จากซางคำถึงหมาน้อย (20)


เมื่อหมอบอกว่าแม่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

หมาน้อยเพื่อนรัก...

         ขอโทษด้วยนะจ๊ะที่หายเงียบไปนาน...อยากจะเล่าให้นายฟังจังเลยว่าเราหายเงียบไปไหน..นายจำได้ไหม ตอนปี 2547  ที่เราเคยเล่าให้ฟังว่าแม่เรามีก้อนโตที่คอ ถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็น..แต่เราเคยพาแม่ไปโรงพยาบาลแล้วหมอทำ Fine nodular aspiration  หมอเขาบอกว่า.. " สงสัยแม่ของคุณจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเเหลือง หมอคงจะต้องผ่าตัดเอาก้อนที่คอออกหมดเลย " ตอนนั้นอายุแม่เรา 77 ปี น้ำหนัก 27 กิโลกรัม เราคิดหนักมากเลยว่าจะให้แม่ผ่าตัดดีไหม ผ่าตัดแล้วแม่จะเป็นอย่างไร เราไปปรึกษาหมอที่เรารู้จักทุกคน หาตำรามาอ่านถึงพยาธิสภาพของโรค  จนสุดท้ายเราตัดสินใจจะให้แม่ผ่าตัด พอกลับจากโรงพยาบาล สภาพที่เห็นคือแม่แอบไปนั่งร้องไห้อยู่ในห้องครัว.. แม่เราไม่อยากทำ..แม่บอกเราว่า "  แม่แก่แล้ว อยู่ไปไม่กี่ปีก็ต้องตาย ตอนนี้แม่ก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไรเลย ให้แม่อยู่อย่างนี้ดีกว่านะ อย่าผ่าตัดเลย " สุดท้ายเมื่อเป็นความประสงค์ของแม่เราก็ไม่ขัดข้อง แม่อยู่อย่างมีความสุขกับลูกหลานมาอีก 3 ปี  ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2550  พี่สาวโทรศัพท์มาบอกว่าแม่เป็นงูสวัดที่แขน เราก็เลยบอกให้พาแม่ไปหาหมอ ก็รักษาตามอาการ..จนแผลงูสวัดหาย หลังจากนั้นอีกประมาณ 3 อาทิตย์ ก้อนที่คอแม่ก็เริ่มโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งแม่หายใจไม่ออก เพราะก้อนที่คอไปกดทับหลอดลม...มาตอนหลังเลยรู้ว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลืองสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส   ที่บ้านต้องรีบพาแม่ส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล... หมอโมโหมากเลยเมื่อดูประวัติ..ทำไมไม่มารักษาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทำไมหายไปเฉยๆ.. จริงๆแล้วเราก็เคยพาแม่กลับไปโรงพยาบาล 2 ครั้งแต่ผลที่ตอบกลับมา หมอไม่สามารถให้การรักษาด้วยยาใดๆได้ ต้องผ่าตัดอย่างเดียวเท่านั้น ลูกอย่างเราทำอะไรไม่ได้เพราะ  เจ้าของชีวิตเขาไม่ต้องการทำ

       หมอตัดสินใจจะเจาะคอเพื่อช่วยชีวิตคนไข้ไว้.. เราถามแม่ว่าจะทำไหม...ด้วยความทุกข์ทรมาณที่หายใจไม่ได้ เหมือนคนโดนบีบจมูก  แม่ตกลงใจด้วยตัวเองว่า " ยินดีเจาะคอ "  แสดงว่าคนเราเมื่อถึงนาทีคับขัน จะต้องเอาชีวิตรอดไว้ก่อน ตอนที่แม่เข้าห้องผ่าตัดเราได้แต่ภาวนาว่าขอให้แม่ปลอดภัย แม่ออกจากห้องผ่าตัดด้วยสายยางสำหรับ Feed อาหาร และใส่ tube ที่คอ พวกเราลูกๆเรียนรู้วิธี Feed อาหาร และการถอด tube ออกมาล้างจาก VCD และเรียนรู้จากพยาบาล  แรกๆก็ทำอย่างไม่ชำนาญ มีอยู่คืนหนึ่งพี่สาวจะถอดเอา tube มาทำความสะอาดแล้วถอดไม่ได้ จนต้องพาแม่ไปโรงพยาบาลกลางดึก  เดี๋ยวนี้พี่สาวเราทำอย่างชำนาญ นี่แหละมั๊งที่เขาบอกว่า.. ความชำนาญจะเกิดขึ้น ต้องฝึกหัดทำบ่อยๆ

       ตอนนี้แม่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดไป 3 ครั้งแล้ว แต่ละครั้งหลังจากได้รับยาแล้วแม่ต้องไปฉีดยากระตุ้นอีก 7 วัน และฉีดยาทุกวันอังคารอีก 3 เข็ม ก่อนให้ยาต้องเจาะเลือดตรวจดูปริมาณเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงก่อน และดูการทำงานของตับด้วยทุกครั้ง  บางครั้งแม่โดนเจาะเลือด 3 ครั้งเพราะเส้นเลือดคนแก่จะแข็ง เจาะเข้าไปแล้วจะดูดเลือดไม่ได้  สิ่งที่เห็นคือน้ำตาของคนแก่ .... ฉีดยาก็จะฉีดทั้งแขน สะโพก ไม่งั้นก็หน้าท้อง  นี่เป็นสิ่งที่คนที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะได้เจอ... อาการข้างเคียงของยา .. ผมร่วง เบื่ออาหาร ท้องผูก ปวดท้อง.. ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากเจอ

       เมื่อวานนี้พี่สาวพาแม่ส่งห้องฉุกเฉินประมาณเกือบ 1 ทุ่มจากสาเหตุสำลักข้าว... ตอนนี้แม่อยู่โรงพยาบาลเพราะพรุ่งนี้เป็นวันที่แม่จะได้รับยา dose ที่ 4   สิ่งที่เราต้องการบอกนายก็คือว่า คนทุกคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ คงต้องเจออะไรแน่ๆ   ยี่งตอนนี้โรคมะเร็งกำลังฮิตในทุกกลุ่มอายุ โดยมีปัจจัยต่างๆที่เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งในคนเราได้  เพราะฉะนั้นจงดูแลสุขภาพของตัวเอง จงอย่าประมาทต่อการกิน  กินอะไรก็ได้สิ่งนั้น ที่สำคัญอย่าลืมการออกกำลังกาย และอย่าลืมดูแลสุขภาพจิตของตนเอง  พักผ่อนให้เพียงพอ.. เราเองก็จะทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุดเท่าที่ลูกคนหนึ่งจะทำให้ได้กับผู้ให้กำเนิด..... อ้อ! ลืมบอกนายไปตอนนี้ก้อนที่คอของแม่เรายุบแทบจะมองไม่เห็นแล้ว ... และที่สำคัญ แม่มีกำลังใจดีมากด้วย ตั้งแต่พ่อซึ่งอายุเท่ากันคือ 80 ปีช่วยดูแล ตื่นเช้ามาคุยกับแม่ ต้มน้ำร้อน ชงอาหารเสริมให้ และมีลูกๆโดยเฉพาะพี่ๆของเรา เฝ้าไข้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยแหละ มีก็แต่เราที่อยู่ไกล โทรศัพท์ไปถามข่าวคราวทุกวัน  แต่สงกรานต์นี้เราก็จะไปดูแลแม่ และบอกแม่ว่า ... เรารักแม่ที่สุดในโลก .....พอแค่นี้ก่อนนะ..  ด้วยรัก ...ซางคำ

หมายเลขบันทึก: 172748เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2008 18:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท