การดำเนินงานตามโครงการวิจัยเสวนาภาษาหมอพื้นบ้านและสำรวจป่าสมุนไพร อำเภอทุ่งฝน ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 โดย อ.ดร.อัจฉรา ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้สรุปประเด็นจากการดำเนินการเบื้องต้น ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล ค้นหาองค์ความรู้ ความชำนาญ และให้ลงประวัติคนไข้ (ตามแบบสัมภาษณ์คนไข้) และเรื่องสำรวจป่าสมุนไพร โดยประเด็นการประชุมครั้งนี้เกี่ยวกับผลดีในการรวมกลุ่ม การกำหนดกฎระเบียบของชมรม การพัฒนาองค์ความรู้การพัฒนาชมรมให้ยั่งยืน ว่าควรจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง การถ่ายทอดองค์ความรู้ / ภูมิปัญญาให้แก่ลูกหลาน/เยาวชน ซึ่งหมอพื้นบ้านได้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง และเต็มที่ สุดท้ายมีการสัมภาษณ์เก็บข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่ครบถ้วน
- ในการประชุมครั้งต่อไป ให้ช่วยกันคิดว่าจะทำกิจกรรมอะไร ในเรื่องการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ประชุมเสนอให้มีการอบรมหมอพื้นบ้านรุ่นใหม่ให้แก่ลูกหลานหรือคนสนใจ ซึ่งให้ไปขายความคิดก่อนแล้วประสานเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง ในเรื่องการอ่านเขียนตัวอักษรธรรม เพื่อจะได้อ่านตำรับตำราได้นั้น มีพ่อหนูเขน ภูกิ่งพลอย จะเป็นผู้ถ่ายทอดให้
สวัสดีคะ
อ่านบันทึกเล่าเกี่ยวกับการประชุมแล้วอยากอ่านบันทึกเล่าเรื่องกิจกรรมที่ได้ออกไปอบรมบ้างจังคะ หรือจะเป็นความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรพื้นบ้านก็น่าจะดี เพราะดิฉันชอบอ่าน
ว่าแต่ ดิฉันขอมากไปไหมคะ :)
ไม่มากครับ แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
อันที่ค้างคุณมะปรางเปรี้ยวไว้นะครับ เรื่องที่วางแผนว่าจะไปคุยกับทุ่งฝนนะ จริงๆแล้วผมไม่ได้รอให้เขาร้องขอมาหรอกในการที่จะเข้าไปช่วยทำกลุ่ม คาดหวังว่าจะให้พื้นที่คิดได้เอง อันนี้ผมคิดว่าเป็นบทเรียนหนึ่งที่ว่า เราคงไปเร่งให้เกิดการตกผลึกความคิดว่าจะให้กลุ่มเกิดเร็ว ๆ เกิดตามใจเราคงไปได้ยาก แต่พอเวลาผ่านมาจุดหนึ่ง ทุ่งฝนผ่าน 2 - 3 เวที ผ่านเวทีดูเพื่อน เห็นเพื่อน ก็เลยเกิดประเด็นว่าจะต้องทำอะไรจริงจังกันแล้ว น้องที่เป็นผู้ประสานงาน (น่าจะเป็นคุณอำนวยหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะผมไม่มีวิชาการ) ก็ติดต่อมาว่า ทีมงานชุมชนเขาเริ่มก่อตัว ก่อความคิดกันแล้ว หลังจากเวทีแรก ๆ เป็น เวทีจัดตั้ง ก็ มีอยู่หลายประเด็นเมือนกันจะค่อย ๆ เล่านะครับ ตามที่พอจะคิดได้และจะได้นำความคิดนี้ไปจัด เพราะผมได้ประสบการณ์จากเวทีของทางบ้านดุง เลยคิดว่าน่าจะเอามาใช้ได้
แผนใหญ่ ๆ น่าจะมี เวที 2 ระดับคือ เวทีระดับแกนนำกับเวทีในพื้นที่โดยมีแกนนำเป็นผู้ประสาน โดย
เวทีระดับแกนนำ จะมี
1.เวทีทำความชัดเจนใน “เครือข่าย”
2.เวทีสรุปและถอดบทเรียนประสบการณ์ เล่าสู่กันฟัง เรื่อย ๆ
เวทีในพื้นที่โดยมีแกนนำเป็นผู้ประสาน
1.สำรวจ/รวบรวม/จัดการ ข้อมูลแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ ในพื้นที่
2.เวทีโสเหล่ “ร่วมเรียนรู้และค้นหาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ”
3.ติดตามเก็บข้อมูลที่บ้านหมอพื้นบ้าน
4.เวทีโสเหล่ “แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพของชุมชนกับคนท้องถิ่น”
5.ติดตามเก็บข้อมูลที่บ้านหมอพื้นบ้าน (ข้อมูลอะไร-เขากลับไปทำอะไร คิดยังงัย)
บางเวทีผมก็ทิ้งคำถามแบบนี้
การกำหนดแผนการเคลื่อนงานของชมรมหมอพื้นบ้าน
วิเคราะห์ชมรมเราซิ
• สมาชิกและกรรมการทราบวัตถุประสงค์ของชมรมเราแล้วหรือยัง
• เรามีการการกำหนดกิจกรรมเหมาะสมแล้วหรือยัง
• เรามีวิธีการทันสมัยแล้วหรือยัง
• สมาชิกและกรรมการทราบบทบาทและหน้าที่มีความรับผิดชอบแล้วหรือยัง
• สมาชิกและกรรมการทราบกฎระเบียบและเห็นคุณค่าแล้วหรือยัง
• ส่งเสริมควบคุมให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ
• สมาชิกและกรรมการมีความเข้าใจกันและกันแล้วหรือยัง
• เรามีระบบการสื่อความที่ดีแล้วหรือยังเรามีความร่วมมือกันแล้วหรือยัง
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 1
กิจกรรม ทำอะไร
• 1.สำรวจ/รวบรวม/จัดการ ข้อมูลแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ ในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่
• (ค่าจ้างเหมาบันทึกข้อมูล วันละ 100 บาท / ผู้เก็บ 1 คน)
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
• หมอพื้นบ้าน
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• นำข้อมูลมาวางแผนการจัดการ จากการที่
• -หมอพื้นบ้านต่างคนต่างอยู่ / ขาดเป้าหมายร่วมกัน / ขาดคุณอำนวยในการชี้เป้า
• -แหล่งเรียนรู้หดหายไปตามสภาพ ตามเหตุปัจจัย โดยไม่มีการสนใจ (ไม่มีใครจุดประกาย)
• -สังคม ชุมชน ให้คุณค่าแก่ภูมิปัญญายังงัย (ดี / ไม่ดี)
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• สำรวจ/รวบรวม/วิเคราะห์
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 2
กิจกรรม ทำอะไร
• 2.เวทีโสเหล่ “ร่วมเรียนรู้และค้นหาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ”
• (จัดเป็นการประชุมมีค่าใช้จ่าย
• -ค่าอาหาร / อาหารว่าง
• -ค่าพาหนะ 50 – 100 บาท
• -ค่าตอบแทนวิทยากร
• (ภาครัฐ / ภาคประชาชน ชม.ละ300 บาท)
• -ค่าจัดทำเอกสาร)
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
• หมอพื้นบ้าน 10 คน
• อสม 10 คน
• จนท.สธ 5 คน
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• -หมอพื้นบ้านได้รู้จักกัน แล้วเกิดอะไรขึ้น
• ? เมื่อหมอพื้นบ้านมาเจอกัน เขาฝันอะไร แล้วเขากลับไปทำอะไร
• -คนอื่น ๆ นอกวงหมอพื้นบ้านได้เรียนรู้ร่วมไปกับตัวหมอพื้นบ้านเองที่ได้รู้จักกัน
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• เวทีพูดคุย เริ่มจากการแนะนำตัวแต่ละคน โดยหมอพื้นบ้านแนะนำว่าตนเองเชี่ยวชาญการปัวอะไรบ้าง ไม่ต้องลงลึกว่าใช้ยาอะไร วินิจฉัยอะไร เพราะบางคนอาจจะยังไม่พร้อมในการพบกันครั้งแรก
• จากนั้นแบ่งกลุ่มย่อย อาจจะเป็น2 – 3 กลุ่ม ให้มี อสม.,หมอพื้นบ้าน , เจ้าหน้าที่ กระจายกันแต่ละกลุ่มเท่าๆ กัน ตั้งประเด็นคำถาม (เน้นความคิดเห็นของหมอพื้นบ้าน)
• ประเด็น – หมอพื้นบ้านในพื้นที่ยังจำเป็นหรือไม่ เพราะอะไร ยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม
• ประเด็น – สถานการณ์ของหมอพื้นบ้านในพื้นที่ตอนนี้เป็นอย่างไร
• ประเด็น – แล้วหมอพื้นบ้านในพื้นที่คาดหวังว่าอยากให้เป็นอย่างไร
• ประเด็น – ถ้าจะให้เป็นอย่างนั้นแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง
• แล้วนัดประชุมคราวต่อไป
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 3
กิจกรรม ทำอะไร
• 3.ติดตามเก็บข้อมูลที่บ้านหมอพื้นบ้าน (ข้อมูลอะไร-เขากลับไปทำอะไร คิดยังงัย กับการที่ได้เจอกัน ) - ทำการบ้าน
• ค่าใช้จ่ายตาม 1
•
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
• หมอพื้นบ้าน 10 คน
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• -นำข้อมูลที่ได้มาเตรียมการเพื่อเล่าสู่กันฟังในเวทีโสเหล่ครั้งหน้า
• -เพื่อให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาคิดยังงัย เกิดประกายความต้องการอะไรบ้างมั้ย
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• สัมภาษณ์เชิงลึกในประเด็น
• -ไปโสเหล่กันแล้ว คิดว่ายังงัย
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 4
กิจกรรม ทำอะไร
• 4.เวทีโสเหล่ “แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพของชุมชนกับคนท้องถิ่น”
• ค่าใช้จ่ายตาม 2
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
• หมอพื้นบ้าน 10 คน
• อสม+กลุ่มแม่บ้าน 10 คน
• ตัวแทนเยาวชน 10 คน
• จนท.สธ 5 คน
• ผู้นำท้องถิ่น อปท 5 คน
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• -ได้ผลการโสเหล่ นำไปสู่การกำหนดบทบาทหน้าที่ ของแหล่งเรียนรู้
• -ได้ทราบว่าชุมชนให้คุณค่ากับ ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ อย่างไร
• -วางหลักการ บทบาท กิจกรรมของแหล่งเรียนรู้โดยชุมชน
• (คนอื่นคิดกับหมอพื้นบ้านยังงัย แล้วหมอพื้นบ้านเองทำอะไรต่อ หลังจากรู้ว่าเขาคิดยังงั้น)
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• เวทีพูดคุย เริ่มจาก
• เจ้าหน้าที่สรุปสถานการณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร มีกี่คน เชี่ยวชาญการปัวโรคอะไรบ้าง คร่าว ๆ ไปคุยอะไรกันมา แล้วคิดยังงัย อาจถอดคำพูดเจาะใจมาเป็นสีสันชีวิตชีวาของเวทีก็ได้
• ให้ความหมายของคำว่าแหล่งเรียนรู้ชุมชนให้ชัดเจนว่าไม่ได้หมายถึงโครงสร้าง อาคาร แต่เป็นแหล่งที่จะให้โอกาสแก่ผู้อื่นได้รู้จัก ได้ศึกษา อาจจะเป็นบ้านของหมอพื้นบ้านเอง
• จากนั้นแบ่งกลุ่มย่อย เป็น 4 กลุ่ม คือ ผู้นำท้องถิ่น+จนท.สธ , อสม.+ กลุ่มแม่บ้าน , กลุ่มเยาวชน , หมอพื้นบ้าน ตั้งประเด็นคำถาม
• ประเด็น – ตามความคิดของกลุ่ม คิดว่า หมอพื้นบ้านในชุมชน จะสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ได้หรือไม่ (เป็นการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มให้คุณค่ากับหมอพื้นบ้านอย่างไร)
• ประเด็น – ตามความคิดของกลุ่ม คิดว่า ถ้าเป็นได้ แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพของชุมชน ควรจะทำอะไรได้บ้าง
• ประเด็น – เมื่อคาดหวังอย่างนั้นแล้ว ตามความคิดของกลุ่ม คิดว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมได้ยังงัยบ้าง
• แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการโสเหล่
• (เจ้าหน้าที่ (คุณอำนวย) ติดตามผลจากการโสเหล่คราวนี้นำเข้าที่ประชุมของชุมชน
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 5
กิจกรรม ทำอะไร
• 5.ติดตามเก็บข้อมูลที่บ้านหมอพื้นบ้าน (ข้อมูลอะไร-เขากลับไปทำอะไร คิดยังงัย) - ทำการบ้าน
• ค่าใช้จ่ายตาม 1
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
• หมอพื้นบ้าน 10 คน
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• -นำข้อมูลที่ได้มาเตรียมการเพื่อเล่าสู่กันฟังในเวทีโสเหล่ครั้งหน้า
• -เพื่อให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาคิดยังงัย เกิดประกายความต้องการอะไรบ้างมั้ย
• -ล๊อบบี้บางคนไว้ก่อน
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• สัมภาษณ์เชิงลึกในประเด็น
• - คิดว่ายังงัยกับแหล่งเรียนรู้ คิดว่าจะทำได้มั้ย
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 6
กิจกรรม ทำอะไร
• 6.เวทีโสเหล่ “แลกเปลี่ยนเรียนรู้นำสู่การจัดตั้ง”
• ค่าใช้จ่ายตาม 2
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
• หมอพื้นบ้าน 10 คน
• อสม 10 คน
• จนท.สธ 5 คน
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• -หมอพื้นบ้านส่วนหนึ่ง เสนอตัวเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ เปิดตัวแหล่งเรียนรู้ ให้ภายในกลุ่มรู้จักกันดี ๆ ก่อน
• -แหล่งเรียนรู้เองได้เข้าใจในบทบาท หน้าที่
• -มีข้อมูลของแหล่งเรียนรู้ในรายละเอียดมากขึ้น
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• เวทีพูดคุย เริ่มจาก
• ผู้ประสานงานเครือข่ายสรุปบทบาท หน้าที่ ความต้องการของชุมชนที่มีต่อแหล่งเรียนรู้
• แยกเป็น 2 – 3 กลุ่มตามความเชี่ยวชาญ ถอดบทเรียนจากหมอพื้นบ้านแต่ละท่าน ในประเด็น
• -ความเชี่ยวชาญ
• -แนวทางการวินิจฉัย
• -แนวทางการรักษา / แผนการรักษา
• -ค่าครูคาย
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 7
กิจกรรม ทำอะไร
• 7.-ติดตามเก็บข้อมูลที่บ้านผู้นำชุมชน – ชาวบ้าน ได้รับผลกระทบอะไร
• -ติดตามข้อมูลที่บ้านหมอพื้นบ้านว่าได้รับผลกระทบอะไรบ้าง)
• ค่าใช้จ่ายตาม 1
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
• หมอพื้นบ้าน 10 คน
• ผู้นำชุมชน – ชาวบ้าน 10 คน
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• ผู้นำชุมชน – เรียนรู้และเข้าใจเครือข่าย
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• สัมภาษณ์เชิงลึกในประเด็น
• - ชุมชนได้รับผลกระทบอะไร
• - หมอพื้นบ้านได้รับผลกระทบอะไรบ้าง
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 8
กิจกรรม ทำอะไร
• 8.เวทีคืนความรู้สู่ชุมชน ตลาดนัดภาคีสุขภาพในพื้นที่
• ค่าใช้จ่ายตาม 2
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
• หมอพื้นบ้าน 10 คน
• อสม+กลุ่มแม่บ้าน 10 คน
• ตัวแทนเยาวชน 10 คน
• จนท.สธ 5 คน
• ผู้นำท้องถิ่น อปท 5 คน
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• - ให้เกิดภาคีเครือข่ายสุขภาพของชุมชน
• - ให้เกิดชมรมย่อย ๆ ในภาคี โดยมีโครงสร้างชัดเจน
• - เปิดประเด็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ของชุมชน
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• เวทีนำเสนอ สรุปงาน อาจจะมีการจัดตั้งเป็น ภาคีเครือข่ายสุขภาพของชุมชน โดยมีกลุ่มชมรมต่าง ๆ เช่น
• ชมรมหมอพื้นบ้าน มีการเลือกตั้ง คณะกรรมการและประธาน
• แยกกลุ่มประชุมในประเด็น ชมรม....... จะทำอะไรให้แก่ชุมชนได้บ้าง แล้วนำมานำเสนอ (ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไร)
• ข้อตกลงร่วมกันของชุมชน “ศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ของชุมชน”
9 เวทีสำหรับก่อตั้ง เคลื่อนงาน ประสานเพื่อน
เวทีที่ 9
กิจกรรม ทำอะไร
• 9.จัดทำแผนงานพัฒนาชมรมต่อไป
กลุ่มเป้าหมาย กับใคร
เพื่ออะไร / ความคาดหวัง
• พัฒนาองค์กร – ข้อบังคับชมรม – บทบาทหน้าที่ของกรรมการชมรม
ทำยังงัย / ลักษณะกิจกรรม
• ดูงาน
• ประชุมกลุ่มย่อย กำหนดทิศทาง การเคลื่อนงาน
การเติมพลังความรู้ให้แก่กรรมการชมรม (องค์ความรู้ใดบ้างที่กรรมการชมรมควรมี ใครควรทำในส่วนไหน 4 M)
• องค์ความรู้ในการจัดการด้านบุคลากร
• องค์ความรู้ในการบริหารจัดการ
• องค์ความรู้ในการจัดการด้านการเงินและงบประมาณ
• องค์ความรู้ในการจัดการด้านเครื่องไม้เครื่องมือ
7 ข้อเสนอกิจกรรมของชมรมเพื่อการเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม
• ประชุมเป็นประจำ
• คุณภาพบริการ
• คุณภาพวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
• การบอกรับสมาชิกเพิ่ม
• การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
• การจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน / ตลาดนัดสุขภาพพื้นบ้าน
• ศูนย์เรียนรู้การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
7 ข้อเสนอกิจกรรมของชมรมเพื่อการเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม
• ประชุมเป็นประจำ
• คุณภาพบริการ
• คุณภาพวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
• การบอกรับสมาชิกเพิ่ม
• การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
• การจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน / ตลาดนัดสุขภาพพื้นบ้าน
• ศูนย์เรียนรู้การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำอะไร
• คุณภาพบริการ
ทำทำไม
• มีแนวทางในการพัฒนาคุณภาพบริการเพื่อสร้างการยอมรับให้แก่ประชาชน
ทำยังงัย
• วางข้อกำหนดเบื้องต้น ถ้าหมอพื้นบ้านให้บริการแล้วให้แนบไปรษณียบัตรติดตามประสิทธิภาพการบริการให้แก่คนไข้ไปด้วย
• รับรู้ร่วมกัน หมอพื้นบ้านทุกคนร่วมรับรู้และ ทำร่วมกัน โดยทำตามข้อกำหนดนั้น
• ติดตามร่วมกัน ฝ่ายพัฒนาคุณภาพบริการ รวบรวมประมวลผล ทั้งคุณภาพและปริมาณ (โดยภาครัฐน่าจะเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และนำเข้าที่ประชุมกรรมการ)
ใครทำ/ถ้าจะทำต้องมีความรู้อะไร
• ฝ่ายติดตามและพัฒนาคุณภาพบริการ
7 ข้อเสนอกิจกรรมของชมรมเพื่อการเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม
• ประชุมเป็นประจำ
• คุณภาพบริการ
• คุณภาพวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
• การบอกรับสมาชิกเพิ่ม
• การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
• การจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน / ตลาดนัดสุขภาพพื้นบ้าน
• ศูนย์เรียนรู้การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำอะไร
• คุณภาพวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
ทำทำไม
• มีแนวทางในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างการยอมรับให้แก่ประชาชน
• (ประชาชนเชื่อในผลิตภัณฑ์ที่มีสติ๊กเกอร์ของชมรม)
• ชมรมมีข้อมูลการแจกจ่ายผลิตภัณฑ์ออกไปของสมาชิก
• มีข้อกำหนดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของชมรม
ทำยังงัย
• กำหนดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ว่าจะเอาขนาดไหน ยังงัย จะเอาแบบ อย.หรือแบบข้อกำหนดเบื้องต้น โดยชมรมจะออกสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ของชมรมให้
• สมาชิกซื้อสติ๊กเกอร์จากชมรมเพื่อไปติดที่ผลิตภัณฑ์ (ทำออกกี่ชิ้น ก็ติดสติ๊กเกอร์เท่านั้น)
• ชมรมวางแผนและออกติดตามคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของสมาชิกในท้องตลาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสร้างความเชื่อถือให้แก่ประชาชน
• นำผลการออกสติ๊กเกอร์เข้าวาระการประชุมทุกครั้ง
• ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ
ใครทำ/ถ้าจะทำต้องมีความรู้อะไร
• ฝ่ายติดตามคุณภาพผลิตภัณฑ์
7 ข้อเสนอกิจกรรมของชมรมเพื่อการเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม
• ประชุมเป็นประจำ
• คุณภาพบริการ
• คุณภาพวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
• การบอกรับสมาชิกเพิ่ม
• การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
• การจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน / ตลาดนัดสุขภาพพื้นบ้าน
• ศูนย์เรียนรู้การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำอะไร
• การบอกรับสมาชิกเพิ่ม
ทำทำไม
• เพื่อขยายสมาชิก
ทำยังงัย
• จัดทำบัตรสมาชิก
• กำหนดประเภทสมาชิก
• ผู้สมัครยื่นแบบสมัครสมาชิก
• ฝ่ายบอกรับสมาชิกออกสอบถามประชาชนและผู้นำชุมชนในพื้นที่ผู้สมัครเพื่อออกการรับรอง
• นำเข้าวาระการประชุมเพื่อการรับรองสมาชิก
• ออกบัตรสมาชิกให้แก่สมาชิกที่ผ่านการรับรอง ลงนามโดยประธานชมรม
ใครทำ/ถ้าจะทำต้องมีความรู้อะไร
• ฝ่ายบอกรับสมาชิก
7 ข้อเสนอกิจกรรมของชมรมเพื่อการเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม
• ประชุมเป็นประจำ
• คุณภาพบริการ
• คุณภาพวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
• การบอกรับสมาชิกเพิ่ม
• การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
• การจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน / ตลาดนัดสุขภาพพื้นบ้าน
• ศูนย์เรียนรู้การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำอะไร
• การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ทำทำไม
• เพื่อให้สมาชิกรู้เท่าทันสถานการณ์ปัจจุบัน
ทำยังงัย
• เตรียมข้อมูลจากฝ่ายคุณภาพบริการอย่างน้อยหกเดือน
• เตรียมข้อมูลจากฝ่ายคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างน้อยหกเดือน
• จัดทำเอกสาร สื่อเพื่อการนำเสนอ
• จัดเวทีประชุมสามัญใหญ่ เพื่อเตรียมการจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน
•
ใครทำ/ถ้าจะทำต้องมีความรู้อะไร
• ฝ่ายเลขา
7 ข้อเสนอกิจกรรมของชมรมเพื่อการเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม
• ประชุมเป็นประจำ
• คุณภาพบริการ
• คุณภาพวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
• การบอกรับสมาชิกเพิ่ม
• การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
• การจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน / ตลาดนัดสุขภาพพื้นบ้าน
• ศูนย์เรียนรู้การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำอะไร
• การจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน / ตลาดนัดสุขภาพพื้นบ้าน
ทำทำไม
• เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันสถานการณ์ปัจจุบันของการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำยังงัย
• นำข้อมูลจากเวทีแลกเปลี่ยนมาใช้
• จัดทำเอกสาร สื่อเพื่อการนำเสนอ
• ประสานงานกับท้องถิ่น (อบตสอ. พช) เพื่อการประชาสัมพันธ์โดยแจ้งวัตถุประสงค์ ลักษณะกิจกรรมให้พื้นที่ทราบ
• นำเสนอผลงานให้แก่ประชาชนเรียนรู้ร่วมกัน
ใครทำ/ถ้าจะทำต้องมีความรู้อะไร
• ฝ่ายเลขาและคณะทำงานจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน
7 ข้อเสนอกิจกรรมของชมรมเพื่อการเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม
• ประชุมเป็นประจำ
• คุณภาพบริการ
• คุณภาพวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
• การบอกรับสมาชิกเพิ่ม
• การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
• การจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน / ตลาดนัดสุขภาพพื้นบ้าน
• ศูนย์เรียนรู้การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำอะไร
• ศูนย์เรียนรู้การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำทำไม
• สร้างศรัทธา และปรับกระบวนทัศน์ของประชาชนให้เข้าถึงและเข้าใจระบบการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ทำยังงัย
• รวบรวมภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการความรู้ (TACIT -> EXPLICIT)
• ทำความเข้าใจกับภูมิปัญญาเกี่ยวกับการเป็นศูนย์เรียนรู้
• เติมความรู้ส่วนขาดเกี่ยวกับการเป็นศูนย์เรียนรู้ให้แก่ภูมิปัญญาท้องถิ่น
• ประสานงานกับท้องถิ่นเพื่อนำเข้าหลักสูตรท้องถิ่น
• นำเข้าวาระการประชุม
ใครทำ/ถ้าจะทำต้องมีความรู้อะไร
• ฝ่ายศูนย์เรียนรู้
ขอบคุณมากนะค่ะที่ช่วย ผลักดันซุกยู้ ทีมชมรมหมอพื้นบ้าน อ.ทุ่งฝน ถ้าจะไม่มีอะไรให้ดำเนินการรอ
ทีมทุ่งฝนฝากความหวังไว้กับหัวหน้าต้นนะค่ะ พร้อมจะร่วมมือเต็มที่
บาย