ชื่อบันทึกนี้เป็นชื่องานสัมมนาที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 -7 มีนาคม 2551 ณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผมได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่คุณอำนวยในกลุ่มย่อย ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ "เกษตรผสมผสาน...ฐานเกษตรยั่งยืน" ในช่วงภาคบ่ายของวันที่ 6 มีนาคม 2551 ซึ่งเป็นวันเปิดการสัมมนา ในภาคเช้าท่านผู้ว่า ฯ วิชม ทองสงค์ เป็นประธานเปิดงาน และบรรยายพิเศษในหัวข้อ "วิถีชีวิตแห่งความพอเพียง สู่การบูรณาการเพื่อความมั่นคง" และแน่นอนครับการบรรยายของท่านผู้ว่า ฯ มีคุณค่ายิ่งได้รับฟังแล้วได้ความรู้และแง่คิดเพิ่มขึ้นมากมาย หลังจากท่านผู้ว่าบรรยายพิเศษจบ เป็นการเปิดมุมมองช่องทางทำมาหากิน "เศรษฐกิจชุมชนของคนอำเภอพระพรหม" โดยท่านนายอำเภอพระพรหม ปลัด อบต.ทั้ง 4 ตำบลของอำเภอพระพรหม ดำเนินการโดยคุณสมโภชณ์ นาคกล่อม สถาบันเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข
ถึงภาคบ่าย เป็นอีกครั้งหนึ่งครับที่ผมได้รับเกียรติ ให้ทำหน้าที่คุณอำนวย และยอมรับว่ากระบวนการจัดการความรู้หรือ KM ช่วยให้ความรู้ฝังลึกในตัวคนไหลออกมาเยอะจริง ๆ เสียดายที่ไม่ได้ไปเยี่ยมกลุ่มย่อยอื่น ๆ แต่ทราบว่ามีรสชาดทุกกลุ่ม ตลาดนัดการจัดการความรู้ครั้งนี้ จัดกลุ่มย่อย 8 กลุ่ม แต่ละกลุ่มก็มีผู้สำเร็จในการใช้ชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียงทั้งนั้น ทั้งด้านอาชีพเกษตร การออม สภาชุมชน เป็นเรื่องน่าสนใจทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีจังหวะได้ไปเยี่ยมกลุ่มอื่น ๆ เพียงแต่ได้เห็นภาพถ่ายที่คนอื่นเอามาให้ดู
(บรรยากาศกลุ่มย่อยอื่น ๆ ที่เขาเอารูปมาฝากให้ดู)
สำหรับในกลุ่มที่ผม ทำหน้าที่คุณอำนวย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่อง "เกษตรผสมผสาน...ฐานเกษตรยั่งยืน" (ภาพแรก ภาพสอง) ผู้เล่าล้วนเป็นผู้สำเร็จการอาชีพเกษตรผสมผสาน ในการดำรงชีพของครอบครัวลงทุนน้อยมาก ลุงช่วง สิงโหพล จากตำบลช้างซ้าย อำเภอพระพรหม ผู้ไม่ทำอย่างเดียว ทำมากอย่างแต่ไม่มากจำนวน พี่พงศ์สวัสดิ์ เจือบุญ ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง ทำนา 50 ไร่ เลี้ยงวัวด้วยแต่ไม่ต้องจ้างแรงงาน ทำคนเดียวทำได้อย่างไร คุณเหียบ มาศเสน จากตำบลนาพรุ อำเภอพระพรหม ผู้รอดพ้นจากปัญหามะนาวเหี่ยวแห้งด้วยภูมิปัญญาและผลการทดสอบ ทดลอง น้องสมชาติ จากอำเภอชะอวด ผู้ไม่มีเป้าหมายเป็นผู้เล่า แต่ได้รับเกียรติเนื่องจากเดินทางมาไกล เล่าเพื่อทำความรู้จักกัน ตอนแรกก็ไม่ค่อยยอมเล่า แต่เมื่อเห็นบรรยายกาศแบบพูดคุยธรรมดาจึงยอมเล่าเรื่องชีวิตและอาชีพ และก็พบว่าเพื่อนที่มาจากตำบลชะอวดผู้นี้ที่มีที่ทำกินเป็นดินทราย จะปลูกผักปลูกพืชนั้นขึ้นลำบาก แต่น้องสมชาติก็ผ่านตรงนี้มาได้ ด้วยการเรียนรู้จากที่อื่น และนำไปปรับปรุงให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนจนสามารถยึดอาชีพปลูกผักขายได้ ปัญหาที่น้องสมชาติมีทุกคนในวงเรียนรู้ต่างช่วยกันแนะนำ ทำให้ทุกคนมีความมั่นใจในวงเรียนรู้ต่างพลัดเปลี่ยนกันเล่าตามที่ผมกระตุ้น
องค์ความรู้ ภูมิปัญญา ปัญหาต่าง ๆ พรั่งพรูไหลออกมา และทุกคนช่วยกันแก้ให้เพื่อน "เพื่อนช่วยเพื่อน" ในส่วนที่เป็นปัญหา ทุกคนเริ่มมีความคุ้นเคยและสนุกสนานกับการได้เพื่อนใหม่ ความรู้ใหม่ ทุกคนในวง เรียนรู้ว่าเรื่องของการวางแผน โดยนำธรรมชาติฤดูกาลมาพิจารณา ความเป็นตนของตนเอง สิ่งที่ทดแทนที่เป็นตัวเงิน เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการทำเกษตรแบบผสมผสาน ทำอย่างไรให้หลายอย่างผสมและผสานกันให้เป็นฐานแห่งเกษตรยั่งยืน เวลาเป็นอุปสรรค เมื่อถึงช่วง AAR ทุกคนเสียดายเพราะยังอยากบริโภคความสุขแห่งการแลกเปลี่ยนกัน ทุกคนเดินไปที่กระดานเขียนหมายเลขโทรศัพท์เป็นการทิ้งรอยก่อนจากต่อท้ายชื่อที่เขียนไว้ก่อนแล้วตอนแนะนำตัว มีโอกาสจะมาเจอกันใหม่ วันนี้ลาก่อน
สวัสดีครับ คุณบัวปริ่มน้ำ
สวัสดีครับ พี่วิทย์
สวัสดี น้องตุก
สวัสดีครับ น้องปลาเค็ม
เวทีอย่างนี้จะเจอบ่อย ถ้าหากในวงเรียนรู้จำนวนคนไม่มากเกินไป กลุ่มละ 10-15 คน กำลังดี เพราะได้มีโอกาสพูดแสดงความรู้สึกกันทุกคน แต่ถ้าผู้เล่าน้อยคยฟังเยอะจะเหมือนกับการอบรมครับ
ขอบคุณที่มาเยี่ยม ช่วงหลัง ๆ นี้ไม่ค่อยได้บันทึกเลยครับ
สวัสดีครับ น้องปลาเค็ม