โรจน์
นาย โรจนศักดิ์ ทองคำเจริญ

แนะนำหนังสือ "ชีวประวัติของข้าพเจ้า"โดย มหาตมา คานธี


อาจารย์ กรุณา กุศลาสัย ผู้ที่เกิดร่วมสมัยของท่านพุทธทาส โดย เดินทางไปอยู่ที่อินเดีย(เดินเท้าไปร่วมกับ พระโลกกนาฏ) และ เชี่ยวชาญภาษาฮินดีอย่างยิ่ง ท่านพุทธทาส ยกย่องท่านอาจารย์กรุณาว่าเป็น "น้องชายโดยธรรม"

   

ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาผมไปเที่ยวที่หมู่เกาะสิมิลันดังในบันทึก ขับรถจากแม่สอดไปเที่ยวสิมิลัน ได้มีเวลาพักผ่อนและมีใจที่สงบจนอ่านหนังสือเล่มหนึ่งได้จบ เห็นว่าเป็นหนังสือดี เลยนำมาฝากกันครับ

 หนังสือดีที่แปลจากภาษาฮินดี โดย อาจารย์ กรุณา กุศลาสัย ผู้ที่เกิดร่วมสมัยของท่านพุทธทาส  โดย เดินทางไปอยู่ที่อินเดีย(เดินเท้าไปร่วมกับ พระโลกกนาฏ)  และ เชี่ยวชาญภาษาฮินดีอย่างยิ่ง  ท่านพุทธทาส ยกย่องท่านอาจารย์กรุณาว่าเป็น  "น้องชายโดยธรรม" และ ท่าน ว. วชิรเมธี พูดไว้ใน รายการธรรมาภิวัฒน์ ๑๗ มิ.ย. ๒๕๕๐ ได้ยกย่องว่าเป็น "ปราชญ์แห่งยุคที่คนพูดถึงน้อยเกินไป" 

  อาจารย์ ดร. กรุณา กุศลาสัย

 ผมอ่านแค่คำปรารภของหนังสือเล่มนี้ก็รู้สึกว่า ท่านผู้เขียนที่มีความมุ่งหวังให้ผู้อ่านโดยเฉพาะเยาวชนได้ศึกษาความรู้อันมีค่าจากหนังสือเล่มนี้ ดังคำพูดที่ว่า

"ข้าพเจ้าหวังว่า หนังสือเล่มนี้คงเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านโดยเฉพาะ เยาวชนและนักศึกษา หากอัตชีวประวัติเล่มนี้จะช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจบุคลิกภาพ แม้สักเพียงน้อยนิด ข้าพเจ้าก็จะถือว่าแรงกายแรงสมองที่ได้เสียไปในการแปลหนังสือเล่มนี้ โดยเฉพาะในระหว่างที่ต้องสูญเสียอิสรภาพนั้น (ท่านแปลหนังสือเล่มนี้ในเรือนจำ) ได้รับผลตอบแทนอย่างเกินค่า และตรงกันข้าม หากจะมีข้อขาดตกบกพร่องสิ่งไรปรากฏแกสายตาของท่านผู้อ่านบ้างก็ขอได้โปรดเข้าใจเถิดว่า เป็นความผิดพลาดของข้าพเจ้าคนเดียวและขอให้อภัยแก่ข้าพเจ้าด้วย"

 สรุปโดยคร่าวๆ

หนังสือเล่มนี้เล่าตั้งแต่วัยเด็กของมหาตมา คานธี จนถึงช่วงที่ท่านเข้าพรรค congress และจบลงก่อนที่ท่านเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ  การต่อสู้ งาน และ หลักคิดในแบบสัตยาเคราะห์/อหิงสา

ท่านมหาตมา คานธี เกิดในครอบครัวที่มี ศรัทธาแรงกล้าในศาสนาฮินดู โดยศรัทธานั้นนำมาซึ่ง จิตที่มั่นคง ยกตัวอย่างที่ท่านไปเรียนกฏหมายที่อังกฤษโดยตลอดหลายปีท่านไม่เคยทานเนื้อสัตว์ และเป็นมังสวิรัติจนตลอดชีวิต

ความดีของท่านมหาตมา คานธี มีความดีมากมายไม่สามารถพรรณาได้หมด แต่ที่ยกมาเป็นหัวข้อก็จุดที่ผมประทับใจ

ท่านเป็นคนที่ใฝ่รู้ และแนวคิดที่ได้มาส่วนหนึ่งได้จากการอ่าน และ คุณธรรมที่หล่อหลอมมาแต่เยาว์วัย ดังตอนหนึ่งในหนังสือเขียนถึง "อิทธิพลอันมหัศจรรย์ของหนังสือเล่มหนึ่ง" พูดถึงการได้อ่านหนังสือ unto the last และในหลายตอนพูดถึงการค้นคว้าตำราต่าง ๆ ทั้งทางวิชาการและทางศาสนาโดยเฉพาะ "คัมภีร์ภควคีตา" ซึ่งเป็นคัมภีร์ทางศาสนาฮินดู (ผมอ่านความเห็นท่านต่อคัมภีร์ คล้ายเหมือนหลักเกี่ยวกับการละวางกิเลส และ ประพฤติพรหมจรรย์)

นอกจากนี้ยังมีวาทะเด็นที่แสดงถึงความไฝ่รู้ "ข้าพเจ้าทดลองความจริง" ตัวอย่างเช่น ท่านทดลองวิถีชีวิตที่พึ่งตัวเองอย่างสมบูรณ์ โดยตั้งนิคมพึ่งตัวเอง เพื่อเรียนวิถีชีวิต ท่านกล่าวว่า ประชาชนที่จะต่อสู้เพื่ออิสรภาพได้ ต้องอยู่ได้ดีและพึ่งตัวเอง (ฟังดูเหมือนแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมาก) และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นผลงานการแปลอีกชิ้นของอาจารย์กรุณา 

ท่านเป็นคนที่กินอยู่ง่าย(สันโดษ) จุดหมายเพื่อจะทำประโยชน์ให้ผู้อื่นได้มากๆ ยกตัวอย่าง ท่านจะเดินทางด้วยรถไฟชั้น 3 และ การเดิน แต่งตัวด้วยผ้าเก่า ๆ คล้ายฤาษี และเสียสละทรัพย์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

ท่านเป็นผู้มีความคิดไม่เอนเอียง (อยู่บนหลักเหตุผล) ทุกครั้งที่เกิดกรณีปัญหา ท่านจะหาความจริงจากทุกฝ่ายเสมอ ยกตัวอย่าง "กรณีไร่คราม ที่มีชาวบ้านมาร้องเรียน ท่านออกเดินทางไป คุยกับข้าราชการ-พ่อค้าทุกฝ่าย-และชาวนา เพื่อเข้าใจสถานการณ์จริง"

ยึดมั่นในหลักการอย่างเหนียวแน่น  แน่วแน่นด้วยหลักอหิงสธรรม ไม่ใช้ความรุนแรง และใช้หลักสัตตยาเคราะห์ เช่น ยอมคิดคุกเมื่อไม่เห็นด้วยกับกฏหมายโดยไม่ขัดขืน แต่พอมีคนทำตามเป็นหมื่นแสนคนจนรัฐบาลรับไม่ไหวจนต้องยอมล้มเลิกกฏหมาย

สรุปแล้วหนังสือเล่มนี้ มีคุณค่าในเชิงคุณธรรมเป็นอย่างมาก อีกทั้งเรื่องราวน่าติดตามเป็นหนังสือดีที่ควรค่าแก่การศึกษาครับ

หมายเลขบันทึก: 170612เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2008 23:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะคุณหมอ

เคยอ่านพบค่ะ

ยิ่งได้รับประสบการณ์มากขึ้นเพียงใด ข้าพเจ้าก็ยิ่งพบมากขึ้นเพียงนั้นว่า ตัวเราเองเป็นต้นเหตุแห่งความสุขและความทุกข์ของเราเอง
The more experience I gather, the more I realize that man himself is the cause of his happiness as well as hismisery.

คุณกรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย แปลค่ะ 

 

สวัสดีครับ

P  คุณ Sasinanda ขอบคุณสำรับวาทะของอาจารย์ กรุณา

ผมมีวาทะดีๆ มาฝากครับ

" Happiness depends on what you  can give ,not what you can get "

" Man will ever remain imperfect, and it will be his part to try to be perfect "

                                                          M.K. Gandhi

"ความสุขของคนเราขึ้นอยู่กับการให้ มิใช่ขึ้นกับสิ่งที่ได้รับ"

"มนุษย์จะไม่มีวันสมบูรณ์ และสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการพัฒนาตนเพื่อสู่ความสมบูรณ์"

                                                        มหาตมา คานธี

มาอ่านและซึมซับ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณโรจน์

ชอบอ่านงานท่านมหาฯ ตั้งแต่ยังมัธยมค่ะ

... ชื่นชมค่ะ ชื่นชม โห ขับรถจากแม่สอด

ถึงสิมิลันเลยรึค่ะ ... ได้รับประกาศนียบัตร?คะ?

.... ชอบที่สุดก็

Simply Living, High Thinking

ขอบคุณค่ะ ...

สวัสดีครับ

 

 

คุณ จริยา ยินดีที่ชอบครับ ถ้าสนใจลองหาอ่านนะครับ ผมกล่าวถึงความดีของหนังสือไม่หมดจริง ๆ ครับ

 

 

คุณ poo  บังเอิญเป็นช่วงที่เพื่อนไปเที่ยว honeymoon แล้วก็เลยลงขันไปเที่ยวด้วยครับ (แต่ก็ไม่ได้เป็นก่างขวางคอเพื่อนนะครับ :)

สวัสดีค่ะ ดิฉันอ่านหนังสือ ของอาจารย์ 3 เล่ม ชอบทุกเล่มมากค่ะ พุทธจริต ชีวประวัติของข้าพเจ้า ชีวิตเลือกไม่ได้ และช่วงนี้พยายามหา และโทรศัพท์ไปที่สำนักพิมพ์หนังสือหลายเล่มของอาจารย์มาอ่านให้ได้มากที่สุด

ไม่ทราบว่าช่วงนี้อาจารย์ไปออกงานเกี่ยวหนังสือที่ไหนบ้างไหมค่ะ ดิฉันอยากจะไปกราบอาจารย์สักครั้ง ดิฉันปลื้มอาจารย์เป็นพิเศษ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

ผมก็ชื่นชมอาจารย์กรุณาเช่นกันครับ ท่านเขียนแต่สิ่งที่มีประโยชน์และเป็นข้อเท็จจริง

สวัสดีค่ะ

ชื่นชมหนังสือเล่มนี้เช่นกันค่ะ เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาตอนเรียนมัธยมค่ะ

ขอบคุณค่ะ..^_^...

อยากได้ให้ลูก อ่านนอกเวลา และ จะสอบ 24 ก.ค.นี้ หาซื้อได้ที่ไหนคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท