ชื่อผลงาน
การพัฒนาทักษะการร้องเพลงและการร้องโน้ตสากลโดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดของโคดาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551
ชื่อผู้วิจัย
นายนุรักษ์ สิงห์ศิลป์ ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ สาขาดนตรีสากล
โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ สพท.ศรีสะเกษ เขต 3
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งคือ เพื่อพัฒนาทักษะในการร้องเพลงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 เพื่อพัฒนาทักษะในการร้องโน้ตสากลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 255 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้วิธีสอนตามแนวคิดของโคดายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 วิธีการดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีการทดสอบก่อนและหลังเรียน ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 จำนวน 26 คน กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 จำนวน 24 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) การกำหนดจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดเล็กใช้สูตรของเครชซี่และมอร์แกน(Krejice & Morgan)เครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกพัฒนาทักษะการร้องเพลงและร้องโน้ตสากลตามแนวคิดของโคดาย วิธีสอนร้องและอ่านโน้ตสากลตามแนวคิดของโคดาย แบบทดสอบก่อนและหลังเรียนวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสาระดนตรี จำนวน เนื้อหา ดังนี้ คือ KEY SIGNATURE, PITCH, TIME SIGNATURE, NOTE, REST , การเปรียบเทียบสัญลักษณ์แบบโคดายกับสัญลักษณ์ดนตรีสากล และเครื่องหมายหรือคำสั่งทางดนตรีที่พบในบทเพลง แบบทดสอบความสามารถด้านการร้องเพลง และร้องโน้ต ใช้โน้ตเพลงสากลที่นักเรียนได้เรียนรู้แล้ว จำนวน 10 เพลง ได้แก่ เพลง ติ๊ดชึ่ง, เพลงกรุ๊กกรู, เพลงแจวเรือ, เพลงเจ้าวัวกระทิง, เพลง สระภาษาอังกฤษ, เพลงพบกันใหม่, เพลง สระไอไม้มลาย , เพลงกบ เพลงจากโมสาร์ท เพลงสรรเสริญพระบารมี การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ มี 3 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 วิเคราะห์ผลการพัฒนาทักษะในการร้องเพลงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 ใช้วิธีการทดสอบปฏิบัติจริงโดยใช้โน้ตเพลงทั้ง 10 เพลงที่นักเรียนศึกษาแล้วแล้วนำคะแนนมาวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าร้อยละและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเปรียบเทียบก่อนและหลังใช้วิธีสอนตามแนวคิดของโคดาย ตอนที่ 2 วิเคราะห์ผลการพัฒนาทักษะในการร้องโน้ตสากลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 ใช้วิธีการทดสอบปฏิบัติจริงโดยใช้โน้ตเพลงทั้ง 10 เพลงที่นักเรียนศึกษาแล้วแล้วนำคะแนนมาวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าร้อยละและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเปรียบเทียบก่อนและหลังใช้วิธีสอนตามแนวคิดของโคดาย และ ตอนที่ 3 วิเคราะห์ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้วิธีสอนตามแนวคิดของโคดายโดยใช้แบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือกจำนวน 10 ชุด ๆ ละ 10 ข้อ รวมข้อสอบทั้งสิ้น 100 ข้อ ทดสอบก่อนและหลังใช้วิธีสอนทุกแผนการสอน แล้วนำคะแนนมาวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าความน่าเชื่อถือทางสถิติที่นัยสำคัญ .01 โดยใช้ค่า t-test, ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย จากการวิจัยในครั้งนี้พบว่า ผลการพัฒนาทักษะในการร้องเพลงของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 ปรากฏว่า นักเรียนสามารถร้องเพลงได้ถูกต้องตามจังหวะทำนองและคำสั่งทางดนตรี ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ที่ยอมรับ(ร้อยละ 60) โดยเฉลี่ย 20.6 คน คิดเป็นร้อยละ 85.83 ไม่ผ่านเกณฑ์ โดยเฉลี่ย 3.4 คน คิดเป็นร้อยละ 14.15 ผลการพัฒนาทักษะในการร้องโน้ตสากลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 ปรากฏว่า นักเรียนสามารถร้องโน้ตสากล ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ที่ยอมรับ(ร้อยละ 60) โดยเฉลี่ย 19.40 คน คิดเป็นร้อยละ 80.83 ไม่ผ่านเกณฑ์ โดยเฉลี่ย 4.6 คน คิดเป็นร้อยละ 19.16 และผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้วิธีสอนตามแนวคิดของโคดายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2551 ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์หลังใช้วิธีสอนตามแนวคิดของโคดายสูงกว่าก่อนสอนทุกแผนการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ไม่มีความเห็น