สร้าง "สุข" มาป้องกัน "ทุกข์"


ความสุข

ช่วงนี้ อากาศร้อนมาก จะหยิบหนังสือของวินทร์ เลียววาริณ มาอ่าน ชื่อเรื่อง ความฝันโง่ๆ เป็นความเรียงเชิงจิตวิทยาชีวิต เป็นอันต้องเก็บไว้ก่อน ต้องออกมานั่งนอกบ้าน ดื่มน้ำเย็นๆ ดับความกระหายเสียหน่อย หยิบหนังสือพิมพ์มติชนวันอาทิตย์ ขึ้นมาอ่านคอลัมม์ แท็งก์ความคิด ของคุณนฤตย์  เสกธีระ 
สร้าง "สุข" มาป้องกัน "ทุกข์" คนเขียน พยามยามบอกเรา ทุกวันนี้พวกเราหลายคนต้องตื่นขึ้นมาด้วยความหดหู่ หันไปทางไหนก็มีแต่คนบ่นเรื่องแย่ๆ ให้ฟัง เปิดโทรทัศน์ตอนเช้า ก็พบว่าราคาน้ำมันสูงขึ้นเกิน 100 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล ทองราคาโด่งไปกว่าหมื่น ราคาหมู ราคาสินค้า ทยอยกันขอขึ้นราคากันเพียบ เข้าวงสนทนาก็มีแต่เรื่องค่าใช้จ่ายกับรายได้ที่ไม่สมดุลกัน

แต่พอผมมาฟังนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช พูดตอนเช้าวันอาทิตย์ที่ tv ช่อง 11 มีอยู่ช่วงหนึ่ง นายกสมัคร พูดไว้ตอนไปเยือนประเทศสิงคโปร์  ว่า รายรับของคนสิงคโปร์สูงกว่ารายจ่าย ผิดกับประเทศไทยเรา รายจ่ายมากกว่ารายรับ ผมพยายามใคร่ครวญ การที่นายกเอามาตราฐานของสองประเทศมาเปรียบเทียบนั้น ท่านคงจะปรารถนาให้ชีวิตความเป็นอยูของคนในชาติมีความอยู่ดีกินดีมากขึ้น คนไทยมีความสุข หากเราต้องมองโลกเชิงบวกด้วย คงจะดีไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม คุณคุณนฤตย์  เสกธีระ ยังบอกว่า ทุกอย่างล้วนแต่เกิดขึ้นจากตัวเราเองทั้งนั้น คนที่จะมีความสุขได้ เขาและเธอเหล่านั้นต้องเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี คนที่จะกรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ได้เขาต้องเห็นใจผู้อื่น คนที่จะมีความฝันในใจได้ เขาต้องมีความหวัง คนที่จะมีความรัก มีความเข้าใจ และความอบอุ่นได้ ต้องเป็นคนที่อยู่ในช่วงของการมองโลกในแง่ดี ที่ทำให้คนเรามีความสุข

ดังนั้น การมองโลกในแง่ดีก็คือ การปรุงแต่งแต่สิ่งดีๆ และสร้างสรรค์ให้กับชีวิต

การมองในสิ่งสร้างสรรค์ ก็คือ การสร้างความฝันเล็กๆ ให้ตัวเอง การกำหนดเป้าหมายในชีวิต การมองคนอื่นอย่างเข้าใจ เกิดความรัก ความกรุณาต่อมนุษย์ร่วมโลก

คุณสมบัติเหล่านี้ล้วนแต่เกิดขึ้นได้จากตัวเราเองครับ ถือเป็นปัจัยภายในที่เราควบคุมเองได้

ดังนั้น แม้ว่า เมื่อเราตื่นขึ้น เราจะพบกับข่าวร้าย หรือเมื่อเข้าวงเสวนา เราจะได้ยินแต่เรื่องแย่ๆ

แต่สังเกตไหมว่า สิ่งแย่ๆ ที่ว่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจัจัยภายนอก

ถ้าปิดหูปิดตาเสีย เราไม่ต้องรับฟังเรื่องร้ายๆ เราก็สามารถป้องกันสิ่งที่จะทำให้เราเป็นทุกข์ได้ แต่ใครเล่า จะดำรงชีวิตด้วยการปิดหูปิดตาตัวเองอยู่ร่ำไป เพราะธรรมชาติของคน คือการเปิดรับสิ่งต่างๆ ในโลกด้วยความอยากรู้

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันสิ่งร้ายๆ จากภายนอก ก็คือการสร้างความเข็มแข็งจากภายใน

ในเมื่อความทุกข์คือสิ่งร้ายๆ จากภายนอก เราก็สร้างความสุขขึ้นจากภายใน

การปรุงแต่งจิตให้สร้างสรรค์ มองโลกในแง่ดีนี่แหละ คือวิธีหนึ่งที่สามารถสร้างความสุขขึ้นมาได้ ส่วนใคร ผู้ใด จะปรุงแต่งจิตใจของตัวเองด้วยวิธีการเยี่ยงไร จะเป็นการตั้งความหวัง ความฝัน หรือช่วยเหลือกผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือการให้ความรัก ความเข้าใจแก่ผู้อื่น ก็สุดแล้วแต่นะครับ

เพียงขอให้ผลสุดท้ายที่ออกมาคือความสุขของทุกคนก็พอใจแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #หนังสือ
หมายเลขบันทึก: 172559เขียนเมื่อ 23 มีนาคม 2008 19:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีคะ เห็นด้วยจริงๆ คะ กับประโยค "ทางที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันสิ่งร้ายๆ จากภายนอก ก็คือการสร้างความเข็มแข็งจากภายใน" คะ

หากมีจิตใจเข้มแข็ง อะไรๆ ก็มาทำลายยากคะ :)

สว้สดีครับอาจารย์

สบายดีหรือเปล่าครับ

ทำอะไรที่เรามีความสุขแต่ไม่เดือดร้อนใครก็พอแล้วครับ

สวัสดีครับ คุณมะปรางเปรี้ยว

ชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง ครับ อย่างไรก็ตาม ทางยังเป็นของเราอยู่ ครับ

สวัสดีครับ อ.ขจร

สบายดีครับ แต่ไม่สะดวกที่ประสบอุบัติเหตุ ข้อทือซ้ายต้องพักรักษาตัวยาวครับ ใช้มือขวาเขียนถึงอาจารย์ครับ

  • พยายามปิดหูปิดตาตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะแต่ไม่สำเร็จ
  • ความทุกข์ส่วนใหญ่มาจากการกระทำของคนอื่นบวกการเปิดรับของเรานะคะ
  • ตอนนี้อยากอยู่คนเดียวในโลกจังเผื่อว่าทุกข์จะน้อยลง

สวัสดีครับ

  • อาจจะจริงนะครับ  เห็นด้วย
  • ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์   จริงไหมเอ่ย !!
  • เมื่อไหร่อาจารย์จะแต่งงานครับ   หลายคนอยากรู้?
  • Have a good night
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท