เมื่อกล่าวถึงกล้องจุลทรรศน์หลายๆท่านอาจไม่ค่อยจะได้ใช้ เนื่องจากไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับอะไรที่ต้องขยายให้เห็นรายละเอียด
แต่ถ้ากล่าวถึงกล้องถ่ายรูปกระผมคิดว่าคงมีน้อยคนที่ไม่เคยใช้โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีกล้องดิจิตอลออกมาวางจำหน่ายมากมายหลายรุ่นหลายราคาตามศักยภาพ
แล้วถ้าจะจับกล้องทั้งสองประเภทมาชนกัน หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องจับมาชนกัน ไม่กลัวว่ากล้องจะเสียเหรอ
กระผมก็ขอยืนยันครับว่าถ้าจับมาชนกันอย่างมีเทคนิคจะทำให้เราสามารถเก็บภาพสิ่งที่เรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น โดยเราสามารถบันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวตามความต้องการ
จากนั้นเราก็สามารถนำภาพที่ได้ไปใช้ทำสื่อการเรียนการสอนให้กับนักเรียนหรือผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ ซึ่งถ้ามีคนช่วยกันทำเยอะๆ ประเทศหรือโลกของเราก็จะได้มีสื่อการเรียนรู้สิ่งต่างๆที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเยอะตามไปด้วยจริงหรือเปล่าครับ
สำหรับการบันทึกภาพก็ไม่ยากครับ แต่ต้องเป็นกล้องดิจิตอลครับ ทำไมหนะเหรอครับ ก็เพราะว่ากล้องดิจิตอลมีเลนส์หน้ากล้องที่มีขนาดเล็กใกล้เคียงกับเลนส์ตาของกล้องจุลทรรศน์ครับ นอกจากนั้นหากถ่ายแล้วไม่สวยเราก็สามารถลบทิ้งได้จริงหรือเปล่าครับ ไม่ต้องเปลืองฟิล์มดีจังเลยครับ
แต่เคยมีข่าวว่าข้อดีที่ถ่ายผิดหรือไม่สวยแล้วลบทิ้งง่ายกลายเป็นการสร้างนิสัยที่ว่าถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนหรือทิ้งง่ายๆด้วย เรื่องนี้กระผมก็คิดว่าอาจมีผลบ้างไม่มากก็น้อยจริงหรือเปล่าครับ
เมื่อมีกล้องถ่ายรูปดิจิตอลแล้ว
เราก็มาเตรียมกล้องจุลทรรศน์ให้พร้อมโดยนำตัวอย่างที่จะศึกษามาส่องดูจนกระทั่งเจอภาพที่เราต้องการ
จากนั้นก็เปิดกล้องถ่ายรูปแต่ให้ปิดแฟล็ตในกรณีถ่ายภาพนิ่ง เพราะถ้าเราถ่ายแบบเปิดแฟล็ตแสงจะสะท้อนเข้ามาที่กล้องทำให้ภาพที่ได้มืดสนิทเลยครับ
ส่วนกรณีถ่ายภาพเคลื่อนไหวก็ให้เลือกโหมดถ่ายภาพวีดีโอจากนั้นก็กดบันทึกภาพตามความต้องการเลยครับ(แต่ควรบันทึกเป็นช่วงๆระยะเวลาประมาณ10-30 วินาทีครับ เพื่อนำไปทำสื่อจะได้ดูไม่ซ้ำภาพนานเกินไปครับ)
หากต้องถ่ายนานๆ ขอแนะนำให้ใช้ขาตั้งกล้องมาช่วยถือแทนจะได้ไม่เมื่อยมือครับ
เมื่อได้ภาพมาแล้ว ก็แล้วแต่ครับว่าจะนำไปตัดต่อเพิ่มเติมเนื้อหาหรือจะนำไปประกอบการบรรยายตามความถนัดครับ หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถสอบถามได้ที่นี่ครับ [email protected] หรือ 0899778987