17: ตำรวจจับพระสงฆ์ปลอม ที่ บังกลาเทศ
เคยตั้งใจว่าจะไม่เล่าเรื่องอะไรที่เป็นไปในเชิงไม่สร้างสรรค์ และไม่ใช่เรื่องการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างชาวไทย และชาวบังกลาเทศ แต่เรื่องนี้ หากไม่นำมา เล่าสู่กันฟัง เห็นจะไม่ดีเป็นแน่ เพราะคนไทยที่มีจิตกุศล อาจจะโดนหลอกอีกได้
แณณและบอล ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคุณอดุลย์ ตั้งแต่ก่อนมาอยู่ที่นี่ จากการบอกเล่าของพี่ที่เคยออกประจำการที่กรุงธากา มาก่อน ว่า หากมาอยู่ที่นี่ พวกอาหารทะเล ไม่ต้องซื้อเยอะ เนื่องจาก จะมีคนไทยที่ประกอบธุรกิจประมงอยู่ที่เมืองจิตตะกอง นำอาหารทะเล มาแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงธากา เป็นประจำ
คุณอดุลย์ เป็นคนไทยที่ไปประกอบธุรกิจ ที่เมืองจิตตะกองมานานกว่า 20 ปีแล้ว คุณอดุลย์ ปฏิบัติหน้าที่คนไทยได้ดีมาก ให้ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงธากา อยู่เสมอ ท่านทูต ปรารภด้วยความเกรงใจอยู่บ่อยครั้งว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ประหยัดงบประมาณหลวง ส่วนของค่าใช้จ่าย ในการจัดงานเลี้ยงรับรองไปได้บ้าง ก็เนื่องจากได้อาหารทะเลที่คุณอดุลย์ส่งมาให้เป็นประจำ และคุณอดุลย์ ก็ไม่เคยมารบกวนอะไร จากสถานเอกอัครราชทูตฯ เป็นการตอบแทนเลย
ด้วยความที่อยู่มานาน คุณอดุลย์จึงรู้จักมักคุ้นกับเจ้าหน้าที่รัฐของเมืองจิตตะกองเป็นอย่างดี เมื่อวานตอนทานข้าวเที่ยงกันอยู่ สามีก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณอดุลย์ แจ้งข่าวเกี่ยวกับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองจิตตะกอง จับชาวบังกลาเทศ ที่ปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ แล้วนำของใช้ของพระสงฆ์ เช่นพวก เครื่องนุ่งห่ม บาตรพระ ฯลฯ ที่อ้างว่าได้รับบริจาคจากชาวพุทธ ในเมืองไทย มาขายที่เมืองจิตตะกอง โดยของเหล่านั้นได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า เนื่องจากพระปลอมเหล่านั้นแจ้งว่าเป็นของที่ได้รับการบริจาคมาจากชาวไทย ขนมาเป็นคอนเทนเน่อร์ใหญ่ๆ เพื่อนำมาบริจาคให้พระสงฆ์ที่เมืองจิตตะกองต่อไป
วันนี้ตอนเช้า สามีก็ได้รับการแจ้งยืนยันข้อมูลจากคุณอดุลย์เพิ่มเติมอีกว่า ตำรวจสรุปความได้ว่า พระปลอมมีทั้งสิ้น 12 คน ได้มาขอวีซ่าเดินทางไปประเทศไทย โดยไปอาศัยตามวัดต่างๆ ในเมืองไทย ขอรับของบริจาคจากชาวไทยซึ่งศรัทธาในพระพุทธศาสนา และต้องการทำบุญให้พระสงฆ์ที่ขาดแคลน ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น เช่น เครื่องนุ่งห่ม บาตรพระ เป็นต้น ได้รับของบริจาคมาเยอะเป็นคอนเทนเน่อร์ โดยได้รับการยกเว้นภาษีกับทางการบังกลาเทศตอนนำเข้า เสร็จแล้วก็นำไปขายให้กับพระสงฆ์ที่ขาดแคลน ที่เมืองจิตตะกอง สามีก็ขอบคุณ คุณอดุลย์ เป็นอย่างมาก ที่กรุณาแจ้งข่าว ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ฯ ก็จะได้เก็บข้อมูลและประวัติของมารศาสนาเหล่านี้ไว้ ต่อไปหากมาขอวีซ่าไปเมืองไทย จะได้ไม่ออกวีซ่าให้ไปหลอกคนไทยเรา ได้อีก
ได้ยินอย่างนี้แล้ว แณณและสามียิ่งต้องระวังเลยค่ะ เพราะเรากำลังจะนำผ้าไตร จีวร ที่พี่บุญรุ่งหรือพี่โยคีน้อยแห่ง go2know ไปช่วยบอกบุญ และรับบริจาคมามากมายนั้น ไปมอบให้พระที่เมืองจิตตะกอง ความคืบหน้าในขณะนี้กำลังรอการตอบกลับจากทางการบังกลาเทศเรื่องการขอยกเว้นภาษีนำเข้าอยู่
เอ... หรือว่าที่ช้า เพราะอาจจะมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นก็ได้ ฝ่ายบังกลาเทศจึงยังไม่ตอบเราเสียที
แต่การไปบริจาคของพวกเรานั้น มีพันธมิตร หลายฝ่ายค่ะ ทั้งคุณหนึ่ง ซึ่งอยู่ประจำการสำนักงานการบินไทยที่เมืองจิตตะกอง และเป็นผู้เล่าเรื่องพระขาดแคลนจีวรให้เราฟัง เมื่อครั้งที่ไปช่วยสามีปฏิบัติราชการที่เมืองจิตตะกอง
คุณอดุลย์ ซึ่งพอได้รับแจ้งเรื่องการจะไปบริจาคของเราในครั้งนี้ ก็ได้แสดงความยินดี ให้ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตไทย อย่างเต็มที่ กงสุลฝ่ายการพาณิชย์ของไทยที่เมืองจิตตะกอง ซึ่งได้รับทราบเรื่องคร่าวๆ แล้ว และกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยที่เมืองจิตตะกอง ซึ่งเรายังไม่ได้แจ้งอย่างเป็นทางการ จะแจ้งเมื่อได้รับการตอบกลับจากฝ่ายบังกลาเทศแล้ว และได้กำหนดวันที่จะเดินทางไปมอบของแล้ว
ในการเดินทางไปมอบของนั้น ท่านทูตก็รับปากแล้วว่าท่านจะเดินทางไปมอบด้วยตัวเอง ซึ่งก็เป็นความกรุณาของท่านทูตนะคะ เพราะอย่างที่ ท่านที่ได้ติดตามการบอกบุญครั้งนี้ คงทราบแล้วว่า โครงการนี้ไม่ได้มีการวางแผนกันไว้ก่อน และคนที่มาร่วมกันทำบุญนั้น (พี่พลเดช ผู้ให้คำปรึกษา พี่โยคีน้อยหรือคุณหมอบุญรุ่ง แณณและสามี ) ก็ไม่ได้รู้จักอะไรกันเลย มารู้จักกันก็ที่นี่ ที่ go2know แห่งนี้ค่ะ (ยกเว้นพี่พลเดช ซึ่งแณณเคยอบรมฯ และเคยทำงานในคณะกรรมการรุ่น SE 1 ด้วยกันมาก่อนแล้ว ตอนที่อยู่เมืองไทย)
ก็ต้องขอขอบพระคุณ คุณอดุลย์ เป็นอย่างสูงที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ของคนไทยที่ดี ให้ความร่วมมือกับทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงธากา เป็นอย่างดี อยู่เสมอ นี่ก็เป็นตัวอย่างของคนไทยคนหนึ่งที่สามารถมีส่วนร่วมช่วยงานของรัฐบาลได้อย่างแข็งขัน หากคนไทยที่อยู่ทั่วโลก ร่วมด้วยช่วยกัน ปฏิบัติหน้าที่คนไทย อย่างคุณอดุลย์แล้ว หล่ะก็ เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศต่างๆ ก็คงชื่นใจ
เมื่อวานนี้ สามีหอบถุงพลาสติกใหญ่ๆ ที่ภายในบรรจุ ของสดจำพวก ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า พริกขี้หนู กลับมาบ้าน บอกว่าได้มาจากคนไทยที่เคยเป็นข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจ ได้รับทราบถึงความลำบากของการหาวัตถุดิบมาปรุงอาหารของคนที่นี่ ช่วงนี้มีโอกาสมาออกงานแสดงสินค้าที่งาน Thai Exhibition 2008 จึงได้ขนเอาของพวกนี้มาให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย วันก่อนหน้านี้ เราก็ได้ทานปลาทูทอด และ ส้มตำ จากร้านอาหารไทย ที่นำมาแจกจ่ายให้บ้านละ 3-4 ตัว แบ่งๆ กันไป นี่หล่ะค่ะ น้ำใจคนไทยนะคะ
ทุกวันนี้ แณณและบอล (สามี) ก็รู้สึกดี กับการที่ต้องมาอยู่ในประเทศที่เรียกว่าเป็น Hardship Posting หรือประเทศที่มีความเป็นอยู่ลำบาก เราก็คิดได้ว่า แม้จะอยู่ในประเทศลำบากแต่ได้พบเจอ กับคนที่ดี ที่มีน้ำใจมากมาย ก็อาจจะดีกว่าการได้ไปอยู่ในที่ที่ เป็นแดนศิวิไลต์ แต่ อาจจะต้องเจอแต่คนใจแคบ แบบตัวใครตัว....(ท่าน) นะคะ....
คำกล่าวที่ว่า “ทุกสิ่งทุกอย่าง ในโลกนี้ย่อมมีสองด้านเสมอ” ก็แสนจะจริง ไม่มีใครที่จะเจอแต่อะไรแย่ๆ เสมอไปนะคะ
ว่าแต่ว่า แณณที่กำลังจะสอบไล่ภาษาฝรั่งเศสอยู่อีก 1-2 วัน นี้แล้ว ที่เป็นไข้ ไม่สบาย ก็ยังไม่หายดี แล้วนี่ดันมาเข้า go2know อีก เดี๋ยวหากไม่รีบไปทบทวนบทเรียน มีหวัง เจอสิ่งที่ไม่ดี คือการสอบตก ตามมาแน่ๆ เลยค่ะ ..ว่าแล้วก็ต้องรีบเผ่นแล้วดีกว่าค่ะ สวัสดีนะคะ .......
ประณยา จองบุญวัฒนา
11 มีนาคม 2551
ความเห็น (9)
- stardust มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งค่ะ ว่า
- คนไทยเวลาไปต่างแดน ส่วนใหญ่จะรักและสามัคคีกันดีค่ะ
- แต่ คนไทยที่อยู่ในประเทศไทยเอง
- กลับไม่ค่อยจะสามัคคีกันเท่าไหร่
- ส่วนใหญ่จะอยู่แบบ ตัวใคร ตัวท่าน อ่ะคะ
- เฮ้อออ..!!
สวัสดีค่ะ คุณ stardust
- ก็มีบางที่นะคะ ที่คนไทย ทะเลาะเบาะแว้งกันเอง จนเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมอยู่ต่างแดนก็มีค่ะ
- ตอนนี้ ทางบ้าน ได้ส่งกล้องดิจิตอลของเก่าที่น้องไม่ใช้แล้วมาให้ยืมใช้ไปก่อน แก้ขัด ค่ะ ช่วงที่กล้องหาย แณณก็ถ่ายรูปเก็บไว้ที่มือถือ
- แต่ตอนนี้มีกล้องแล้ว เดี๋ยวสอบเสร็จแล้ว หากได้เขียนอะไร จะนำรูปมาให้คุณ stardust ดูนะคะ
- แณณถ่ายรูปไม่เก่งหรอกค่ะ แต่ชอบถ่ายรูป ถ่ายไปเรื่อย ก็รูปไหนไม่ดีก็ลบทิ้งไปได้นี่นา ไม่เปลืองฟิล์มสักกะหน่อย
แณณ/บอล
เป็นข่าวที่สมควรแจ้งให้ทราบทั่วกัน ดีแล้วจ๊ะ
ได้ทราบข่าวเรื่องท่านทูตจะกรุณาไปมอบของด้วยตัวเองก็รู้สึกดี
สรุปคือพระปลอมเอาไปขายพระที่ยากจน
ดังนั้นวิธีการก็คือเราเอาไปบริจาคให้พระจริงหรือผ่านวัดที่แท้หรือหน่วยงานที่ดูแลวัด ก็จะช่วยให้ของที่บริจาคถึงมือพระจริง
เรื่องนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะได้ทำให้มีการตื่นตัวเรื่องพระจริงพระปลอม
แน่นอนว่าของปลอมนั้นคงมีน้อยกว่าของจริงและวันหนึ่งก็คงถูกขจัดไป
พระจริงขาดแคลนจริง น่าอนุโมทนาบุญของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ถือเป็นการสำรวจข้อมูลพุทธศาสนาในบังกลาเทศไปในตัว
แณณมีกล้องแล้ว จึงฝากคำสำคัญในการถ่ายภาพให้ดี หากทราบแล้วก็ขออภัย
1.สวยด้วยแสง (แสง-เงา)
2.แรงด้วยสี (สีสด สีตัดกัน)
3.ดีด้วยเรื่อง (มีข้อความสื่อในภาพ)
แล้วจะรู้ว่าการถ่ายภาพดิจิตัลทำให้มีความสุขไม่น้อยทีเดียว
พี่พลเดชคะ
- ขอบพระคุณที่ให้คำแนะนำที่ดีมาโดยตลอดค่ะ
- รู้แล้วก็รู้อีกได้นะคะ ผู้ใหญ่สอน แปลว่า เมตตา ยิ่งผู้ใหญ่ที่มักถ่อมตัวแบบพี่ ถือเป็นโชคดีที่พี่สอนแณณนะคะ
- เสียดายรูปในกล้องที่หายไปเพราะ มีรูปตอนไปวัดไทย และมีรูป ตามสถานที่ต่างๆ ของที่นี่ แบบแปลกๆ เยอะเลยค่ะ
- ขอโทษทีค่ะ ขอแก้ไขข้อมูลนิดนึงค่ะ ไม่ใช่วัดไทยนะคะ เป็นวัดพุทธ ในกรุงธากา ค่ะ
ดีใจที่มีความสุขกับงานและผู้คนที่บังคลาเทศค่ะ อยู่ที่ที่ลำบากเราจะเก่งและเฉียบแหลมในการแก้ปัญหาได้ดีนะคะ และที่ที่ลำบากเราจึงจะเห็นน้ำใจของผู้คนรอบข้าง
ขอให้สอบภาษาฝรั่งเศสได้ดีเยี่ยมนะคะ
สวัสดีค่ะพี่นุช
- ขอบคุณสำหรับ แง่คิดและมุมมองที่ดีนะคะ ส่วนผลสอบคงรออีก สองสามวัน จึงจะทราบผลค่ะ
- แณณอ่านหนังสือเตรียมตัวไปพอสมควรค่ะ หวังว่าน่าจะผ่านนะคะ เพราะถ้าไม่ผ่านไม่ได้เรียนชั้นต่อไป ต้องเรียนซ้ำชั้นค่ะ
อาตมาได้รับการบอกเล่าเรื่องกลุ่มพระ-เณรจริงมั้งปลอมมั้ง ที่มาอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่านไปสู่ประเทศที่สามเพื่อหางานทำ ทำนองนี้หลายปีแล้ว... โดยกลุ่มนี้มักจะอ้างการศึกษาเพื่อเข้ามาพักในประเทศไทย แต่มิได้มาเพื่อศึกษาจริงๆ (แต่พระ-เณรแท้ๆ ที่ตั้งใจมาศึกษาเล่าเรียนจริงๆ ก็มี)...
ในโลกปัจจุบัน ถ้าเราเห็นพระ-เณรเดินออกจากร้านเน็ตดึกๆ (เช่น แถวหาดใหญ่) ลองเข้าไปถามดูก็ได้ อาจพูดภาษาไทยไม่ชัด ก็คือกลุ่มพระ-เณรทำนองนี้ นี้เอง...
นี้ก็ประเด็นปัญหาอย่างหนึ่ง ซึ่งมีผู้หยั่งเห็นซึ่งภัยที่เกิดจากปัญหานี้ค่อนข้างน้อย โดยมากมักจะไม่ใส่ใจ เมื่อยังไม่มีเหตุใหญ่เกิดขึ้น...
เจริญพร
นมัสการ เจ้าค่ะ หลวงพี่ BM.chaiwut
- แณณให้ความสำคัญกับมาตรการที่ป้องกันปัญหา (Preventive measure) มากกว่า การมาตามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะนั่นหมายความว่า ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว หากสามารถทำให้ไม่เกิดความเสียหายใดๆ ได้ ก็ย่อมจะเป็นการดีว่า แน่นอน นะเจ้าคะ
- กราบขอบพระคุณที่หลวงพี่กรุณาแวะมา เจ้าค่ะ