เขียนโปรแกรมเป็นงานศิลปะ เป็นไปได้ครับ
เป็นศิลปะ เพราะในการเขียนโปรแกรมมีความงามแฝงอยู่
ลองมาดูนะครับ ว่าทำไม
1. เพราะการเขียนโปรแกรม ต้องการการที่ว่างของรูปแบบการเรียงข้อความ
ลองย่อภาพหน้าจอที่กำลังเขียนโปรแกรมลงสิครับ เป็นเหมือนการประกอบวางก้อนอิฐ ซ้อนเป็นรูปร่างต่าง ๆ ลอยบนแผ่นที่ว่างเปล่าของหน้าจอ
เขียนโปรแกรมยาว ๆ ใครไม่มีเว้นบรรทัด ไม่มีย่อหน้า จัดแนวข้อความให้สวยงามเป็นระเบียบ เวลาเกิดที่ผิดขึ้นมา หาไม่เจอหรอกครับว่าผิดตรงไหน
2. การเขียนโปรแกรม เป็นเหมือนการร่ายโศลก เหมือนการร่ายบทกวี เหมือนการเขียนเรียงความ
ศิลปะในการเขียนโปรแกรมไม่ให้สะดุด คือ ตั้งชื่อกระบวนการ ตั้งชื่อตัวแปร ให้สื่อความ กระชับ ตรงประเด็น ไม่มีชื่อที่ชวนให้สับสน
ใครตั้งชื่อไม่ชัด ก็จะคิดไม่ชัด คิดไม่ชัด ก็หลงทางในเขาวงกตแห่งการคิดของตัวเอง เหมือนลูกหมาตัวน้อยวิ่งไล่งับหางตัวเอง ไม่ต่างจากการแต่งโคลงกลอนที่ผู้แต่ง ไม่มีความในใจที่อัดอั้นเต็มอก หรือผู้แต่งที่ไม่รู้จักผูกคำ ให้งามงด
ใครตั้งชื่อชัด การเขียนโปรแกรม ก็คือการพูดในชีวิตประจำวัน เพียงแต่ใช้ไวยากรณ์ของภาษาที่กำลังเขียนโปรแกรมเท่านั้น ภาษาอันงดงาม สามารถพรั่งพรูราวกับไม่ได้อยู่ใต้กฎเกณฑ์ใด
3. เพราะการเขียนโปรแกรม เป็นการตกผลึกของการคิด ที่สร้างระบบมีชีวิตขึ้นมา โง่หรือฉลาด ล้วนสะท้อนตัวตนผู้สร้าง
ศิลปะ...มักหมิ่นเหม่....กับอนาจาร นะครับ........
แฮ่ะๆ...ล้อเล่นนะครับ
แวะมาอ่าค้าบบบ
สวัสดีครับ คุณ กวินทรากร
ผมยังสงสัย...
คิดเชื่อมโยงสร้างสรร ดีแท้นะครับอาจารย์ ...นับถือๆๆ ครับ
สวัสดีครับ
เคยหัดเขียน งูๆ ปลาๆ
ดูๆ เหมือนการนั่งรถเมล์ ต่อจากสายนี้ไปสายโน้น
บางทอดไปได้ แต่นานหน่อย ถ้าคิดเก่ง ต่อไม่กี่สายก็ถึงจุดหมายปลายทาง
อาจารย์คะ
รู้สึกว่า จะมีการพุดถึงการback up บันทึกของเราไว้นะคะ ของอาจารย์ยิ่งมีมากใหญ่ พอดีไปอ่านพบว่า บางบล็อกมีการปิดไปจริงๆและก็มีบล็อกเกอร์เขียนโปรแกรม เอางานของเขาออกมาได้เป็น pdf files ลองอ่านและคลิกดูค่ะ
สวัสดีครับ คุณ กวินทรากร
สวัสดีครับ คุณ ธ.วั ช ชั ย
สวัสดีครับ พี่ Sasinanda
ไปอ่านแล้วนะคะ คือว่า ไม่ได้แช่งอะไร แต่เรื่องนี้ก็เคยเกิดขึ้นเหมือนกันในอเมริกา แต่พอดีเขาทำโปรแกรมมารองรับได้ คนอื่นๆเลยได้ใช้ไปด้วย นี่แสดงว่า คนเขียนบล็อกก็เขียนโปรแกรมเป็นนะคะ ถ้าจำเป็น
พี่เอง สนใจทำหนังสือส่วนตัว เพราะเขียนเรื่องครอบครัวอยู่ที่blogspot.com ดูดออกมาเกลี้ยงดีจัง ทำเพื่ออ่านเองในครอบครัวค่ะ
และมีอยู่หลายคน เขาเขียนในcommentในบันทึกของพี่ว่า เขาเขียนเรื่องเดียว ไม่อยากเขียนเรื่องอื่น เพราะอยากรวมเล่ม เช่นเขียนเรื่อง การเดินป่าในเมืองไทย (คอมเม้นท์ที่บล็อกอื่น ไม่ใช่ที่นี่ พอดี เขียนอีก2-3 ที่ค่ะ) ส่วนใหญ่ ที่เขาเขียน และน่าสนใจ จะเขียนจากประสบการณ์ส่วนตัวจริงๆ ไม่ใช่เขียนเชิงทฤษฎี จึงจะworkที่จะมาทำเป็นเล่ม ต้องดูที่คุณภาพของเนื้อหาเป็นหลัก
การเขียนเชิงหลักการเชิงทฤษฏี ถ้าจะเขียนๆเขียนออกมาเป็นหนังสือเล่มๆเลย จะดีกว่า คือ ถ้าเขียนในบล็อกเป็นตอนๆ ไม่ดีเท่าเขียนออกมาเป็นเล่มทีเดียวเลย
ผมเองไม่เคยมองงานเขียนโปรแกรมเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากงานศิลปะเลยครับ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคำว่า software engineering จะเป็นคำที่ค่อนข้าง outdated ด้วยซ้ำครับ
สวัสดีครับ พี่ Sasinanda
สวัสดีครับ อาจารย์ ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์