Nan & Ball Chongbunwatana
นายและนาง คมกฤชและประณยา จองบุญวัฒนา

22:การทำบุญเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนในปี 2505 (ในครั้งนั้น บังกลาเทศยังเป็นปากีสถานตะวันออกซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศปากีสถาน) และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เคยเสด็จเยือน ในปี 2535

เคยมีคนสอบถามผ่านทาง Go2Know ว่า อยู่ที่บังกลาเทศ มีโอกาสได้ทำบุญบ่อยหรือไม่ แณณจึงมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังกันค่ะ

ประมาณ 3 ทุ่มของวันที่ 20 มีนาคม 2551 แณณได้รับการแจ้งเกี่ยวกับการไปทำบุญที่วัดในครั้งนี้จากสามี จึงรีบกระหืดกระหอบออกไปหาซื้อข้าวของที่พอจะนำมาทำอาหารถวายพระได้ แต่บรรดาตลาด ร้านรวงต่างๆ ได้พากันปิดไปแล้วตั้งแต่เวลา 2 ทุ่ม ถึงกระนั้นเราก็พยายามขับรถตระเวนหาร้านเล็กๆ เพื่อหวังว่าจะได้อะไรไปทำถวายพระ ในที่สุดก็พบร้านเล็กๆ ร้านหนึ่งซึ่งจะว่าไปก็ถือว่าปิดร้านไปแล้ว เพราะมีพลาสติกมาคลุมหน้าร้านและดับไฟเกือบหมด เราก็วิ่งเข้าไปขอน้องบัง ที่ยืนอยู่หน้าร้านว่า ขายอะไร ขอซื้อของหน่อยได้ไหม จะเอาไปทำบุญในวันพรุ่งนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ น้องบังฯ ก็รีบเปิดไฟ เปิดหน้าร้าน พร้อมขายเต็มที่ เราจึงโชคดีได้แอปเปิ้ลมา 3 กิโลกรัม กลับมาก็รีบนำไปแช่น้ำเกลือ เพื่อเวลาปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นๆ พอคำเตรียมถวายพระแล้ว แอปเปิ้ลจะได้ไม่เป็นสีดำ

                                         

พระบรมฉายาลักษณ์ และพระฉายาลักษณ์ อาจจะไม่ค่อยชัด เนื่องจากถ่ายมาจากกรอบรูปที่เป็นกระจก จึงค่อนข้างจะมีแสงสะท้อนค่ะ 

เช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2551 เอกอัครราชทูต ณ กรุงธากาและภริยา พร้อมด้วย ข้าราชการ ลูกจ้างสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา สำนักงานส่งเสริมการค้าไทย ณ กรุงธากา พนักงานบริษัทการบินไทย พร้อมทั้งชุมชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ ณ กรุงธากา ประมาณ 60 กว่าคน ร่วมใจกันถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ณ วัดพุทธธรรมาราชิกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ตอนที่พวกเราเดินทางไปถึงที่วัดนั้น เด็กกำพร้าที่ทางวัดอุปถัมภ์ไว้ ได้มาตั้งแถวรอต้อนรับกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ตลอดทางที่พวกเราเดินเข้าไปภายในวัดจะได้ยินเสียงเด็กๆ ปรบมือต้อนรับ รวมทั้งมีพระและเณรมารอต้อนรับคณะของเรากันมากมาย

                                             

บอลตรวจตรากระสอบข้าวสารก่อนถวายแด่พระสงฆ์    แอปเปิ้ลที่แช่น้ำเกลือมาทั้งคืน ปอกเปลือกแล้ว ไม่ดำค่ะ   

วัดพุทธธรรมาราชิกา แห่งนี้ แณณเคยได้เกริ่นให้ทราบในบันทึกฉบับก่อนๆ แล้วว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนในปี 2505 (ในครั้งนั้น บังกลาเทศยังเป็นปากีสถานตะวันออกซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศปากีสถาน) และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เคยเสด็จเยือน ในปี 2535 วัดแห่งนี้ เริ่มให้การอุปการะเด็กกำพร้าที่อยู่ ณ กรุงธากาและบริเวณใกล้เคียงมาตั้งแต่ปี 2515 ปัจจุบันมีจำนวนเด็กกำพร้าที่ทางวัดอุปถัมภ์อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 500 กว่าคน

                                                       

รูปซ้ายล่างแณณได้ถ่ายภาพกับบรรดาแม่ครัวฝีมือดีของไทย พี่ที่ใส่เสื้อเหลืองเป็นผู้ที่เคยฝากส้มตำและปลาทูมาให้ทานค่ะ

       รูปขวาล่าง บอล(สามี) กำลังขอยืมรูปภาพของพระราชวงศ์ไทย ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนวัดแห่งนี้ในอดีต

แต่เดิม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา มีกำหนดการนำข้าวสารจำนวน 3.26 ตัน ถวายให้แด่พระอาจารย์สุทธนันทา มหาเถโร เจ้าอาวาสวัดพุทธธรรมาราชิกา เพื่อบริจาคแด่พระสงฆ์และเด็กกำพร้าอยู่แล้ว ดังนั้นการมาในครั้งนี้ จึงได้ทำบุญหลายประการ เมื่อไปถึงที่วัด ข้าราชการ ลูกจ้าง ของหน่วยงานไทย และชุมชนชาวไทย ณ กรุงธากา ก็ได้ร่วมกันบริจาคเงินสดเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวน 16,300 ตากา และ 150 เหรียญสหรัฐ เพื่อทำบุญให้แก่วัด

การบริจาคและทำบุญที่วัดฯ ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความปราถนาดีของรัฐบาลไทยต่อประชาชนชาวบังกลาเทศ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความสามัคคีของชุมชนชาวไทยในบังกลาเทศที่สามารถมีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ให้แก่ชุมชนและสังคมท้องถิ่นที่เป็นที่อยู่อาศัย อีกด้วย

การไปวัด ครั้งนี้ นอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ยังได้ทำงานอีกด้วยค่ะ สามีแณณซึ่งดูแลงานด้านศาสนาและวัฒนธรรม ก็ได้ไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนวัดธรรมาราชิกาของพระราชวงศ์ไทย สิ่งที่เราประทับใจก็คือทางวัดได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนวัดพุทธธรรมาราชิกา ในปี 2505 พร้อมทั้ง พระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อครั้งเสด็จเยือนวัดแห่งนี้ ในปี 2535 มาประดับไว้บนกำแพงสูงเหนือศีรษะบริเวณด้านหน้าอุโบสถของวัด

แณณ บอกสามีว่า หากเราสามารถขอทำสำเนาฟิล์มของภาพประวัติศาสตร์เหล่าไว้เป็นสมบัติของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ก็ย่อมจะเป็นการสะดวกในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้สำหรับเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ต่อไปในอนาคต ทางวัดแจ้งว่าฟิล์มหายไปนานแล้ว จะมีก็แต่ภาพที่เป็นต้นฉบับเท่านั้น เราจึงขอยืมภาพต้นฉบับจากทางวัดเพื่อไปทำฟิล์ม แทนค่ะ

ประณยา จองบุญวัฒนา

26 มีนาคม 2551

หมายเลขบันทึก: 173134เขียนเมื่อ 26 มีนาคม 2008 12:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะคุณแณณและคุณบอล

วัดนี้อุปถัมภ์เด็กตั้ง 500 กว่าคน น่าชื่นชมมากเลยค่ะ ดีใจที่คุณแณณและคุณบอลได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดไทย อยากจะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์จังเลยค่ะ ตั้งแต่ปี 05 แน่ะ แถมทำให้ได้รู้ประวัติบังคลาเทศไปในตัวด้วยค่ะ

P  สวัสดีค่ะ คุณ a l i n l u x a n a

  • ได้เลยค่ะ แณณจัดให้นะคะ ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์เพิ่มไว้ในบันทึกแล้วนะคะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

P      สวัสดีค่ะ พี่นุช คุณนายดอกเตอร์

  • ขอบพระคุณพี่นุชมากค่ะ
  • เห็นพระเทพฯเสด็จวันก่อน
  • คิดถึงคุณแณณและคุณบอล
  • กลัวคิดถึงเมืองไทย
  • เลยเอามาฝาก
  • ที่นี่ครับ

แณณ/บอล

เป็นกิจกรรมที่ดี ที่สำคัญเป้นการสร้างความสามัคคีให้กับหมู่คณะด้วย

การทำบุญทำให้ใจสุขสงบ อยู่ที่ไหนก็ทำได้

ขออนุโมทนาบุญด้วย

การสืบค้นประวัติศาสตร์เป้นหน้าที่หนึ่งของนักการทูตที่อยู่ในต่างประเทศ

ขอชื่นชมและรอที่จะอ่านประวัติที่น่าสนใจนี้นะ

ด้วยความปรารถนาดี

P สวัสดีค่ะ พี่พลเดช

 

  • สภาพแวดล้อมภายในวัดพุทธธรรมมาราชิกาคล้ายกับวัดไทยด้วยค่ะ
  • ตั้งแต่มาที่นี่แณณไม่ค่อยเห็นมีสุนัข ตามท้องถนนเลยนะคะ แต่พอไปวัด เห็นวิ่งเล่นกับเด็กๆ อยู่ข้างบ่อน้ำกลางวัด อยู่ 1 ตัว ถ่ายรูปมาด้วยค่ะ :)
  • จึงรู้สึกว่า อืม...นี่แหละวัด มีทั้งพระ เณร เด็ก คนแก่ และสุนัข อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

 

P  คุณขจิต

  • ขอบคุณสำหรับของฝากนะคะ แวะไปเยี่ยมมาแล้วค่ะ
  • เรื่องคิดถึงเมืองไทย บ้านเกิดเมืองนอนของเรานั้น ก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดานะคะ แต่ก่อนมีแต่เพื่อนแขก ที่เป็นนักเรียนร่วมชั้นเรียนฝรั่งเศส ค่ะ
  • แต่พักหลังนี่ ได้ไปวัด ได้พบคนไทยบ่อยขึ้นแล้ว ค่ะ  

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท