที่ญี่ปุ่น) มือถือบางเฉียบและกันน้ำได้ มือถือใช้เปิดประตูบ้าน (เป็น contactless IC) และที่เจ๋งสุดๆ คือมือถือใช้ตรวจสุขภาพ อันนี้เป็นต้นแบบที่ยังไม่มีขายจริง สามารถวัดชีพจร วัดปริมาณไขมัน วัดลมหายใจ (ว่าเหม็นไหม) ความจริงอุปกรณ์วัดต่างๆ เหล่านี้มันก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่เอามารวมเข้ากับมือถือเท่านั้น อย่างการวัดชีพจร ก็เพียงเอาปลายนิ้วชี้แต่เซ็นเซอร์ การวัดไขมันก็เหมือนเครื่องชั่งน้ำหนักสมัยใหม่ที่วัดไขมันได้ โดยกายวัดจากกระแสไฟที่วิ่งผ่าน ในกรณีนี้ ต้องใช้สองมือจับมือถือ ก็เป็นการวัดเฉพาะไขมันในร่างกายช่วงบน เจ๋งจริงๆ

ก่อนจบ ขอพูดถึงการใช้มือถือในอเมริกาหน่อย จากเมื่อสามปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ มือถือเป็นที่แพร่หลายมาก เหมือนเมืองไทยหลายคนมีแต่มือถือโดยไม่ต้องมีโทรศัพท์บ้านแล้ว ตอนนี้ hot issue ก็คือเรื่องการเก็บภาษีจากการใช้โทรศัพท์มือถือ บางรัฐเก็บมากกว่า 20% ก็มี จึงเกิด campaign เรียกร้องให้รัฐบาลลดภาษีลง ดูรายละเอียดได้ที่ www.mywireless.org ข้อสังเกตอีกอย่างคือคนอเมริกาชอบใช้มือถืออันใหญ่ ปุ่มก็ใหญ่ (สงสัยเพราะขนาดร่างกายใหญ่กว่าคนบ้านเรา) ที่น่าแปลกใจก็คือ Blackberry เจ้าเครื่องที่เคยโฆษณาว่าเอาไว้ใช้รับส่งอีเมลนั้น กลายเป็นของฮิต เห็นหลายๆ คนใช้กัน มันก็มือถือธรรมดา แต่ blackberry ทุกรุ่นจะมีปุ่ม keyboard QWERTY ครบ ทำไว้เพื่อส่งอีเมลละมั้ง ดูก็ไม่เห็นสวย เทอะทะ สงสัยว่าคนอเมริกันจะใช้ text messaging  บน keypad ปกติไม่เก่งเหมือนคนญี่ปุ่นคนไทย มือถือฝั่งเอเชียก็เห็นมีแต่ แป้นตัวเลขอย่างเดียวยังส่ง SMS กันอย่างรวดเร็วได้เลย

หมายเลขบันทึก: 175381เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2008 04:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท