ปฏิญญาสากลของท่านศาสนามูฮัมมัด(ซ.ล)

เมื่อท่านได้ปกตรองนครมาดีนะฮ์ ซึ่งท่านเป็นผู้นำทั้งทางศาสนาและการเมืองการปกครอง ท่านได้เริ่มจัดให้มีธรรมนูญ(กฎบัตร)การปกครองนครมาดีนะฮ์ขึ้น ถือเป็นธรรมนูญฉบับแรกแห่งการปกครองแบบอิสลามซึ่งถือได้ว่าท่านเป็นนักปกครองที่เป็นประขาธิปไตยโดยแท้ และเนื้อหาสาระของปฏิญญาฉบับนี้ได้ถูกกล่าวขานกันอย่างกกว้างขวาง ในฐานะที่เป็นมุสลิมขอนำธรรมนูญของท่านศาสดามูฮัมมัด(ซ.ล) มานำเสนอเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจร่วมกัน

           ธรรมนูญนี้ประกาศใช้ที่นครมาดีนะฮ์ ซาอุดิอารเบีย ฮิจเราะห์ศักราชที่ 6 แห่งศักราชอิสลามเมื่อท่านศาสดามูฮัมมัด(ซอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม)"ขอความสันติสุขความโปรดปราณความจำเริญจากพระผู้เป็นเจ้าพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)จงมีแด่ท่านครอบครัวของท่านเชื้อสายวงค์วารของท่านตลอดจนบรรดาซอฮาบะฮ์ สาวกของท่านและผู้ที่เจริญรอยตามแบบอย่างทางนำของท่าน"ธรรมนูญนี้ประกาศไว้ ณ นครมาดีนะฮ์ ฮิยเราะห์ศักราชอิสลามที่ 6 มีครอบคลุมนครมาดีนะฮ์ และมีไปยังนักบวชคณะเซ็นต์คาเทอรีน(ใกล้เขาซีนาย) และมีไปยังมวลคริสตชนทั้งหลาย ดังนี้ " ผู้ปกครองแห่งนครมะดีนะฮ์ ขอรับรองสิทธิ ทรัพย์สินและการยกเว้นภาษีอากรแก่ศาสนสมบัติ ซึ่งอยู่ในครอบครองของศาสนานั้นๆ แม้นมุสลิมผู้ใดประพฤติฝ่าฝืนต่อกฏบัตรจะถือว่ามุสลิมผู้นั้นเป็นผู้ละเมิดต่อกฏบัตร และย่อมจะต้องได้รับโทษอย่างหนัก เรา"มูฮัมมัด"ผู้เป็นรอซูล(ผู้สื่อ) ของพระผู้เป็นเจ้าและคณะจะได้ร่วมมือร่วมใจกันอย่างเป็นเอกภาพ ในการที่จะช่วยเหลือกันพิทักษ์คริสตชน ป้องกันโบสถ์ วิหาร สำนักและที่พักของบรรดานักบวช เราจะให้การอารักขา และสร้างความปลอดภัยจากเหตุประทุษร้ายทุกอย่าง มวลคริสตชนจะไม่ถูกเก็บภาษีอากรที่ไม่เป็นธรรม สังฆราช และนักบวชจะไม่ถูกกดขี่ขับไล่ออกไปจากอาราม ผู้เดินทางที่ประสงค์จะเข้าไปกระทำพิธีสักการะจะไม่ถูกกีดกัน และกลั่นแกล้ง บรรดาโบสถ์วิหารของคริสต์ศาสนาจะไม่ถูกรื้อทำลายเพื่อดัดแปลงมาทำเป็นมัสญิด หรือเป็นบ้านเรือนของมุสลิม หากหญิงชาวคริสต์ปรารถนาจะสมรสกับมุสลิมก็จะไม่เป็นที่หวงห้าม ประชากรทั้งหลายของฉันจะไม่ถูกกดขี่ข่มเหงด้วยประการทั้งปวงในเรื่องของศาสนา หากชาวคริสต์มีความจำเป็นจะขอความช่วยเหลือในธุรกิจแล้วไซร้ มุสลิมก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือจนสุดความสามารถ มุสลิมจะไม่ถืออาฆาตจองเวรต่อบรรดาชาวคริสต์ที่ตั้งรกรากอยู่ในหมู่มุสลิม และคริสตชนจะไม่ถูกดูหมิ่นดูแคลน หรือเหยียดหยาม ในหลักศาสนาเป็นอันขาด" นี่เป็นธรรมนูญฉบับแรกที่ประกาศใช้เมื่อ 1,400 ปีมาแล้ว และมีต่อจากนี้อีกหลายฉบับ มีก่อนที่จะมีกฎบัตรแห่งสหประชาชาติเสียอีก เราในฐานะประชาชาติมุสลิมชื่นชมจริยวัตรของท่านศาสดามูฮัมมัด(ซ.ล)มากและน่าจะชัดเจนว่าในอิสลามรักและหวงแหนประชาธิปไตยเพียงใด นอกจากนี้ท่านศาสดายังมีวจนะว่า "หลักสำคัญในการปฏิบัติตนที่ศาสนาสอนคือ บุคคลที่ดีที่สุดคือบุคคลที่ทำประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์มากที่สุด"