การซ้อม ทรมาน นักสิทธิมนุษยชน/กฎหมายคุ้มครองสิทธิในสังคมไทยจะทำอย่างไร?
ในฐานะที่ผม เป็นเลขานุการคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดขอนแก่นและประธานฝ่ายนิติการ และประธานเครือข่ายประสานงานเพื่อสิทธิเสรีภาพมุสลิมอีสาน ขอสะท้อนปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้พี่น้องได้ทราบพอสังเขปว่า ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่มีประกาศกฎอัยการศึก กฎหมายรักษาความมั่นคง ล่าสุดกรณี อิหม่ามยะผา กาเซ็ง หม่ามอำเภอรือเสาะ นราธิวาส เสียชีวิตขณะควบคุมตัว โดยเจ้าหน้าที่รัฐควบคุมตัวเขาและลูกๆอยู่ในรถหลายวัน กินนอนอยู่ในนั้น แม้ในเวลากลางวันก็อยู่ท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด เจ้าหน้าที่มองเขาและครอบครัวเป็นคนหรือไม่ มีผู้ถูกควบคุมตัวแบบเหวี่ยงแหหลายคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เจ้าหน้าที่ไทยใช้วิธีการทรมานด้วยการใช้เข็มแทงเข้าไปในซอกเล็บซึ่งถือเป็นวิธีการทรมานที่เจ็บปวดที่สุดวิธีหนึ่ง ไม่เท่านั้น ในหลายหมู่บ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่รัฐมองชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเป็นโจร เจ้าหน้าที่รัฐไทยในภาคใต้ได้รับการฝึกอบรมเพียงไม่กี่วันสามารถติดอาวุธได้ ที่สำคัญนำไปทำทารุณกรรมประชาชน กรณีทนายสมชาย นีละไพจิตร ถูกอุ้มฆ่าเพราะไปรู้เรื่องการทรมาน การซ้อมอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน มีการเอาไฟจี้ เผาไข่ ซ้อมทุกวิธีที่จะให้รับสารภาพ รู้มากตำรวจกลัวคนทั้งประเทศจะรู้ความจริง ก็เลยมีมือที่มองไม่เห็น นักบุญเอื้ออาทร สั่งเก็บโดยการอุ้มฆ่า นี่ 4 ปีแล้วที่ไม่ทราบชะตากรรม กรณีนายรุดดีน มะเกะ เขาและแม่ขายข้าวยำอยู่ที่หมู่บ้าน ถูกเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจและตำรวจภูธรในพื้นที่เข้าล้อมหมู่บ้าน เหวี่ยงแหหาว่าเป็นมือระเบิดรถฮัมวี มีเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจล้อมบ้านเป็นร้อยคน และจับตัวเขาไปเข้าคุกและขณะนี้เขาก็ยังถูกขังอย่างไม่ทราบชะตากรรมในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส กรณี นายหะซัน สามะ มีลูก 5 คน เจ้าหน้าที่จับกุมภรรยาไปก่อน กล่าวหาว่าภรรยาเขาส่งอาวุธให้ผู้ก่อความไม่สงบ อีกวันต่อมามาล้อมบ้าน คาดคั้นภรรยาเขาว่าไปไหน ภรรยาบอกว่าไปดะวะห์(เผยแพร่ศาสนาอิสลาม)ไปตามมัสยิดต่างๆ เจ้าหน้าทหารตำรวจตามตัวเขาที่มัสยิดและนำไปซ้อม ซึ่งนายหะซัน สามะไม่ทราบเลยว่าภรรยาถูกจับกุมไปก่อนหน้านั้นแล้ว วันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับแม่ของนายหะซันโดยให้นั่งเฮริคอปเตอร์ไปรับศพของเขาที่อำเภอจะแนะ ส่วนภรรยาพบว่าโดนซ้อมหนัก โดยเตะจนลุกไม่ได้ นี่เป็นเพียงไม่กี่กรณี เรามีมากกว่า 30 กรณี ที่จะนำเสนอ นี่คือภาพความป่าเถื่อนของตำรวจและทหารของไทยในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก ประกาศ พ.ร.บสถานการณ์ฉุกเฉิน และตำรวจ ทหารก็ใช้อำนาจ ทารุณกรรมชาวบ้าน รังแก กดขี่ชาวบ้านที่ไม่มีทางสู้ ข้าพเจ้าในฐานะคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดขอนแก่น ขอเรียกร้องให้องค์กรมุสลิมทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด และสัปปุรุษมุสลิมทั้งภาคใต้ ข้าพเจ้าเชื่ออย่างที่สุดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความอ่อนแอขององค์กรของท่าน ที่ไร้การจัดตั้งและไร้ความสามารถในการพิทักษ์ปกป้องสิทธิ ผลประโยชน์ของพี่น้องมุสลิม ขอให้ทุกชุมชนทุกพื้นที่ได้ลุกขึ้นมาดูแลพี่น้อง ตรวจตราตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะทหาร ตำรวจที่คุกคาม ละเมิดสิทธิประชาชนและใช้อำนาจเถื่อนรังแกชาวบ้าน ออกมาเปิดโปงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับรู้รับทราบ เพราะความอ่อนแอของท่านทำให้เจ้าหน้าที่ชั่วๆรังแกประชาชนอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ท่านเข้าไปดูแลพี่น้องที่ได้รับความไม่เป็นธรรมในเรือนจำ เพื่อที่จะเปิดโปงความเลวร้ายที่เจ้าหน้าที่กระทำกับผู้บริสุทธิโดยอ้างกฎอัยการศึก ขอพระผู้เป็นเจ้า เอกองค์อัลลอฮ(ซ.บ)ประทานความเข้มแข็งให้กับองค์กรมุสลิมทุกองค์กรในภาคใต้ด้วย อย่านิ่งดูดายกับความเลว ความชั่วช้าและความป่าเถื่อนที่ทำกับผู้บริสุทธิ อามีน(ขอพระองค์ทรงรับด้วย) เราเชื่อว่าหากเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นกับลูกหลานรัฐมนตรีเช่นนี้บ้างคงจะเกิดการแก้ไข
ความเห็น (1)
- สวัสดีคะคุณสมานฉันท์
- โอ้โห!!ได้อ่านเรืองนี้แล้วเศร้าจังนะค่ะ
- เจ้าหน้าที่รัฐมีจิตใจเหมือนมนุษย์หรือเปล่าค่ะเนี๊ยะ
- ชั่งโหดร้ายซะเหลือเกิน
- มิน่าล่ะ....ที่คนใน 3 จังหวัดชายแดนถึงได้ไม่ชอบเจ้าหน้าที่รัฐ
- อยากอ่านเรื่องราวแบบนี้ที่เกี่ยวกับความเป็นจริงของ 3 จังหวัดชายแดนใต้อีกค่ะ
- ไว้มีเรื่องน่าสนใจจะแวะเข้ามาอีกนะค่ะ
- ขอบคุณคะที่นำเรื่องราวดี ๆ มาแบ่งปันค่ะ