ความเหมือน...ที่แตกต่าง


ในสังคมไทยยังมีความแตกต่างกันมาก คนจน คนรวย คนมีรายได้สูง คนมีรายได้ต่ำ เด็กด้อยโอกาส เด็กมีโอกาส แล้วใครจะช่วยให้เกิดความสมดุลย์

เมื่อวาน...วันที่ 21 มีนาคม 2551 ช่วงเช้า ได้มีโอกาสเรียนรู้โครงการของมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม โดยการฟังบรรยายและการดู VDO  เรื่องราวของเด็กและโครงการที่จัดตั้ง คือ โครงการเด็กดีสร้างได้ เพราะเชื่อว่าเด็กนั้นสามารถสร้างให้เป็นคนดีได้เสมอ  เป็นการจัดค่ายประมาณ 3 วัน โดยนำเด็กในชุมชนสลัมคลองเตยที่เคยอยู่ในมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมช่วงอายุไม่เกิน 5 ปี แล้วติดต่อต่อไปเมื่อเด็กอายุ 12-18 ปี ว่าเด็กเป็นอย่างไรบ้าง พบว่า ในสังคมและสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยให้เด็กได้มีพัฒนาการที่ดีเลย โดยจากการสัมภาษณ์เด็ก เด็กบางคนเคยเล่นไพ่ตั้งแต่อายุ 10 ปี บางคนเล่นไฮโล ซึ่งผู้ใหญ่บางคนยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ บางคนก็ค้ายาเสพติดโดยไม่รู้ว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมายนับว่าเป็นการเสียโอกาสในการพัฒนาเยาวชนของชาติอย่างมาก แต่ยังดีที่มีหน่วยงานที่มาช่วยเหลือและจัดการอย่างเป็นระบบ

ช่วงบ่าย ได้มีโอกาสฟังผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับบุคคลเร่ร่อน ทำงานร่วมกับคนแถวสนามหลวง ไม่น่าเชื่อว่าจะมีครอบครัวที่เป็นคนเร่ร่อนอยู่แถวสนามหลาวงประมาณ 30-40 ครอบครัว และมีคนประมาณ 400-500 คน แต่พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้อยู่ประจำ ตอนกลางวันเราอาจจะไม่เห็นพวกเขาเพราะก็ต้องไปทำงานหาเงินเหมือนกัน คนพวกนี้บางคนก็เป็นคนที่ไม่มีบัตรประชาชน เนื่องจากบางครั้งหายก็ไม่มีโอกาสไปทำใหม่ หรือก็ไปทำใหม่ก็ยาก เพราะเจ้าหน้าที่ก็อาจจะคิดว่าไม่ใช่คนไทย ถ้าจำเลข 13 ตัวของตนเองไม่ได้ก็ยากมากที่จะได้ ดังนั้น เลขบัตรประชาชนนั้นสำคัญ เราควรจำไว้ก็ดี แม้ว่าจะไม่มีโอกาสเป็นคนเร่ร่อนก็ตาม ถามว่าคนเร่ร่อนมาจากไหน?? บางคนก็เป็นคนต่างจังหวัดที่หวังจะมาทำงานในกรุงเทพ แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่คาดหวัง เมื่อชีวิตสิ้นหวัง ไม่อยากกลับบ้าน แต่ก็ไม่มีทางที่จะอยู่ที่จะทำงาน เพราะไม่มีความรู้ ขาดโอกาส ก็จำต้องเป็นคนเร่ร่อน แต่ที่น่าเศร้าคือ ในกลุ่มชุมชนเร่ร่อนที่ทางมูลนิธินี้พยายามทำคือ การส่งคนเร่ร่อนกลับบ้าน เพราะส่วนหนึ่งในนั้นยังมีเด็กและเยาวชนจำนวนมาก เมื่อเกิดมาเด็กบางคนก็ไม่ได้รับการแจ้งเกิด กลายเป็นคนไร้สัญชาติโดยไม่รู้ตัว หรือบางคนคลอดในโรงพยาบาล แต่เมื่อโตขึ้นก็ขาดโอกาสในการเรียนหนังสือ อ่านเขียน ไม่ได้ และเด็กเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะไปกระทำผิดในสังคม เช่น ลักขโมย ติดยา ซึ่งนับว่าเป็นการสูญสิ้นซึ่งเยาวชนที่จะพัฒนาประเทศต่อไปอย่างมาก

จะเห็นได้ว่า ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ยังดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมและโลกใบเดียวกันนี้ แต่เป็นมุมมองที่แตกต่าง ถามว่า รัฐ ทำอะไรได้บ้าง???

ไม่มีคำตอบ เพราะงบประมาณ และการแก้ปัญหาไม่เคยไปถึงเด็ก มูลนิธิต้องหาเงินเอง ประหยัดเงินของตนเอง เมื่อสังคมไม่มีใครพูดถึงเด็ก ข่าวที่ออกแต่ละวัน ไม่มีข่าวเด็ก แล้วข่าวเด็กหายไปไหน มีแต่ข่าวเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน ราคาทอง สโมสรฟุตบอล นักการเมืองที่แย่ ๆ ที่พยายามสร้างภาพเป็นคนดี...เพื่อให้คนให้อภัยและลืมสิ่งที่ไม่ดีนั้น...แล้วเมื่อไหร่ประเทศชาติจะเจริญ

เด็กในอนาคตทุกวันนี้ ถ้าจะแบ่งครึ่งแล้ว ระหว่างเด็กได้โอกาส กับเด็กด้อยโอกาส สัดส่วนไหนจะมากกว่ากัน

แล้วผู้ใหญ่ในวันนี้หายใจไปทำอะไร....แค่หายใจเข้าและหายใจออกเท่านั้นหรือเปล่า???

หมายเลขบันทึก: 172365เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2008 19:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2014 01:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เป็นเรื่องที่แก้ไขยาก คงต้องสร้างครอบครัวให้เข้มแข็งเพราะเป้นรากฐานที่สำคัญค่ะ

ขอบคุณ berger0123 และ สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน ที่มาแสดงความคิดเห็นค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท