ตามหัวข้อของบ๊อกนี้ “ งานที่ต้องเรียนรู้ ” ครั้งนี้ตัวเองก็ได้เรียนรู้งานดีๆอีกงานหนึ่งที่ไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน คือ งานวิจัยแบบ Clinical Trials ประสบการณ์การเรียนรู้ครั้งนี้ ได้อนิสงจากนายแพทย์นิพัธ กิตติมานนท์ ที่ได้ให้สิทธิของท่านที่จะต้องเข้ารับการอบรมครั้งนี้ ให้ดิฉันไปแทน เนื่องจากท่านติดภารกิจต้องไปเป็นวิทยากรต่างจังหวัด (ขอบคุณมากๆค่ะ หัวหน้า.. )
หัวข้อการอบรมในครั้งนี้ “ Standard Course in Clinical Trials ” ซึ่งเป็นการจัดของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจัดตั้งแต่วันที่ 24 – 26 มีนาคม 2551
ซึ่งตามบทบาทความรับผิดชอบที่ดิฉันต้องทำในการทำงานแล้ว การเป็นผู้ช่วยงานวิจัยก็เป็นงานที่ดิฉันได้รับหมอบหมายให้เป็นงานเสริมนอกเหนือจากงานหลักของงานที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะเป็นผู้ช่วยงานวิจัยในงานเก็บข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยโรคกระดูกพรุน ซึ่งนายแพทย์นิพัธ กิตติมานนท์จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานวิจัยเรื่องกระดูกพรุนอยู่แล้ว การที่ดิฉันได้เข้ารับการอบรมเสริมความรู้ในครั้งนี้ทำให้ดิฉันมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับงานวิจัยแบบ Clinical Trials มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันดิฉันก็กำลังเป็นผู้ช่วยเก็บข้อมูลงานวิจัยแบบ Clinical Trials อยู่เช่นกัน ในผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน ซึ่งการเข้ารับการอบรมครั้งนี้เป็นโอกาสดีมากที่ดิฉันจะได้เก็บเกี่ยวความรู้เพื่อมาเพิ่มเสริมประสบการณ์ต่างๆที่จะใช้ในการทำงาน
การไปอบรมครั้งนี้ ขอบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้มาเก็บไว้ เพื่อมาเตือนความจำของตัวเองแล้วกันค่ะ
เรื่องแรก…….
What is a Clinical Trials ? คำตอบคือ เป็นการวิจัยอะไรก็ตามที่มีการติดตามไปข้างหน้าแล้วต้องมีการใส่อะไรเข้าไปให้กับอาสาสมัครของการวิจัย ( ยา, วัคซีน, การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ) สิ่งที่ใส่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอาสาสมัคร มีการติดตามเป็นระยะ มีการติดตามดูแลผล ดูแลอาการข้างเคียง
Why clinical trials ?
· To find a new drug or new Rx regimen or strategy or vaccine
· To get a good publication
· To earn a better academic position
· To earn an honorarium or income
· Other personal resons
Key components for a Successful Clinical Trial
· Good Scientific Thinking
· Good Teamwork
· Good Infrastructure
· Good Clinical Practice
· Good Collaboration
· Good Administration
· Good Laboratory Practice
· Strong Commitmemt
ICH Good Clinical Practice Guideline
ฉบับภาษาไทย
การปฏิบัติการวิจัยทางคลินิกที่ดี ( Good Clinical Practice ) เป็นมาตรฐานสากลด้านจริยธรรมและด้านวิชาการ สำหรับใช้ในการวาง
- รูปแบบ การดำเนินงาน การบันทึกข้อมูล และการเขียนรายงาน การศึกษาวิจัยในมนุษย์การปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานนี้เป็นการ
รับประกันต่อสาธารณชนว่า สิทธิ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีของอาสาสมัครได้รับความคุ้มครอง ตามหลักการแห่งคำ ประกาศเฮลซิงกิ( Declarration of Helsinki )และผลการวิจัยทางคลินิกที่เชื่อถือได้
ศ.นพ. เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ฝากแก่นสำคัญทิ้งท้ายไว้คือ
Good Clinical Trial
Good Clinical Practice( GCP )
Good Laborratory Practice ( GLP )
ต้องมี
S= Scientific Valid ต้องมีหลักเหตุและผลเป็นวิทยาศาสตร์
E= Ethically oriented มีหลักจริยธรรมในการรับผิดชอบผลงานทั้งหมด ไม่มีการปรุงแต่ง
A= Accuracy มีความแม่นยำถูกต้องของข้อมูล
T =Traceability สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้ใน 15 ปี
*สรุปง่ายๆ* โปร่งใสตรวจสอบได้*
สุดท้ายขอขอบคุณ บริษัทเอไซ ประเทศไทย มาร์เกตติ้ง จำกัด ที่สนับสนุนให้ฉันดิและคุณประภาพร ( พี่อ้อยปะ )ได้เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ค่ะ โดยเฉพาะคุณณัฏฐิยา(คุณได) ที่ดูแล จัดการเรื่องที่พัก การเดิน ให้เป็นอย่างดี....
ของแถมที่ได้จากสนามบินค่ะ พี่ลิฟท์ สุดหล่อ( แต่ไม่ได้มานะคะ)
ดีมากนะอุ๋ย สรุปประสบการณ์การอบรมครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี อ่านดูก็รู้แล้วว่าอุ๋ยไปอบรมครั้งนี้ด้วยความเอาใจใส่มาก เอามาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่นะ
น่าสนใจ ทดลองทำนะอุ๋ย อุ๋ยสนใจจะทำวิจัยที่ศูนย์สุขภาพเมืองบ้างมั้ยเอ่ย พี่จะได้เรียนรู้ด้วยคน ถูกใจของแถมจัง
นับเป็นโอกาสดีนะอุ๋ยที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มเติมอยู่เสมอ และจะเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าต่อไปในอนาคตนะ ยิ่งเรียนรู้และลงมือปฏิบัติด้วยต่อไปเราจะเป็นผู้รู้ในทุกเรื่องเลยทีเดียวจ้ะ
สิ่งดีๆใหม่ๆที่อุ๋ยได้รับตั้งแต่เริ่มมาจนถึงปัจจุบันทุกอย่างเกิดจากการได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าและพี่โต้ง,พี่น้อย อุ๋ยจะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะเ ต็มกำลังและความสามารถที่มีอยู่ (อันพอสมควรค่ะ)
ปีนี้พี่ติดไปสุราษฎ์ เลยอดไป
ปีหน้าพี่อ้อจอง(พี่ลิฟท์) เฮ้ย.. ม่าย ช่าย
ห้ามใครแย่ง ประกาศครั้งที่ 1 (ลงจองผ่าน blog อุ๋ยเป็นพยาน) 555
div#container {width: 900px;}
div#content2 { width: 900px;}
div#sidebar2 { width: ;}
div#subtitle { font-size: medium; color:#F8BFA2;}div#container {width: 900px; background: #ffffff;}
div#sidebar2 {width: 720px; background-image:url("http://i153.photobucket.com/albums/s214/nbee_bg/Nbee/NB34.jpg"); border: 0px solid #ffffff;}
div#content2 {background: #ffffff; width:720px; background-image:url("http://i153.photobucket.com/albums/s214/nbee_bg/Nbee/NB34.jpg");border/: 0px solid #ffffff;}body{ background: #F8BFA2; background-image: url("http://s110.photobucket.com/albums/n109/mrslin/background/top/sa7.gif");background-repeat/: repeat;}
div#title{padding: 0px 10px 0px; font-size: Extra large; color:#F11625; background:#ffffff;background-image:url("http://www.bloggang.com/data/destiny/picture/1149001571.gif"); background-repeat:no-repeat; background-position:center center; height:200px;
div#title span {display:none;}
งานวิจัยคงไม่ยากอีกแล้ว ยิ่งเรียนยิ่งรู้ ยิ่งทำมากเก่งมากขึ้นเรื่อยๆๆ