สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วนะครับ สำหรับในวันนี้กระผมใคร่ขอลงรายละเอียดเจาะลึกอื่นๆ ที่ค้างไว้ในครั้งที่แล้ว มาให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันนะครับ โดยในครั้งนี้ขอเริ่มต้นที่การโฆษณา ดังนี้ครับ
การโฆษณา คือ การประกาศสินค้าหรือบริการที่ต้องการให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบโดยทั่วกัน ซึ่งจุดมุ่งหมายก็คือเพื่อให้คนโดยทั่วไปรู้จักสินค้าหรือการบริการนั้นๆ ในอดีตที่ผ่านมาการเริ่มต้นของการโฆษณาจะเป็นในลักษณะของการร้องป่าว/ การประกาศเชิญชวน ซึ่งในปัจจุบันการโฆษณาสามารถทำได้ตามสื่อต่างๆ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่ออินเทอร์เน็ตและสื่ออื่นๆ รวมทั้งสื่อแฝงอีกฯลฯ เป็นต้น
การโฆษณาในสมัยใหม่นี้ ได้มีนวัตกรรมและความทันสมัยมากขึ้น อาทิ การโฆษณาตามที่สาธารณะซึ่งเป็นรูปแบบที่ทันสมัยและสวยงาม เช่น ตามป้ายข้างทาง ตามตึก ตามป้ายรถโดยสารประจำทาง ตามข้างรถโดยสารประจำทาง ตามจอโทรทัศน์BTS, การโฆษณาที่เป็นรูปแบบ Real Time จัดรายการสดๆเลยในทันที เช่น Shaker Screen ที่ Center Point ที่มีพิธีกรจัดกันสดๆ มีกล้องนอกสถานที่เพื่อตัดภาพผู้ร่วมรายการที่อยู่อีก Zone หนึ่งขึ้นจอบริเวณประชาคมนั้นโดยทันที, หรือการโฆษณาแบบ Interactive ที่อนุญาตให้ผู้ชมมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการโฆษณาได้ สารพัดตามแต่ผู้ที่เป็น Creative จะคิดขึ้นมา ซึ่งจะต้องมีความดึงดูดและความน่าสนใจเพื่อที่จะกระตุ้นต่อมให้ผู้ใช้บริการเกิดความอยากซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ
การโฆษณาแบบแอบแฝง คือ การที่สื่อบันเทิงหรือสื่อใดๆก็ตามกล่าวถึงหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งโดยไม่ได้บอกชัดแจ้งว่าเป็นการโฆษณา ตัวอย่างเช่น ละครหลังข่าวที่ตัวพระเอกของละครนั้นๆ ตื่นขึ้นมาก็แปรงฟันโดยใช้ยาสีฟันที่ถ่ายให้เห็นยี่ห้อนี้ ไปทำงานโดยรถ Sport หรูยี่ห้อนี้ ใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อนี้ ไปเยี่ยมแฟนที่โรงพยาบาลนี้ (มีชื่อโรงพยาบาลตัวโตๆอยู่บนผนัง โดยมีปลอกหมอน+ผ้าปูเตียง+ชุดผู้ป่วยก็มีชื่อโรงพยาบาลนี้อยู่ด้วย) กินข้าวเย็นที่ร้านอาหารร้านนี้ ก็แล้วแต่ว่าเราจะถูกยัดเยียดยังไง หรือแม้แต่ตอนเราไปดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ เรายังต้องทนดูโฆษณาก่อนภาพยนตร์ฉายเลย กิน Popcorn จนจะหมดอยู่แล้วภาพยนตร์ก็ยังไม่เริ่มฉายซักที
การโฆษณาและการเข้าถึงผู้ชมรูปแบบใหม่ เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีเวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มากกว่าการอยู่หน้าจอโทรทัศน์ หรือฟังวิทยุ การโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตถือเป็นปรากฏการณ์ที่เริ่มมีบทบาทมากขึ้น มี Banner โฆษณาในอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยราคาค่าโฆษณาบนเว็บก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าชมเว็บนั้นๆนั่นเอง หรือแม้แต่การโฆษณาทาง E-Mail ก็เป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งซึ่ง E-Mail ที่ผู้รับไม่พึงประสงค์หรือที่เรารำคาญกันบ่อยๆเรียกว่า Spam นั่นเอง
การโฆษณายังมีอีกเยอะครับ พูดมากประเดี๋ยวเครียด เอาเป็นว่าการโฆษณายังไงก็เป็นการชวนเชื่อ ซึ่งอาจไม่สนใจในความถูกต้องหรือข้อเท็จจริงมากนัก หรืออาจนำเสนอความจริงด้านดีเพียงด้านเดียวโดยไม่ได้บอกถึงด้านลบ เพื่อให้การโน้มน้าวใจประสบผลสำเร็จนั่นเอง ยังไงก็แล้วแต่เราจะเลือกใช้นะครับ ซึ่งตรงนี้ยังต้องมีการเชื่อมประสานศาสตร์ด้านต่างๆและกลยุทธ์ต่างๆอีกมากมายมาใช้ร่วมกัน ซึ่งจะกล่าวถึงในลำดับต่อไป สำหรับในครั้งหน้าจะพูดถึงเรื่องการประชาสัมพันธ์ครับ รอติดตามกันให้ดี สำหรับในวันนี้ สวัสดีครับ
สวัสดีเจ้าค่ะ
น้องจิแวะมาเยี่ยม และรับความรู้ คิคิ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---->น้องจิ ^_^
ตามอ่านอยู่ค่ะ